'สำรวจแนวรบรอบไตรมาส'


เพิ่มเพื่อน    

 

         คนกรุงโปรดทราบ........

                กทม.ยกเลิกคำสั่ง "ครึ่งปิด-ครึ่งเปิด" กรุงเทพฯ ๒๒ วัน จาก ๒๑ มี.ค.-๑๒ เม.ย.แล้วนะ

                แต่ อ๊ะ..อ๊ะ ฟังก่อน อย่าเพิ่งซ่า!

                ที่ว่ายกเลิกนั้น "ยกเลิกประกาศเดิม" แล้วมีประกาศใหม่ให้กลมกลืนตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

                ประกาศใหม่ ก็...เหมือนเดิม

                แถมมีเพิ่มเติมสถานที่ทั้งปิด-ทั้งเปิด แล้วขยายยาวไปถึง ๓๐ เม.ย.เท่าอายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั่นเลย!

                สรุป.......

                ทุกคนต้องเคร่งครัด มีวินัยกับตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย ไม่ออกจากบ้าน (ถ้าไม่จำเป็น) ไม่มั่วสุม ไม่จัดงาน นั่งรถ-นั่งเรือ ต้องห่างกัน ๑ เมตร ช้อนใคร-ช้อนมัน แล้วล้างมือบ่อยๆ

                ครับ...ให้เกียรติคุณโควิดเขาหน่อย

                เพราะตอนนี้เขาแข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ไม่ว่า ไทย จีน แขก ฝรั่ง ที่ว่าแน่ๆ

                เจอพ่อโควิด ต้องยืนเอามือกุมเป้าสถานเดียว ห้ามแอะ

                ใครแอะ....ตาย!

                นี่ก็ "สัปดาห์สุดท้าย" ของเดือน "มีนามหาสยอง" แล้ว อย่ากระนั้นเลย มาสำรวจดูซิว่า ในจำนวน  ๒๐๐ กว่าประเทศในโลก

                มีประเทศไหนติดอันดับ TOP 10 บ้าง?

                ล่าสุด ณ วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๓ สหรัฐฯ แซงจีน, อิตาลี ขึ้นครองอันดับ ๑ ที่มีประชาชนติดเชื้อโควิด-๑๙ มากสุดในโลกไปแล้ว!

                ก็มาไล่เลียงกันเลย ๑๐ อันดับ World Covid-19

                อันดับ ๑ สหรัฐฯ ป่วย ๘๕,๖๕๓ คน หาย ๗๑๓ คน ตาย ๑,๒๙๐ คน

                อันดับ ๒ จีน ป่วย ๘๑,๓๔๐ คน ตาย ๓,๒๘๑ คน พบป่วยใหม่เพียง ๕๕ ราย

                อันดับ ๓ อิตาลี ป่วย ๘๐,๕๘๙ คน ตาย ๘,๒๑๕ คน

                อันดับ ๔ สเปน ป่วย ๕๗,๗๘๖ คน ตาย ๘,๒๗๑ คน (อันดับ ๑ ของการเสียชีวิต ขณะนี้)

                อันดับ ๕ เยอรมนี ป่วย ๔๓,๖๔๖ คน ตาย ๒๓๙ คน

                อันดับ ๖ อิหร่าน ป่วย ๒๙,๔๐๖ คน ตาย ๒,๒๓๔ คน

                อันดับ ๗ ฝรั่งเศส ป่วย ๒๙,๑๕๕ คน ตาย ๑,๖๙๖ คน

                อันดับ ๘ สวิส ป่วย ๑๑,๗๑๒ คน ตาย ๑๙๑ คน

                อันดับ ๙ อังกฤษ ป่วย ๑๑,๖๕๘ คน ตาย ๕๗๘ คน

                อันดับ ๑๐ เกาหลีใต้ ป่วย ๙,๒๔๑ คน ตาย ๑๓๑ คน

                ตัวเลขสรุปทั้งโลก....

                ณ ๒๗ มี.ค.๖๓ "ป่วยสะสม ๕๒๐,๔๐๖ คน ตาย ๒๓,๕๙๓ คน!"

                ต้องบอกว่า "ใจหาย" และอาลัยเศร้าแก่มนุษย์ร่วมสังคมโลก ทั้งผู้ติดเชื้อและผู้ต้องเสียชีวิต

                มนุษย์เรา ก็เท่านี้จริงๆ แต่ละคน ล้วนเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน มาจากไหน ไม่มีใครรู้

                เพียงช่วงเวลาหนึ่ง........

                ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ร่วมโลก, ร่วมชาติ, ร่วมพี่, ร่วมน้อง, ร่วมพ่อ, ร่วมแม่, ร่วมเพื่อน และร่วมชีวิต เป็นสามี-ภรรยา กัน

                และทั้งหมดนั้น บ้างรักกัน บ้างเกลียดกัน บ้างแก่งแย่งชิงดีกัน

                แต่สุดท้าย.......

                ทุกคน ต่างต้องกลับไปสู่ ณ ที่ซึ่งไม่มีใครตามพบ และไม่มีใครรู้ว่า แต่ละคนแยกย้ายไปหนไหน

                แม้เวียนภพ-เวียนชาติ กลับมาเกิดอีกครั้งหนึ่ง ที่เคยเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นสามี เป็นภรรยา เป็นลูก

                ก็กลายเป็น "คนแปลกหน้า" ซึ่งกันและกันอีก!

                เฮ้อ....

                คิดอย่างนี้แล้ว "ตาย-เป็น" นั้น แก่นสารอยู่ตรงไหน?

                ดังนั้น อดีต-อนาคต "ไม่มีความหมาย" เท่าปัจจุบัน

                เมื่อแต่ละคนมีวาสนาได้เกิดเป็นคนร่วมชาติ-ร่วมสังคมกันเช่นนี้แล้ว ชีวิตนั้น "สั้นนัก"

                ฉะนั้น "ปัจจุบัน" มีความหมายที่สุด

                ถ้าปัจจุบันดี "อดีต-อนาคต" อันเป็นผลสืบเนื่องจากปัจจุบัน ก็ต้องดีแน่นอน

                เมื่อตรองเห็นเช่นนี้แล้ว พี่น้องไทยเอ๋ย มีวาสนาได้เกิดมาอยู่ร่วมชาติ-ร่วมแผ่นดิน

                จะโกรธ จะเกลียด จะแก่งแย่ง จะแบ่งเขา-แบ่งเรา สร้างไฟสุมแผ่นดินไปเพื่ออะไรกัน?

                ไม่มีใครร้อนจากไฟที่เราสุมหรอก นอกจากพี่น้องไทยเราเองที่ต้องร้อน และร่านทุรน

                "รัก-สามัคคี-มีเมตตา-เผื่อแผ่-เจือจาน-เกื้อกูล" กันไว้เถิด ข้างหน้าคือหุบเหว กลับหลังคือฟากฝั่ง

                ทั้งหมดนี้ ผมเพียงถ่ายทอด

                ที่บอก คือ คุณพ่อโควิด!

                ฉะนั้น ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ตรองกัน หายนะ "สงครามโรค" มาถึงหัวขนาดนี้แล้ว

                สาธุชนคนดีทั้งหลาย ทั้งจากดีกรีการเมือง, การศึกษา, ครูบาอาจารย์มหา'ลัย

                ไม่เห็นแก่บ้านเมือง ไม่เห็นแก่พี่น้องร่วมชาติที่ว้าวุ่นใจ ก็ขอให้เห็นแก่ความเป็นคนของตัวเอง

                อย่าโพสต์-อย่าพูด ลักษณะกวนตีน ในขณะที่รัฐบาล แพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนร่วมชาติ "ทุกหมู่เหล่า" กำลังร่วมแรง-ร่วมใจฝ่าวิกฤติโควิดขณะนี้เลย

                เห็น ๑๐ อันดับ World Covid-19 กันไปแล้ว.....

                บางท่านอาจอยากทราบ แล้วไทยเราล่ะ อยู่อันดับโลกที่เท่าไหร่?

                ขอยืดอกตอบว่า........

                ของเรารั้งท้ายตาราง "ป่วยน้อย-ตายน้อย" เรียกว่า "ไม่ติดอันดับ" ฮิต-ฮอต ห้อยๆ อยู่เกือบอันดับ  ๕๐ โน่น!

                ก็ดูซี.....

                จากป่วยวันละเป็นร้อยติดๆ กันมา ๔-๕ วัน วานซืน "๒๖ มีนา" ตัวเลขป่วยสามหลัก คือ ๑๑๑

                แต่ล่าสุด เมื่อวาน (๒๗ มีนา) หล่นแวบลงมาอยู่ที่เลขสองหลัก คือ "๙๑"!

