ตามติดโควิด-19


เพิ่มเพื่อน    

 

  ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ (และโลก) และดาวจรสื่อภัยอาเพศ-โรคระบาด มฤตยูจร (0) ตัวแทนภัยอาเพศทับลัคนาเมือง (และโลกที่ลัคนาสถิตราศีเมษ) ระหว่างมีนาคม 2559-กรกฎาคม 2565

                พระราหูจร (8) ที่มิถุนเล็งกับพฤหัสบดีจร (5) ที่ธนูระหว่าง 30 ตุลาคม 2562-17 มีนาคม 2563 (รอบแรก) เป็นคู่โรคระบาด หลังจากนั้นพฤหัสบดีจรเข้าไปเดินในราศีมังกร

พระอังคารจร (3) เข้าเดินในราศีพิจิกภพมรณะดวงเมือง(โลก) ระหว่าง 25 ธันวาคม 2562-8 กุมภาพันธ์ 2563 ทำมุมพิเศษถึงพระราหูจร (8) ที่มิถุนเป็นคู่โรคติดเชื้อ

พระอังคารจร (3) เข้าราศีธนูเล็งใส่พระราหูจร (8) ที่มิถุนระหว่าง 8 กุมภาพันธ์ 2563-22 มีนาคม 2563 โรคติดเชื้อระบาดหนัก หลังจากนั้นย้ายเข้าไปเดินในราศีมังกร

พระเสาร์จร (7) ที่ราศีมังกร

                ผู้เขียนขอพักการเขียนถึงอิทธิพลของการที่พระเสาร์จร (7) ที่ย้ายราศีอันจะมีผลต่อดวงชะตาคนที่เหลืออีก 6 ลัคนาราศีคือพฤษภ-มิถุน-สิงห์-กันย์-พิจิก และ กุมภ์ ไว้ก่อนชั่วคราว เพื่ออัพเดตสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้เขียนเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กและแฟนเพจ-ฟองสนาน-และ-โหรฟองสนาน-ไปก่อนหน้านี้แล้วบางส่วน ดังนี้

                ย้อนรอยเกณฑ์โรคระบาดใหญ่ทางโหร

                1.มฤตยูจร (0) เจ้าของ ภัยอาเพศ-ภัยพิบัติใหญ่ที่เกิดขึ้นไม่คาดฝัน ทับลัคนาดวงเมือง (และโลกที่สถิตราศีเมษเหมือนกัน) รออยู่นานแล้วตั้งแต่มีนาคม 2559

                โดยตัวอย่างในอดีตที่เมืองรัตนโกสินทร์เคยเจอในรอบแรกที่มฤตยูจรทับลัคนาเมืองคือห่าลงปีระกา หรือไข้ป่วงใหญ่ หรืออหิวาต์ลงในสมัยรัชกาลที่สามในปี 2392 โดยเกิดที่ปีนังก่อน แล้วระบาดมาถึงกรุงเทพฯ เรียกกันว่า “ห่าลงปีระกา” ตลอดช่วงการระบาดตายถึง 4 หมื่น คนจนมีตำนานที่ “แร้งวัดสระเกศ” กินซากศพที่กองพะเนิน และคราวนั้นเราเสียเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เพราะอหิวาต์

                2.ตั้งแต่ 30 ตุลาคม 2562 เป็นต้นมา เริ่มปรากฏการณ์ทางโหรซ้ำสองเข้ามาอีก คือพระราหูจร (8) เล็งกับพระพฤหัสบดีจร (5) ตามหลักที่อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ให้ไว้ว่าดาวคู่นี้เป็นคู่โรคระบาด ซึ่งคาดว่าการติดเชื้อโควิด-19 น่าจะเริ่มระยะนี้เพราะ

                ต่อมาเมื่อจีนสามารถสืบค้นหา "ผู้ป่วยรายที่หนึ่งติดเชื้อไวรัส โควิด-19 เป็นชาวหูเป่ย์ อายุ 55 ปี และถูกตรวจพบว่าติดเชื้อตั้งแต่เมื่อ 17 พ.ย.2562 เพียงแต่ยังหาต้นตอคือผู้ติดเชื้อหมายเลขศูนย์ที่ติดเชื้อก่อนหน้านั้นไม่พบ

