โพลตอกย้ำอีก ‘วิกฤติโคโรนา’ รัฐต้องชัดเจน


เพิ่มเพื่อน    

  โพลระบุคนไม่รับสิ่งที่นายกฯ พูดเพราะขาดข้อมูลที่ดี ไม่ตอบโจทย์ แนะควรลดบทบาทของทีมงานโฆษกรัฐบาลลงในช่วงวิกฤติศรัทธา เพราะไม่ใช่กลุ่มคนที่ประชาชนเชื่อถือ จุก! ชาวบ้านค่อนประเทศหาหน้ากากไม่เจอ เชื่อเพราะมีการกักตุน

    ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ทำไมคนไม่รับสิ่งที่นายกฯ พูด กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,306 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 9-13 มีนาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา
    เมื่อสอบถามถึงสาเหตุว่าทำไมคนไม่รับสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูด พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.9 ระบุขาดข้อมูลที่ดี ไม่ตอบโจทย์ประชาชน รองลงมาคือร้อยละ 50.6 ระบุไม่ถามประชาชนก่อน,  ร้อยละ 34.7 ระบุทีมงานข้อมูล ทีมโฆษกรัฐบาลขัดแย้งกันภายใน และร้อยละ 5.2 อื่นๆ เช่น พูดเยอะ หลายเรื่องสับสน ฟังไม่ชัด พูดเร็วรัวไป และเป็นเพราะสื่อมวลชน เป็นต้น
    ที่น่าเป็นห่วงคือ ผลกระทบจากทีมงานข้อมูล ทีมโฆษกรัฐบาลต่อภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 60.5 ระบุกระทบภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีค่อนข้างมากถึง มากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 39.5 ระบุกระทบค่อนข้างน้อยถึงไม่กระทบเลย
    ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.8 ระบุควรเปลี่ยนทีมงานข้อมูล ทีมโฆษกรัฐบาล ในขณะที่ร้อยละ 23.2 ระบุควรทำงานต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงความรู้สึกและความเห็นต่อนายกรัฐมนตรี พบว่า เกือบ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 31.8 สงสารนายกรัฐมนตรี เห็นว่าเหนื่อยแต่ควรทำงานต่อไป ในขณะที่ร้อยละ 55.3 เห็นว่าควรปรับคณะรัฐมนตรี และร้อยละ 12.9 ระบุอื่นๆ
    ผอ.ซูเปอร์โพลกล่าวว่า จากการเกาะติดกับความเห็นของประชาชนมาตลอด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่สับสนกับข้อมูลที่ซ้ำเติมความตื่นตระหนกในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังนั้น เพื่อดึงความเชื่อมั่นและวางใจต่อนายกรัฐมนตรี รัฐบาลควรลดบทบาทของทีมงานโฆษกรัฐบาลลงในช่วงวิกฤติศรัทธาเวลานี้ เพราะทีมงานโฆษกรัฐบาลไม่ใช่กลุ่มคนที่ประชาชนเชื่อถือ แต่ควรนำคณะบุคคลที่น่าเชื่อถือของประชาชนออกมาพูดในแต่ละเรื่องที่เชี่ยวชาญ พูดแล้วประชาชนวางใจ ทั้งในเรื่องโควิด-19 ปัญหาภัยแล้ง และปัญหาปากท้องของประชาชน ไม่ควรเยอะ แต่ทำเฉพาะเรื่องสำคัญๆ
    กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “วิกฤตการณ์ ตามหาหน้ากากอนามัย” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,199 คน
    พบว่า    ประชาชนร้อยละ 42.7 ระบุว่าปัจจุบันหาซื้อหน้ากากอนามัยไม่ได้เลย รองลงมาร้อยละ 23.2 ระบุว่าหาซื้อได้ยากถึงยากที่สุด ต้องตระเวนหาหลายร้าน หลายจุด และร้อยละ 14.8 ระบุว่าพอหาซื้อได้บ้าง ต้องซื้อ ณ จุด/ร้าน ที่รัฐประกาศขาย
    ส่วนความเห็นต่อการจัดการปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลน โดยภาครัฐนั้น ประชาชนร้อยละ 58.0 เห็นว่าอาจเกิดการกักตุนหน้ากากอนามัย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทุนเก็งกำไร รองลงมาร้อยละ 53.8 เห็นว่าขาดการกระจายสินค้าไปยังร้านค้าปลีก ร้านค้าส่งต่างๆ ทั่วประเทศ และร้อยละ 32.3 เห็นว่าระบบการจัดการ อาจกระทบต่อการสาธารณสุข/การรักษาทางการแพทย์
    ทั้งนี้ เมื่อให้วัดระดับความกังวลถึงผลกระทบต่างๆ หากขาดแคลนหน้ากากอนามัย จากเต็ม 5 พบว่าประชาชนกังวลว่าจะกระทบต่อการแพทย์ สาธารณสุข การรักษาพยาบาล สูงที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.87 ซึ่งอยู่ในระดับ “มาก” รองลงมากังวลว่าจะส่งผลกระทบให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.83 ซึ่งอยู่ในระดับ “มาก” และจะส่งผลกระทบให้หน้ากากอนามัยมีราคาสูง/หาซื้อไม่ได้/ผู้มีรายได้น้อยเข้าไม่ถึงโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.80 ซึ่งอยู่ในระดับ “มาก”