                ตัวเลขมาตรฐาน "ศูนย์โควิด" ณ ๒๗/๓/๖๓ เป็นดังนี้

                -พบติดเชื้อเพิ่ม ๙๑ คน

                -รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด ๑,๑๓๖ คน

                แยกประเภทเป็นดังนี้

                -ผู้ป่วยหนัก ๑๑ คน

                ผู้ป่วยอยู่โรงพยาบาล ๑,๐๓๔ คน

                -เสียชีวิต ๕ คน

                -รักษาหายเพิ่ม ๙ คน

                -รวมรักษาหายเเล้ว ๙๗ คน

                ถือว่าสาธารณสุขของเรา "ตรึงที่มั่น" ยันการบุกของโควิดไว้ได้น่าพอใจ เมื่อเทียบกับเพื่อนๆ ประเทศทั้งหลาย ในวิกฤติเดียวกัน

                ต้องชื่นชม ปรบมือ ให้ ทีมแพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์ของเรา ที่รบชนิดเอาชีวิตเข้าแลกในศึกนี้

                พวกเรา "ชาวแนวหลัง" ทั้งหลาย.......

                ตั้งแต่อายุร้อย ถึงอายุสิบขวบ นอกจากช่วยกันคนละไม้-ละมือ ในด้านส่งกำลังบำรุง ใครทำอะไรได้ตรงไหนก็ทำแล้ว

                การเชื่อฟังมาตรการของรัฐ และการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของหมอ

                เหล่านี้ ถือเป็น "ส่วนเสริม" ที่สำคัญ

                ๒ เดือนป่วยระดับพัน ไม่เป็น ๔-๕ พัน ก็เอาเหอะ..ถือว่าพวกเราประชาชนเกาะหลังนักรบเสื้อกาวน์เป็นฮีโร่ไปด้วยก็แล้วกัน

                แต่อย่าเพิ่งดีใจไปนัก ที่ตัวเลขป่วยหักหัวลงต่ำ ต้องดูต่อเนื่องอีกซัก ๔-๕ วัน

                ถ้าหัวที่หักไม่เงยพยักหน้าขึ้นเพดาน นั่นค่อยระบายลมที่อั้นในท้องได้สะดวกหน่อย

                แต่ถ้ายังคงสถิติ พบป่วยวันละ ๙๐-๑๐๐ ขึ้น ก็หมายความว่า ๑๐ วัน ๑ พัน

                แบบนั้น สิ้นเมษาอันดับไทยมีโอกาส "ขยับขึ้น" สู่ระดับป่วยสะสมทะยานหลักหมื่น!

                ผมคิดว่า ไม่มีใครอยากเห็นตัวเลขนี้

                ถ้าไปถึงตัวเลขนี้ แพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์ แข็งแกร่งในปฐพีขนาดไหน ก็คงยากรับไหว!

                ดังนั้น ต้องเคร่งครัดในมาตรการและคำแนะนำหมอ มีวินัยกับตัวเอง

                บุคลากรทางการแพทย์อีกแขนงหนึ่งที่ "ปิดทองหลังพระ" ตอนนี้ คือ "อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน" ที่เรียกกันว่า "อสม."

                ประมาณ ๗ แสนคน กระจายกันอยู่ตามเมือง ตามชนบท "ทุกจังหวัด" ของประเทศ

                ลำพัง "แพทย์-พยาบาล" ไม่พอรับมือโควิดหรอก ก็ได้ อสม.นี่แหละ เป็น "กำลังรบ" ในทัพแพทย์-พยาบาล คอยติดตาม สอดส่อง ดูแล ใครป่วย-ไม่ป่วย อยู่ที่ไหนบ้าง

                เห็นคลิปที่เผยแพร่กันแล้วใช่มั้ย?   

                พวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ไม่ยอมกักตัวเฝ้าดูอาการ ๑๔ วัน กลับชนบท ก็สุมหัวกินเหล้า กร่างไปทั่ว

                อสม.ท่านก็เด็ดขาด-เข้มแข็ง

                ผู้หญิงแท้ๆ กล้าตามลากให้ไปกักตัว เคร่งครัดในหน้าที่ ที่ต้องบอกว่า "นับถือ..นับถือ"

                เป็นผมก็ไม่กล้า.....

                เจ็บตัวหรือตายได้ง่ายๆ ไปเล่นกับสุภาพบุรุษแรงงานที่กลับไปเริงสำราญแบบเถื่อนๆ อย่างนั้น!

                ก็ส่งท้าย "ไตรมาส ๑" ไว้แค่นี้........

                ไตรมาส ๒ สงกรานต์ ขอ "คุณพระรักษา" ยอดป่วย "หักหัวลงมา" เรี่ยดินเทิ้ดดด พ่อเจ้าประคุณ.    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"