วธ.แนะงด ลด เลื่อนเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนา พร้อมออกแนวทางปฎิบัติให้ประชาชนป้องกันโควิด-19


เพิ่มเพื่อน    

 

จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)  ในทุกทวีปทั่วโลกและมีผู้ติดเชื้อในประเทศไทยจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ถือว่าเป็นสถานการณ์ร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกมิติ ทั้งนี้ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา รัฐบาลได้กำหนดมาตรการและกลไกการดำเนินการโดยบูรณาการหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วย เพื่อเร่งระดมสรรพกำลังในการช่วยเหลือประชาชนตามบทบาทและภารกิจ

           

ในส่วนของ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 ได้รับทราบรายงานของ วธ. ในการดำเนินงานภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน : กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รวมถึงให้จัดทำ “แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนา และพิธีการต่างๆ กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” เพื่อลดความตระหนก และสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจและการปฏิบัติตนให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งมีสาระพอสังเขป ดังนี้

 

          

จากการประเมินสถานการณ์วิกฤตนี้นับวันจะยิ่งรุนแรง ขยายวงกว้าง  วธ. จึงเห็นว่า การจัดกิจกรรมตามเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนา และพิธีการต่างๆ เป็นกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนหมู่มาก อาจเกิดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดในโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมมิให้มีการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว จึงกำหนดให้มี “แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนา และพิธีการต่างๆ กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)” โดยมีเนื้อหาพอสังเขป ดังนี้ ๑. งดหรือเลื่อนการจัดงานเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนา และพิธีการต่างๆ ที่เป็นการรวมตัวของคนจำนวนมาก

          

๒. กรณีที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ไม่สามารถงดหรือเลื่อนการจัดงานนั้นๆ ได้ ให้ปฏิบัติตามแนวทาง ดังนี้ ให้ปฏิบัติโดยไม่ขัดต่อประกาศ คำสั่ง และข้อกำหนด ดังนี้ ประกาศ คำสั่ง และข้อกำหนดที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ พร้อมทั้งมาตรการที่รัฐบาล และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กำหนด กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด และ ประกาศขององค์การทางศาสนาที่ทางราชการให้การรับรอง หรือหน่วยงานของรัฐที่กำกับ

 

          

แนวทางการปฏิบัติทั่วไป สำหรับ“ผู้จัดงาน”  ต้องแจ้งเจ้าพนักงานหรือหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคระดับหมู่บ้านหรือชุมชนที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายให้กำกับดูและในพื้นที่ ต้องระบุข้อความบัตรเชิญร่วมงานว่า “ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย รวมทั้งให้นำบัตรประชาชนหรือบัตรที่ทางราชการออกให้มาด้วย และหากมีอาการป่วย เป็นไข้ ไอ ให้งดการมาร่วมงานโดยเด็ดขาด” ต้องจัดให้มีจุดคัดกรองและตรวจวัดไข้ผู้เข้าร่วมงาน หากตรวจพบผู้มีอุณหภูมิเกิน ๓๗.๕ องศา แนะนำให้ไปพบแพทย์โดยทันที งดจัดงานเลี้ยงทุกประเภท งดการแสดง ดนตรี มหรสพ หรือเต้นรำทุกชนิด เป็นต้น

 

          

แนวทางการปฏิบัติ สำหรับ “ผู้ร่วมงาน” ต้องแต่งกายให้มิดชิดเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์เจล โดยต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในงาน ต้องเว้นระยะห่างการนั่งหรือยืนระหว่างบุคคล ไม่น้อยกว่า ๒ เมตร ต้องปฏิบัติตามหลักสุขอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยแอลกอฮอล์เจล หรือด้วยน้ำสะอาดและสบู่เหลว งดเข้าร่วมงานหากมีอาการป่วย เช่น ตัวร้อน ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดเนื้อปวดตัว หายใจเหนื่อยหรือหายใจลำบาก และให้รีบไปพบแพทย์ เป็นต้น

          