    สำหรับสิ่งที่รัฐบาลควรแสดงบทบาทต่อแผนการจัดการหน้ากากอนามัย พบว่าประชาชนร้อยละ 56.4 ระบุว่ารัฐบาลควรปรับเปลี่ยนให้ผู้มีความรู้ความสามารถมาบริหารจัดการแทน รองลงมาร้อยละ 52.6 ระบุว่าให้ลงโทษผู้กักตุนหน้ากากอนามัยด้วยโทษสถานหนัก และร้อยละ 45.4 ระบุว่านายกรัฐมนตรีควรลงมาดูและแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ไม่ควรเชื่อเพียงการรายงาน
    น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวว่า หลังจากตนได้เปิดเว็บไซต์ h ttp://onntipanan.com/mask เป็นสื่อกลางรับบริจาคหน้ากากอนามัยแบบผ้าจากผู้มีจิตศรัทธา เพื่อส่งต่อให้กับพี่น้องประชาชน โดยล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนขอรับบริจาคหน้ากากอนามัยทั้งสิ้น 8,042 คน จากเขตพื้นที่จอมทอง 80%, ธนบุรี 20% โดยตอนแรกตั้งใจที่จะส่งแบบลงทะเบียนผ่านทางไปรษณีย์ไทยเพื่อไม่ให้มีการตกหล่น แต่ทางไปรษณีย์ไทยคิดค่าส่ง 16 บาท/ชิ้น ในราคาปกติ เนื่องจากไปรษณีย์ไทยยังไม่มีระเบียบมาตรการในการช่วยเหลือในสถานการณ์เช่นนี้
    "แต่ในสถานการณ์วิกฤติเราต้องการความรวดเร็ว เพราะความทุกข์ของประชาชน และการช่วยเหลือให้ประชาชนป้องกันตนเองรอไม่ได้ ตนจึงได้ประสานร่วมมือกับ "เคลมดิ" เพื่อกระจายหน้ากากอนามัยแบบผ้าส่งไปยังประชาชนที่ลงทะเบียนได้อย่างรวดเร็ว โดย "เคลมดิ" ไม่คิดค่าบริการในการจัดส่งแต่อย่างใด ถือเป็นการให้บริการแบบจิตอาสา เพราะมีพนักงานที่วิ่งบริการในเขตอยู่แล้ว จึงเห็นความสำคัญและเร่งด่วนในการจัดส่งหน้ากากอนามัย ซึ่งได้ร่วมกับทีมงาน “ให้อ้นดูแล” และจะส่งถึงหน้าบ้านให้ครบภายใน 2 วันนี้"
    รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐกล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันมีคนดังเปิดเผยผลตรวจร่างกายของตนเองว่าติดเชื้อโควิด-19 นี้ ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม เป็นการใช้ช่องทางโซเชียลฯ เพื่อแจ้งข่าวไปยังผู้ที่เคยสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าผู้ที่เคยสัมผัสใกล้ชิดจะติดเชื้อทุกคน แต่ก็ต้องเฝ้าสังเกตอาการอยู่ในที่พักอาศัยของตนเอง ไม่ออกไปในที่ชุมชน ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และอยากให้เรียกร้องให้ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยมีสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมเช่นนี้ อย่าปกปิดข้อมูล ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นต้นตอของการแพร่กระจายเชื้อ หรือซูเปอร์สเปรดเดอร์ ที่สำคัญคือการดูแลตนเอง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ ก็จะช่วยให้ปลอดภัยจากชื้อไวรัสได้ รวมทั้งรับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1442 เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือในการสร้างความวุ่นวายให้กับสังคมและมิจฉาชีพ ที่แฝงตัวเข้ามาฉวยโอกาสในสถานการณ์วิกฤติ
    "ชื่นชมทุกฝ่ายที่ช่วยกันแก้ไขปัญหา ตามกำลังของตนเอง ทั้งกำลังกาย กำลังใจและกำลังทรัพย์ ไม่ใช่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ดีแต่พูดฉวยโอกาสสถานการณ์กล่าวโทษกันไปมา ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเคลื่อนไหวเรียกร้องทางการเมืองหรือกล่าวโทษใคร สุขภาพของประชาชนต้องมาก่อน" รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว
    สุนิสา พุ่มแจ่ม ผู้ลงทะเบียนรับหน้ากากฟรีบนเว็บ กล่าวว่า ขอบคุณที่จัดกิจกรรมดีๆ เช่นนี้ เป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยในการดูแลตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการป้องกันเชื้อไวรัส และอยากฝากถึงทุกฝ่ายให้หันมาช่วยกันแก้ปัญหา ให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จบลงโดยเร็ว ไม่ใช่ไปเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมาย แก้ไขรัฐธรรมนูญอะไรตอนนี้ ที่ต้องช่วยกันคือแก้ไขปัญหาสุขภาพให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"