ยื้อเวลานาฬิกาเพื่อน ปปช.อ้างข้อมูลไม่สมบูรณ์ ป้อมแจงยืม'คราม'ทุกเรือน


เพิ่มเพื่อน    

    ป.ป.ช.ยื้อสอบแหวนเพชร-นาฬิกาหรู "เสี่ยป้อม" อ้างข้อมูลยังไม่สมบูรณ์ สั่งคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง ขอซีเรียลนัมเบอร์จากบริษัทผู้ผลิตให้ครบทั้ง 22 เรือนจากทั้งหมด 25 เรือน แต่บางเรือนซ้ำซ้อนกัน เผยเจ้าตัวแจงยืมเพื่อนทุกเรือนไม่มีของตัวเอง ส่วนแหวนเพชรราคาไม่ถึง 2 แสนไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน    ด้าน "ประวิตร" ไม่ห่วงหาก ป.ป.ช.เรียกไปชี้แจง ยันว่าไปตามกระบวนการ
    ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วันที่ 29 มีนาคม นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งพิจารณาผลการรายงานเบื้องต้นของคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง กรณีการครอบครองแหวนเพชรและนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ไม่ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ จากการสรุปรายงานเรื่องดังกล่าว ทางสำนักงาน ป.ป.ช.ได้ให้ พล.อ.ประวิตรชี้แจงที่มาของทรัพย์สินแล้ว 4 ครั้ง 
    โดยข้อมูลนาฬิกาหรู พล.อ.ประวิตร แจ้งว่ายืมจากเพื่อนมา จากนั้น ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบความมีอยู่จริงของนาฬิกาทั้งหมด พบว่ามีนาฬิกาดังกล่าวอยู่จริง แต่ยังขาดรายละเอียดของที่มาซึ่งยังไม่ครบถ้วน อีกทั้ง นาฬิกาเหล่านี้จะมีหมายเลขประจำเครื่อง หรือซีเรียลนัมเบอร์ จึงมีความจำเป็นที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ต้องให้สำนักตรวจสอบทรัพย์สินซึ่งรับผิดชอบเรื่องนี้ไปตรวจสอบว่าผู้ครอบครองนาฬิกาเหล่านี้เป็นเจ้าของที่แท้จริงหรือไม่ และจากนี้ยังจะต้องสอบสวนพยานบุคคลและบริษัทเอกชนที่จำหน่ายนาฬิกาเพิ่มเติมด้วย 
    "เมื่อเห็นว่าเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ จึงมีมติให้สำนักงาน ป.ป.ช.เร่งรัดตรวจสอบเพื่อยืนยันข้อมูลให้สิ้นกระแสความโดยเร็ว ก่อนสรุปข้อเท็จจริงเพื่อเสนอที่ประชุมอีกครั้ง วันนี้คณะทำงานฯ ได้รายงานผลการดำเนินงาน เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็ต้องการทราบข้อมูลว่าได้เรื่องถึงไหนแล้ว ดังนั้นทางสำนักงาน ป.ป.ช.ต้องรายงานผลการดำเนินการทั้งหมดให้ทราบ และให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ช่วยพิจารณาแนะนำแนวทาง จึงให้ไปรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อน ตามระเบียบไม่ได้กำหนดว่าเรื่องนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อใด แต่จากพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง เชื่อว่าจะต้องตรวจสอบอีกไม่มาก” นายวรวิทย์กล่าว
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ช.จะสอบพยานอีกกี่ราย เอกชนอีกกี่บริษัท นายวรวิทย์กล่าวว่า ตอนนี้เราถามบริษัทไปแล้ว 13 แห่ง แต่ตอบกลับเพียง 3 แห่ง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ ป.ป.ช.ต้องการ และต้องสอบพยานบุคคลใหม่อีก 2 ราย คิดว่าจะใช้เวลาไม่นาน 
    "คนเดียว ทั้ง 25 เรือนที่ปรากฏตามสื่อนั้น มีซ้ำกัน 3 เรือน ส่วนเพื่อนที่ พล.อ.ประวิตรยืมนาฬิกามานั้น จะยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว สื่อมวลชนรู้ๆ กันอยู่" นายวรวิทย์กล่าวเมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรชี้แจงว่านาฬิกาทั้งหมดเป็นของเพื่อนคนเดียวหรือหลายคน
    เมื่อถามว่า หากเพื่อนเสียชีวิตจริง จะต้องเชิญทางญาติมาให้ข้อมูลหรือไม่ เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่า คิดว่าจะต้องเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องหรือครอบครองนาฬิกามาให้ข้อมูลทั้งหมด โดยคณะทำงานฯ ได้เชิญมาสอบแล้ว  
    ถามว่า ป.ป.ช.จำเป็นต้องเชิญ พล.อ.ประวิตรมาชี้แจงด้วยตัวเองหรือไม่ เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่พิจารณาในประเด็นนี้ แต่ให้คณะทำงานฯ ไปรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อน   เมื่อถามถึงกรณีที่เคยแถลงว่าถ้าเป็นนาฬิกาเพื่อน ไม่ต้องยื่นต่อ ป.ป.ช. ยังเป็นเช่นนั้นหรือไม่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า ต้องรอให้ได้ข้อยุติก่อน จากนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะเป็นผู้วินิจฉัยประกอบข้อกฎหมาย ส่วนการครอบครองแหวนเพชรนั้น พล.อ.ประวิตรได้ชี้แจงว่า แหวนเพชรเป็นของบิดา ที่มารดาเก็บไว้ ต่อมาได้มอบให้ พล.อ.ประวิตร
