เชียงรายน่าห่วง PM2.5เกิน100 กระทบสุขภาพ


เพิ่มเพื่อน    


    ฝุ่นจิ๋วพีเอ็ม 2.5 ในภาคเหนือยังคงเกินค่าในหลายจังหวัด โดยเฉพาะเชียงรายและแม่ฮ่องสอน พุ่งสูงเกิน 100 อธิบดีกรมอนามัยเตือนผู้ปกครองดูแลเด็กเล็กในช่วงปิดเทอม รวมทั้งกลุ่มเสี่ยงก็ต้องระวังสุขภาพ     
    กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศจังหวัดในภาคเหนือที่มีปริมาณ PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน (เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ในช่วงเวลา 14.00 น. วันที่ 17 มีนาคมนี้ ดังนี้ ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 72 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 101 มคก./ลบ.ม., ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 69 มคก./ลบ.ม., ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 71 มคก./ลบ.ม., ประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 66 มคก./ลบ.ม., ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 78 มคก./ลบ.ม., ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 114 มคก./ลบ.ม., ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน 59 มคก./ลบ.ม., ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน 69 มคก./ลบ.ม., ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา 55 มคก./ลบ.ม., ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก 63 มคก./ลบ.ม.
    พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ยังพบค่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีแดงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ซึ่งในขณะนี้เป็นช่วงเด็กปิดเทอม จึงขอความร่วมมือพ่อแม่ ผู้ปกครองต้องคุมเข้มโดยให้เด็กเลี่ยงทำกิจกรรมนอกบ้าน นอกจากนี้ กลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรงดออกนอกบ้าน และงดออกกำลังกายทั้งในและนอกบ้าน ควรจัดห้องในบ้านให้เป็นห้องปลอดฝุ่น โดยลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นภายในและบริเวณบ้าน เช่น งดจุดธูป ปิ้งย่างหรือใช้ฟืนประกอบอาหาร เผาขยะ เผาเศษใบไม้/หญ้า หรือกิจกรรมอื่นที่เป็นแหล่งกำเนิดควัน เป็นต้น ทั้งนี้ หากพบเด็กหรือบุคคลในครอบครัวมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวี้ด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบพาไปพบแพทย์ ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาประจำตัวและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมอย่างน้อย 5 วัน และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
    “สำหรับแนวทางการจัดทำห้องปลอดฝุ่นในบ้าน มีดังนี้ 1) ให้เลือกห้องที่ห่างจากถนน ลานจอดรถ พื้นที่ก่อสร้าง หรือกิจกรรมอื่นที่เป็นแหล่งกำเนิดควัน และเป็นห้องที่มีช่องว่างของประตู หรือหน้าต่างน้อยที่สุด 2) ทำความสะอาดห้อง โดยใช้ผ้าชุบน้ำแทนการใช้ไม้กวาด 3) ปิดช่องหรือรูที่อากาศภายนอกจะเข้ามา และ 4) เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเพื่อหมุนเวียนอากาศภายในห้อง และไม่ควรทำกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดฝุ่นหรือควันเพิ่มขึ้นในห้อง ส่วนห้องที่มีเครื่องปรับอากาศควรตรวจสอบและทำความสะอาดแผ่นกรองทุกเดือน ล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง ช่วงที่ฝุ่นน้อยลงแล้วควรเปิดหน้าต่างและประตูเพื่อให้มีการระบายอากาศภายในห้อง เพื่อลดการสะสมคาร์บอนไดออกไซด์ และติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิดจากช่องทางสื่อสารของหน่วยงานหรือสื่อต่างๆ เช่น เสียงตามสาย โทรทัศน์ วิทยุ เว็บไซต์ เพจคนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM 2.5 ของกระทรวงสาธารณสุข” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"