                3.ซ้ำด้วยเกณฑ์ที่สามทางโหรคือพระอังคารจร (3) เข้าราศีพิจิกภพมรณะดวงเมือง และดวงโลกระหว่าง 25 ธันวาคม 2562-8กุมภาพันธ์ 2563 และทำมุมพิเศษถึงพระราหูจร (8) เป็น คู่โรคติดเชื้ออันเป็นระยะที่เมืองจีนเริ่มแจ้งองค์การอนามัยโลก หรือฮู (WHO)

                ขณะที่ฮูและบางประเทศยังประมาทประเมินสถานการณ์ต่ำไป แต่ของไทยเราโชคดีที่มีบุคลากรทางการแพทย์ชั้นยอด และระบบรองรับดี อีกทั้งฝ่ายการเมืองก็เอาด้วย กรมควบคุมโรคได้เปิดศูนย์ได้ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์กรณีโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสจากจีน ตั้งแต่ 4 มกราคม 2563

                ต่อมาองค์การอนามัยประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเมื่อ 30 มกราคม 2563

                4.เกณฑ์ร้ายที่สี่ (ต่อเนื่องจากเกณฑ์รายที่สาม) เริ่มตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา เมื่อพระอังคารจร (3) ย้ายเข้าราศีธนูทำมุมเล็งกับพระราหูจร (8) คู่โรคติดเชื้อ ก็ไม่มีใครเบรกโควิด-19 อยู่แล้ว เดือดร้อนระเบิดเถิดเทิงไปทั่วโลก

                ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผู้เขียนภาวนาขอให้อ่านรหัสทางโหรทำนายสิ่งที่จะเกิดต่อไปได้ อย่างน้อยก็ใกล้เคียง (เพราะเป็นเพียงโหรสมัครเล่น) ถึงสภาวะของโควิด-19 ตามที่เคยทำนายไว้ก่อนหน้านี้บางส่วนคือ

                1.ประเทศรอด โดยแม้จะเดือดร้อนวุ่นวายขายกระจาดขนาดบุคลากรทางการแพทย์มีหน้ากากอนามัยไม่พอใช้ แต่การรับมือ ของบุคลากร-ระบบสาธารณสุขไทยก็ออกมาดีเกินคาด จะพาประเทศรอด ดังที่ผู้เขียนเคยบอกมาตลอด ด้วยเป็นระยะที่พฤหัสบดีศรีจรดวงเมืองเข้มแข็งมาก สามารถคุ้มครองเมืองได้ จนแม้ไทยจะติดเชื้อจากจีนเป็นประเทศแรกๆ แต่ก็สามารถคุมตัวเลขอยู่ในสภาวะน่าพอใจ ให้เพิ่มขึ้นช้าๆ ซื้อเวลาเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ช่วงระบาดสูงสุด

                2.ดาวโรคระบาดเริ่มค่อยๆ เคลื่อน-ค่อยๆ ย้ายจากการเล็งกัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 เวลา 21.13 น. (คือพฤหัสบดี (5 เริ่มย้ายเข้าราศีมังกรหยุดเล็งกับพระราหูจร 8)พัฒนาการด้านดีเริ่มเห็นในการรับมือโควิด-19 ทีละเล็กละน้อยตามองศาดาวที่แยกห่างจากกัน

                ผลที่เริ่มเห็นคือนักประดิษฐ์ไทยสามารถสร้างชุดตรวจราคาถูกสะดวกเพื่อทำไปผลิตเชิงปริมาณได้-คนติดเชื้อที่จีนลดน้อยลงจนไม่ติดเลย-จีนและญี่ปุ่นคิดค้นยาต้านไวรัสได้ (จากเดิมที่รักษาแบบประคับประคอง) และหลายประเทศเริ่มทดลองหาวัคซีน

                อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์โลกหลายประเทศที่ประมาท-ซ่า ไม่ตระหนักว่าภัยมาถึงตัวแล้ว (อาการของพระราหูจร 8 อยู่ราศีมิถุน ภพที่สามดวงโลก-กล้าเกินเหตุกลัวเกินเหตุ) ต่างเจอพิษโควิด-19 หนักต่อจากจีน เช่น อิตาลี จนศูนย์กลางการระบาดไปอยู่ที่ยุโรปแทน ฯลฯ

