'อนุทิน'ชี้สธ.ไม่มีอำนาจประกาศเคอร์ฟิวส์ทำได้แค่ขออย่าออกจากบ้าน


เพิ่มเพื่อน    

22 มี.ค.63-นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ขณะที่โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขมี 3-4 แห่ง โดยโรงพยาบาลส่วนใหญ่ ขึ้นอยู่กับคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น รามา ศริรราช ฯลฯ ดังนั้น ต้องเชิญคณะดีจากโรงพยาบาลเหล่านี้มาหารือกันว่าจะร่วมทำงานกันอย่างไร และขาดอะไร และต้องการให้กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนด้านใดเพิ่มเติม 

"ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขเป็นคนคุมสต๊อกทั้งยา และเวชภัณฑ์ ไปจนถึงชุดถุงมือ และหน้ากากให้แพทย์ เพราะเราต้องใช้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้ซื้อ ซึ่งของส่วนใหญ่เราซื้อมาจากประเทศจีน จึงง่ายหากให้หน่วยงานรัฐบาลเป็นผู้ติดต่อ ดังนั้น จึงนำรายละเอียดมารายงานนายกฯ ว่าการประชุมระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และแพทย์เป็นไปด้วยดี มีการแบ่งว่าให้กรมการแพทย์เป็นศูนย์กลางในการประสานงานกับคณะแพทย์ทุกโรงพยาบาล และคณะแพทย์ศาสตร์ทุกคณะในกทม. เพื่อรับผู้ป่วย รวมถึงส่งยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ"

ถามว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนายกฯ ได้แสดงความกังวลหรือมีการเสนอให้มีการใช้มาตรการที่เข้มข้นกว่านี้อีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้มาตราการต่างๆก็ใช้เต็มที่แล้ว เหลืออย่างเดียว ต่อให้เป็นกฎหมายออกมาอย่างไรก็สู้ความร่วมมือไม่ได้ ทุกคนต้องให้ความร่วมมือในการอยู่บ้าน  หรือโซเชียลดิสแพลนซิ่ง งดการสังสรรค์ แค่เพียง 2-3 สัปดาห์​ซึ่งองค์การอนามันโลก หรือ WHO ได้ย้ำเรื่องนี้ให้ประชาชนได้ยินทุกวันว่าให้แยกตัว และดูแลตัวเองให้ดี เป็นวิธีที่จะป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ดีกว่าทุกมาตรการ

ซักว่า ในช่วงประกาศงดออกจากบ้านนี้ปรากฎว่ามีประชาชนเดินทางกลับต่างจังหวัด เนื่องจากสถานประกอบการต่างๆปิดด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเราเข้าใจว่าทำไมถึงออกมาตรการแบบนี้มา ก็เพื่อต้องการให้ทุกคนอยู่นิ่ง โรคนี้ใช่ระยะฟักตัว 14 วัน ถ้าผู้คนอยู่นิ่งได้ถึง 14 วัน ก็เท่ากับโรคนี้จะไม่มีการกระจาย จะเหลือเพียงผู้ป่วย แล้วเราก็ไปรักษาผู้ป่วย 

"การควบคุมไม่ไห้คนเดินทางกลับนั้น เราก็ต้องควบคุมด้วยกฎหมาย แต่ที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือ ถ้ายังมีการเดินทางกันอีก โดยที่สภาพตัวเองก็ไม่พร้อม ก็ต้องระมัดระวังตัวเอง แต่ที่สำคัญที่สุด ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเดินทาง ซึ่งการประกาศให้หยุดก็ไม่ใช่ให้หยุดทุกอย่าง มีบางส่วนที่ทำงานได้ หรือทำงานที่บ้านตามปกติ แต่ถ้าจำเป็นต้องกลับบ้านจริงๆก็ต้องป้องกันตัวเองสูงสุด เราไม่สามารถห้ามได้ ทุกคนมีอิสระเสรี แต่ต้องมีสำนึกรับผิดชอบ และเมื่อกลับถึงภูมิลำเนาแล้วควรเก็บตัว ซึ่ง กทม. ประกาศ 3 สัปดาห์ แต่โรคใช้ระยะฟักตัว 14 วัน หากทุกคนเก็บตัวได้ครบ แล้วไม่ปรากฎอาการก็จะได้สบายใจระดับหนึ่ง"

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการประกาศเคอร์ฟิว นายอนุทิน ถอนหายใจก่อนกล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขทำงาน ภายใต้พ.ร.บ.โรคติดต่อ ไม่มีอำนาจ และบังคับอะไรมากไม่ได้ มีเพียงคำแนะนำว่าประชาชนควรปฏิบัติตัวอย่างไร 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"