หนุ่มซิ่งปิกอัพฝ่าสายฝนมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เสียหลักพุ่งข้ามเกาะชนประสานงากับรถเก๋งที่วิ่งสวนทางมา ผลตาย 3 ศพ รวมทั้งเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย สาหัสอีก 4 คน
    เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 15 มีนาคมนี้ พ.ต.ท.กิตติพศ ชำนาญเท สว. (สอบสวน) สภ.สีคิ้ว ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันที่ถนนมิตรภาพ บริเวณใต้ทางกลับรถ ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สายชล จงปลูกกลาง ผกก. และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิพรหมธรรมสีคิ้ว พบรถปิกอัพ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว ดัดแปลงกระบะท้ายเป็นตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน ผธ 5043 อุดรธานี จอดอยู่บนเกาะกลางถนนในสภาพพังเสียหายทั้งคัน ภายในพบศพนายรุ่งโรจน์ ธาตุไพบูลย์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 8 ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี คนขับ เสียชีวิตอยู่บนที่นั่งด้านคนขับ นอกจากนั้นยังพบร่าง น.ส.สมพร ผ่องศรี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 8 ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และ ด.ช.กิตติเดช ดาตระหาญ อายุ 7 ปี หลานชายของ น.ส.สมพร ถูกแรงกระแทกได้รับบาดเจ็บหมดสติ จึงให้หน่วยกู้ภัยนำตัวส่งไปรักษาที่ รพ.สีคิ้ว
    สำหรับรถคู่กรณี คือรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กค 226 มหาสารคาม ด้านหน้าพังยับเยิน ภาพในรถเก๋งพบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ชื่อนายอนุชา ชลอเจริญยิ่ง อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลกันทรวิชัย อยู่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 9 ต.โคกพระ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม และนางบุญโฮม ชลอเจริญยิ่ง อายุ 60 ปี มารดา นอกจากนี้ยังพบนายเอี๋ยว ชลอเจริญยิ่ง อายุ 67 ปี บิดา และ ด.ช.กรวิชญ์ ชลอเจริญยิ่ง อายุ 2 ขวบ บุตรชายของนายอนุชา ถูกอัดติดอยู่ในรถในสภาพหายใจรวยริน จึงให้หน่วยกู้ภัยรีบนำเครื่องตัดถ่างตัดประตูรถนำร่างของผู้เสียชีวิตและคนเจ็บออกจากซากรถ นำตัวผู้บาดเจ็บส่งไปรักษาที่ รพ.สีคิ้ว และส่งต่อไป รพ.มหาราชนครราชสีมา
    จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเอี๋ยวพร้อมนางบุญโฮม ภรรยา นายอนุชา บุตรชาย และ ด.ช.กรวิชญ์ หลานชาย มาร่วมพิธีฌาปนกิจญาติที่วัดบ้านหนองบัวน้อย อ.สีคิ้ว เมื่อเสร็จงาน นายอนุชาผู้ตายซึ่งมีอาการป่วย แต่จะต้องรีบกลับไปทำงาน จึงให้นายเอี๋ยว บิดา เป็นคนขับ เมื่อรถวิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองนครราชสีมา ถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงที่ฝนกำลังตกหนัก ได้มีรถปิกอัพที่นายรุ่งโรจน์ ธาตุไพบูลย์ เป็นคนขับ วิ่งข้ามเกาะแล้วชนประสานงากับรถเก๋งอย่างจังจนทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
    ด้าน น.ส.สมพรที่นั่งมาในรถปิกอัพกับนายรุ่งโรจน์ ให้การว่า ตนกับหลานชายนั่งหลับๆ ตื่นๆ มาในรถ เห็นฝนตกจึงบอกสามีว่าให้ขับช้าๆ แต่สามีรีบจะนำรถไปบรรทุกของที่ กทม. และช่วงนั้นฝนตก ถนนคงลื่น ทำให้รถที่สามีขับเสียหลักพุ่งขึ้นเกาะกลางถนนแล้วชนประสานงากับรถเก๋งดังกล่าว.