ส่วนแนวทางการปฏิบัติเป็นการเฉพาะ ได้แก่ 1.งานมงคลสมรส  นอกจากผู้จัดงานและผู้ร่วมงานต้องปฏิบัติตามแนวทางข้างต้นแล้ว ยังต้องจำกัดจำนวนคนรดน้ำสังข์ ให้น้อยที่สุด เช่น บิดามารดา ญาติผู้ใหญ่ หรือแขกผู้ใหญ่เท่านั้น และต้องจัดแถวเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลไม่น้อยกว่า ๒ เมตร งดพิธีแห่ขันหมาก งดหรือเลื่อนจัดงานเลี้ยงฉลองทุกประเภท 2. งานพิธีการศพ นอกจากผู้จัดงานและผู้ร่วมงานต้องปฏิบัติตามแนวทางข้างต้นแล้ว ต้องลดจำนวนวันสวดพระอภิธรรมศพให้น้อยที่สุด และใช้เวลาสวดให้น้อยที่สุด ต้องจัดอาสนะสงฆ์ ให้มีระยะห่างระหว่างกันไม่น้อยกว่า ๑ – ๒ เมตร ต้องจัดเก้าอี้นั่งสำหรับแขกที่มาร่วมฟังสวดอภิธรรม หรือร่วมฌาปนกิจศพ ให้มีระยะห่างระหว่างกันไม่น้อยกว่า ๒ เมตร

          

ต้องจำกัดจำนวนคนร่วมพิธีแห่ศพเวียนเมรุให้น้อยที่สุด และให้ตั้งแถวตอนลึกต้องเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลไม่น้อยกว่า ๒ เมตร ต้องจัดแถวระยะห่างระหว่างผู้ขึ้นวางดอกไม้จันทน์ ไม่น้อยกว่า ๒ เมตร  ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข หากเป็นกรณีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ต้องปฏิบัติตามประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรี หากเป็นกรณีศาสนาอิสลาม ส่วนศาสนาอื่นให้ปฏิบัติตามประกาศหรือคำแนะนำขององค์การทางศาสนานั้นๆ

          

วันสำคัญทางศาสนาหรืองานบุญ ขอให้งดการเข้าร่วมกิจกรรม ณ ศาสนสถาน โดยให้ใช้ช่องทางสื่อสารออนไลน์แทน เช่น การฟังธรรมะออนไลน์ งดการใช้มือหยิบข้าวใส่บาตรพระภิกษุ เทศกาลไหว้บรรพบุรุษ (เช็งเม้ง) ขอให้งดการเดินทางไปกราบไหว้บรรพบุรุษ ณ สุสาน (ฮวงซุ้ย) โดยให้จัดพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษที่บ้านแทน งดการรวมญาติ

          

ที่สำคัญใน “เทศกาลประเพณีสงกรานต์” ในปีนี้ ขอให้งดเว้นการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับ งดเว้นการเดินทางกลับภูมิลำเนา หากต้องการรดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ หรือแสดงความกตัญญูกตเวที หรือแสดงความปรารถนาดีต่อกัน เนื่องในโอกาสประเพณีสงกรานต์ ควรใช้การสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ หรือช่องทางสื่อสังคมออนไลน์  งดการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค โดยเด็ดขาด เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ ให้ปฏิบัติเฉพาะภายในครอบครัวเท่านั้น โดยมีกิจกรรม ดังนี้ สรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน รดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ที่บ้านโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของญาติผู้ใหญ่ ที่สูงอายุ และทำความสะอาดบ้านเรือน โดยสมาชิกในครอบครัวทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนวัฒนธรรม 1765

 

            

อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างการรับรู้ กระตุ้นจิตสำนึก และแนะนำข้อควรปฏิบัติ แก่ประชาชน ในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ผ่านมา วธ. โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ ยังได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายวัฒนธรรม จัดทำแผ่นพับ คลิปวีดิโอ อินโฟกราฟิก (Infographic) เผยแพร่องค์ความรู้ “แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนา และพิธีการต่างๆ กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” ไปยังประชาชน ชุมชนคุณธรรมฯ ผ่าน สื่อต่าง ๆ ทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นให้คำแนะนำด้วยตัวเอง สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุชุมชน ป้ายประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์ต่างๆ ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในชีวิประจำวันได้อย่างถูกต้อง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสื่อท้องถิ่น คณะสงฆ์ ประชาชนเป็นอย่างดี

            

วธ.จึงขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือร่วมใจทุกๆมาตรการ รวมไปถึงการขอร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยจัดทำหน้ากากอนามัยชนิดผ้าแจกประชาชน  การอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เว้นระห่างทางสังคม ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดจัดตั้งโรงทานช่วยเหลือผู้ประสบความยากลำบากในสถานการณ์โรคระบาดตามความจำเป็นในแต่ละพื้นที่ ตามพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราช โดยใช้กลไกพลัง “บวร” และชุมชนคุณธรรมฯในพื้นที่  

                

ด้วยความห่วงใยจากรัฐบาล กระทรวงวัฒนธรรม และพลังความสามัคคี ความร่วมมือร่วมใจ ความรับผิดชอบต่อสังคมของทุกภาคส่วนในครั้งนี้ จะช่วยป้องกันและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019   (COVID-19)  ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดี

                                   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"