                3.ดาวคู่ติดเชื้อจะเริ่มแยกจากการเล็งกันตั้งแต่ 22 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป (พระอังคารจร 3 ย้ายเข้าราศีมังกรหยุดการเล็งกันกับพระราหูจร 8) ซึ่งผู้เขียนคาดว่าน่าจะได้เห็นสถานการณ์ติดเชื้อรายใหม่จะค่อยๆ ดีขึ้นทีละเล็กละน้อยตามองศาดาวที่เคลื่อนออกจากกัน

                4.จับตาระยะที่ดาวคู่วิจัยทางการแพทย์-ทบทวนวิธีการรักษา-ยา-เวชภัณฑ์ (พระอังคารจร 3 ร่วมพฤหัสบดีจร 5 ที่มังกรเป็นคู่วิจัย) จะเริ่มค่อยๆ เห็นผลน่าตื่นตะลึงตั้งแต่ 22 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป-1 พฤษภาคม 2563 (พระอังคารจร 3จรทำมุมพิเศษถึงพระมฤตยูจรหนึ่งในความหมายคืออัจฉริยะที่ราศีเมษด้วย)

                5.เมื่อดาวคู่โรคระบาด-ดาวโรคติดเชื้อแยกออกจากกันร่วมกับผลงานวิจัยใหม่ๆ จะออกมาดวง ชะตาเมืองและโลกจะค่อยๆเข้มแข็งขึ้นตั้งแต่ 22 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป (พระอังคารจรดาวประจำชีพโลกและเมืองเดินอยู่ในราศีมังกรได้มาตรฐานอุจ-เข้มแข็ง ซึ่งแม้จะร่วมราศีกับพระเสาร์จร 7 ที่มังกรคู่ศัตรูเบาที่มาตรฐานก็เข้มแข็ง คือมาตรฐานเกษตราธิบดี แต่ทางโหราศาสตร์ถือเป็นคู่มิตรใหญ่) เพียงแต่อาจต้องไประวังเรื่องอื่นแทน เช่นอุบัติเหตุ ความรุนแรง ฯลฯ

                6.เชื่อว่าประมาณวันเกิดดวงเมือง 21 เมษายน 2563 เป็นต้นไปสถานการณ์โควิด-19 คงจะเริ่มค่อยๆ ใกล้สู่สภาวะ เป็นโรคปกติ เพราะ เป็นระยะที่พระราหู (ตัวแทนจีน) เป็นศรีจร-สิ้นปี อาจเป็นไปได้ว่าจีนคงให้ประโยชน์กับไทย-โลกอย่างมาก

                อีกทั้งการเก็งกำไรจะกลับมาสนั่นแม้แต่ตลาดหุ้น ฯลฯ แต่ก็จะเป็นคนละส่วนกับเศรษฐกิจโดยรวม ที่คาดว่าไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็คงต้องทำงานหนัก และงัด-กระตุ้นกันอุตลุดไปถึงมีนาคม 2566 (พระเสาร์จรถึงพระศุกร์ดวงเดิม)

                6.ระหว่าง 17 กรกฎาคม 2563-10 กันยายน 2563 แม้ดาวคู่โรคระบาดจะกลับมาเล็งกันอีกรอบ (พฤหัสบดี-เดชจรเล็งกับพระราหูศรีจร) แต่สำหรับดวงเมืองไทยแล้ว คาดว่า บุคลากร-ระบบทางการแพทย์ที่เข้มแข็งคงได้ทบทวนวิธีการรักษา-รับมือ และประกาศศักดาถึงผลงานไปทั่ว

                7.อย่าลืมว่ามฤตยูจร (0) ตัวแทนภัยอาเพศยังทับลัคนาดวงเมือง (และโลก) อยู่ พร้อมจะสร้างสถานการณ์ชวนตาค้างได้ตลอดเวลา สถานการณ์เกี่ยวกับภัยอาเพศ รวมทั้งโรคระบาดก็ต้องระวังอยู่ เช่น ตั้งแต่วันเกิดดวงเมืองที่ 21 เมษายน 2563-สิ้นปีคนในเมืองควรระวังเรื่องอาหารการกิน (ทักษาจรเมืองตกภูมิพุธถ้าเป็นคน..อย่ากินเนื้อกินนก จะร้อนอีกเจ็บนาภี)

                หรือมี บางระยะช่วงใกล้ปลายปีที่อาจต้องระวังภัยทางทะเลหรือภัยมาทางน้ำ ซึ่งจะได้แจ้งเตือนให้ทราบต่อไป. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"