รับข่าวสารอย่างมีสติ


เพิ่มเพื่อน    

 

      ไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ระบาดได้สร้างความตระหนกให้กับประชาชน ทำให้ในช่วงนี้จะเห็นกันว่าถนนหนทาง แหล่งช็อปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยวในที่ต่างๆ  เงียบเหงาไปตามๆ กัน  เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ลดลงอย่างน่าใจหาย ถนนหนทางโล่งอย่างกับวันหยุดเทศกาล

                แต่ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมานั้น เกิดปรากฏการณ์ ประชาชนในหลายๆ พื้นที่แห่กันเดินหน้าเข้าร้านค้าปลีก-ส่ง  ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เก็ต อย่างเทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, แม็คโคร, ท็อปส์, ฟู้ดแลนด์, แม็กซ์แวลู และห้างท้องถิ่น เพื่อขนซื้อข้าวสารอาหารแห้ง รวมไปถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ข้าวสาร น้ำเปล่า ยังมีกระดาษชำระ ทิชชู่เปียก ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาด และอีกมากมาย จนทำให้หลายห้างสินค้าหมดไปจากชั้นวาง

                ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นภายหลังจากที่มีการมีการแชร์ข้อความทางไลน์ต่อๆ กันไปว่า "พยาบาลศิริราชแจ้งหลังประชุมบอกให้ตุนอาหาร เพราะจะมีการปิดเมือง.." จนเป็นเหตุให้เกิดความชุลมุนวุ่นวาย ประชาชนแห่กักตุนสินค้า

                ในเรื่องนี้ทำให้ รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ออกมายืนยันว่า เนื้อหาของข้อความดังกล่าวนั้นไม่มีมูลความจริง พร้อมระบุอย่างชัดเจนว่าการประชุมครั้งล่าสุดนั้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 มี.ค.63 นั้น เนื้อหาการประชุมคือการรองรับผู้ป่วย ไม่มีประเด็นปิดเมือง หรือปิดสถานที่ไม่ได้มีการพูดถึงแต่อย่างใด เพราะอยู่นอกขอบเขต ศิริราชพยาบาลเป็นหน่วยงานให้ข้อมูลในเชิงวิชาการที่ถูกต้อง และเป็นโรงเรียนแพทย์

                นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า "ฝากไปยังทุกท่าน อย่าเพิ่งแตกตื่น ขอแนะนำว่าในระยะนี้ใครออกไปที่ต่างๆ ขอให้รีบตรงกลับบ้าน ถ้าทำงานที่บ้านได้ เรียนที่บ้านได้ ก็ควรทำสถานที่ชุมชนต่างๆ สนามมวย สถานบันเทิง ห้างร้านต่างๆ ควรหลีกเลี่ยง และก่อนเข้าบ้านให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทันที เป็นการป้องกันการนำเชื้อเข้าไปในครอบครัว" รศ.นพ.นริศ กล่าว

                ดังนั้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน แม็คโครค้าปลีกรายใหญ่ของประเทศ โดย ศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร ได้ออกมาระบุอย่างชัดเจน แม็คโครได้เห็นความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ของสาขาต่างๆ ทั้งเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงได้วางแผนตั้งรับสถานการณ์ดังกล่าวเอาไว้อย่างเข้มข้นและรัดกุม โดยทำงานใกล้ชิดกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ทั้งการบริหารสต๊อกสินค้า การเพิ่มความถี่ในการเติมสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า แม็คโครได้เตรียมสินค้าทั้งอาหารสด อาหารแห้ง หรือสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเอาไว้อย่างเพียงพอ ไม่อยากให้เกิดความตื่นตระหนกจนเกินไป

                พร้อมย้ำว่า “แม็คโครเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อย หรือโชห่วย ร้านอาหาร และลูกค้าทั่วไปที่เพิ่มมากขึ้น เพราะต่างพากันปรับตัวไปตามภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งพบว่าคนส่วนใหญ่ไม่ออกนอกบ้าน เลือกซื้อสินค้าในร้านค้าใกล้บ้าน นักเรียนนักศึกษาก็เริ่มเรียนออนไลน์ คนทำงานก็ทยอยทำงานที่บ้านมากขึ้น โดยแม็คโครยังคงทำหน้าที่เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าในราคาค้าส่ง เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำไปกระจายสู่ผู้บริโภคครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่มากขึ้น”

                นอกจากนี้ แม็คโครยังคงเข้มงวดเรื่องมาตรการความปลอดภัยในสาขา ถึงแม้ว่าจะมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก ก็ยังคงไว้ซึ่งมาตรการต่างๆ เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสาขาให้กับลูกค้าพนักงานทุกครั้ง, การสวมหน้ากากอนามัยของพนักงาน เพื่อคุมเข้มความปลอดภัยให้กับทุกคนอย่างต่อเนื่อง

                ชัดเจน!! ไฮเปอร์มาร์เก็ต ค้าส่งรายใหญ่ของประเทศ ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของยังใหญ่ในธุรกิจอาหาร ออกมายืนยันเช่นนี้ก็คงสร้างความสบายใจให้กับพี่น้องประชาชนได้บ้าง

                และก็ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยคือครัวโลกที่ผลิตอาหารส่งออกไปทั่วโลก แถมร้านค้าขายของชำ ตลาดสด ตลาดนัด หาบเร่แผงลอย กระจายไปทั่วประเทศตามตรอกซอกซอยก็มีมากมาย ยิ่ง 7-11 ยิ่งผุดยังกับดอกเห็ด เข้าถึงทุกชุมชน ทุกระดับชั้น ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะขาดแคลน  

                สิ่งสำคัญขณะนี้คือต้องรับข่าวสารอย่างมีสติ เพราะการกักตุนสินค้าไว้เยอะๆ กินไม่ทัน "หมดอายุ" ปวดใจเสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน. 

บุญช่วย  ค้ายาดี


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"