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร ที่อ้างว่าเป็นคนให้ยืมนาฬิกานั้น คือนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ หรือ "เสี่ยคราม" เจ้าของบริษัท คอม-ลิ้งค์ จำกัด ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ พล.อ.ประวิตร ตั้งแต่เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ รร.เซนต์คาเบรียล และได้เสียชีวิตแล้วเมื่อต้นปี 2560 
    มีรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก่อนเข้าสู่สาระการประชุมดังกล่าว พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ได้ขอถอนตัวจากการร่วมประชุม จากนั้นกรรมการทั้ง 8 คนจึงได้เสนอชื่อนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. ที่อาวุโสสูงสุดให้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมในการพิจารณาวาระดังกล่าว ซึ่งเมื่อคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงฯ รายงานข้อสรุปพร้อมรายละเอียดทั้ง 38 แผ่นให้ที่ประชุมกรรมการฯ ทราบ เพื่อขอความเห็นจากที่ประชุมว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป
     รายงานข่าวระบุว่า หลังจากประชุมนานถึง 1 ชั่วโมงเศษ ในที่สุดที่ประชุมกรรมการฯ ได้ให้ความเห็นว่า ให้คณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงไปดำเนินการหาข้อเท็จจริงต่อ เพราะข้อมูลยังไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะรายละเอียดของนาฬิกาหรูแบรนด์ต่างประเทศ ที่จะต้องมีหมายเลขประจำเครื่องนาฬิกา (ซีเรียลนัมเบอร์) ให้ครบทั้ง 22 เรือน เนื่องจากคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงฯตรวจสอบทั้ง 25 เรือนแล้วพบว่ามีนาฬิกาบางเรือนซ้ำกันอยู่ ทำให้เหลือตรวจสอบ 22 เรือน ซึ่งที่ประชุมได้ให้คณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงไปหาข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาเรือนนั้นๆ ต่อ 
    ส่วนกรณีที่จะต้องเชิญตัว พล.อ.ประวิตรมาให้ถ้อยคำด้วยตัวเองหรือไม่นั้น ที่ประชุมเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปถึงขั้นตอนดังกล่าว สำหรับประเด็นแหวนเพชรนั้น ได้ข้อยุติแล้วว่าเป็นแหวนที่มีมูลค่าไม่ถึง 2 แสนบาท จึงไม่จำเป็นต้องแจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ต้องยื่นต่อ ป.ป.ช.  
    ด้าน พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีคณะทำงานของ ป.ป.ช.ประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะเชิญไปให้ข้อมูลการครอบครองแหวนเพชรและนาฬิกาหรูว่า การประชุมดังกล่าวเป็นเรื่องของ ป.ป.ช. เขาจะประชุมก็เป็นเรื่องของเขา ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ 
       เมื่อถามว่า ถ้า ป.ป.ช.มีมติเรียกไปชี้แจง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เป็นห่วง เพราะตามระเบียบเขาดำเนินการอย่างไรก็ต้องว่าไปตามนั้น
    วันเดียวกัน เว็บไซต์ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการเผยแพร่คำวินิจฉัยกลางกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ว่า มาตรา 185 ของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่มีเนื้อหาเป็นการต่ออายุให้กับ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนครบ 9 ปี ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแล้ว   โดยสรุปว่า การที่ สนช.ซึ่งเป็นองค์กรผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 263 เป็นผู้พิจารณา เห็นชอบร่าง พ.ร.ป.ป.ป.ช. มาตรา 185  โดยกำหนดการดำรงตำแหน่งต่อไปของผู้ดำรงตำแหน่งในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามบทเฉพาะกาล จึงเป็นการได้พิจารณาตามหลักนิติธรรม และคำนึงถึงเหตุผล ความจำเป็น ความเหมาะสม ทั้งในองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเป็นการสอดคล้องกับหลักนิติธรรมและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"