งัดกม.เข้มดับไฟป่า


เพิ่มเพื่อน    


    "บิ๊กตู่" กำชับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง งัดกฎหมายเข้มดับไฟป่าภาคเหนือ ทส.พิษณุโลก ปลุกเร้าเรียกขวัญ "เสือไฟ" ลั่นขาดพวกท่าน ถ้าไฟป่ามาเราเสียแน่ หลังเหตุ จนท.ไฟป่า-ปชช.จิตอาสาเสียชีวิตแล้วทั่วภาคเหนือประมาณ 5 ราย ส.ส.ภาคเหนือ พรรคเพื่อไทย ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ  เรียกร้องแก้ปัญหาไฟป่าให้ตรงความเป็นจริง
    เมื่อวันที่ 7 เมษายน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และ ทส. เป็นต้น ให้บูรณาการงานร่วมกันเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาไฟป่าภาคเหนือ โดยนายกฯ ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด หากแต่ละหน่วยงานเห็นว่ามีกฎหมายใดบ้างก็ขอให้งัดมาใช้อย่างเต็มที่ที่สุด ไม่ให้ละเว้นเด็ดขาด ถ้าจับใครได้ก็ดำเนินการให้เต็มที่ ทั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3-4  รายแล้ว และจะจับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ละเว้น ซึ่งมีการฟ้องร้องคดีมากขึ้นหลังจากที่เมื่อก่อนไม่มีการฟ้องคดี แต่ปัจจุบันให้ทางราชการเป็นเจ้าทุกข์ฟ้องดำเนินคดีทุกราย
    นายวราวุธกล่าวว่า นายกฯ ให้ทุกหน่วยงานทำงานภายใต้กรอบกฎหมายที่สามารถจะทำได้ ให้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ ทส.ให้ร่วมมือและช่วยกัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ทุกกระทรวงร่วมมือดำเนินการกันอยู่แล้วในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนธิกำลังร่วมกันทุกหน่วยงาน เพื่อให้มีชุดปฏิบัติการชุดละประมาณ 10 คนเข้าไปในทุกหมู่บ้านเพื่อทำความเข้าใจ ซึ่งผลที่ออกมาทำให้จุดความร้อนในพื้นที่แต่ละแห่งนั้นลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งชุดปฏิบัติการดังกล่าวยังดำเนินการต่อเนื่อง
    ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ นายวราวุธกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่มีการพูดถึง แต่ขณะนี้​ ทส.ดำเนินการประกาศปิดป่าแล้ว ฉะนั้นตอนนี้เจอใครเข้าป่าเราจับหมด เพราะไม่มีเหตุใดที่จะมีใครเข้าป่าในเมื่อประกาศปิดแล้ว
    ส่วนกรณีข้อเรียกร้องให้แจกหน้ากากป้องกันฝุ่นพิษให้ประชาชนภาคเหนือ นายวราวุธ​กล่าวว่า ถ้าหน้ากากอนามัยที่จะป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ก็ต้องเป็นหน้ากากชนิด N95 ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควรในขณะนี้ เนื่องจากเป็นผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การบริหารราชการมีความละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น แต่เราจะพยายามทำให้เต็มที่อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
    "อย่างไรก็ตามในวันที่ 8-9 เม.ย.นี้ ตนและคณะของ ทส.จะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เพื่อไปดูสถานการณ์ด้วยตัวเองอีกครั้ง" รมว.ทส.กล่าว
    ที่จังหวัดพิษณุโลก นายสุทัศน์ วงษ์ทับทิม นายอำเภอชาติตระการ พร้อมด้วยนายธีรัชสิทธิ์ วงศ์วาน ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก นายวิโรจน์ ธีระแนว ผอ.ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สบอ.11, ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 3 และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (สาขาพิษณุโลก) นำทีมออกตรวจติดตามสถานการณ์ไฟป่า พร้อมมอบเสบียงอาหารน้ำดื่มเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าที่ อบต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ผลสืบเนื่องจากเจ้าพนักงานไฟป่าและจิตอาสาเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำให้มีการตรวจสภาพร่างกายและวัดอุณหภูมิร่างกายเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเพื่อทำหน้าที่ต่อไป
    นายธีรัชสิทธิกล่าวให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ไฟป่าว่า ถ้าไฟป่ามา ขาดพวกท่าน เราเสียแน่ ขณะนี้สถานการณ์หมอกควันไฟป่าในภาคเหนือ 17 จังหวัดรุนแรงมาก จุดความร้อนหรือ Hotspot เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราเป็นนักรบเพื่อธรรมชาติ แม้จะทราบว่าพื้นที่หน้างานลำบากมากในการดับไฟ แต่เราก็ต้องไป เราจะต้องผ่านวิกฤติไฟป่าไปด้วยกัน
    "สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพิษณุโลกยังไม่เป็นอันตรายต่อประชาชน ที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับนายอำเภอชาติตระการ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ สามารถดับไฟป่าที่ ต.บ้านดง ก็ส่งผลให้เรื่องฝุ่นละอองลดลง  ส่วนพื้นที่ป่าสงวนฯ ก็ได้ควบคุมไฟป่าและระงับเหตุที่ อ.เนินมะปราง พร้อมแจ้งความดำเนินคดีผู้กระทำความผิด จึงวิงวอนให้ทุกคนอย่าเผาป่าทุกกรณีเพื่อประเทศชาติ"
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไฟป่าหรือเสือไฟในหลายพื้นที่กำลังปฏิบัติหน้าที่พร้อมกับจิตอาสาหรือประชาชนในหลายพื้นที่ภาคเหนือ แต่กลับต้องเผชิญกับสภาพอันเลวร้ายของไฟป่า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ประมาณ 5 รายทั่วภาคเหนือ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย และตาก 
    ขณะเดียวกัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคเหนือ พรรคเพื่อไทย ทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในภาคเหนือ โดยมีเนื้อหาระบุว่า ด้วยปัญหาการเกิดฝุ่นควัน PM 2.5 ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดเชียงใหม่ สาเหตุหลักคือการเผาป่า มิได้เกิดจากไฟป่าธรรมชาติ โดยลักษณะภูมิศาสตร์และภูมิประเทศของจังหวัดเชียงใหม่เป็นแอ่งกระทะ แม้ว่าปัญหาในพื้นที่อาจจะลดน้อยลง แต่เมื่อใดที่อากาศยกตัวก็จะมีกลุ่มควันมาจากจังหวัดใกล้เคียง และที่สำคัญมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งยังมีอุปสรรคนานัปการในการทำงานของเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสา ด้วยการขาดเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำงาน ทั้งหมดนี้พวกตนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงขอเสนอข้อเรียกร้องเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง ดังต่อไปนี้
    "ระยะสั้น ให้นายกรัฐมนตรีต้องให้ความสำคัญกับปัญหา และต้องสั่งการอย่างเด็ดขาด, ขอให้ดำเนินการเร่งรัดการดับไฟป่า และป้องกันการไหม้โดยด่วน, ประกาศให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดเป็นเขตภัยพิบัติ เพื่อสามารถใช้งบประมาณทดรองจ่ายกรณีภัยพิบัติ, จัดตั้งทีมปฏิบัติการดับไฟพิเศษทันเหตุการณ์ โดยให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม และมีการสนับสนุนเต็มที่จากภาครัฐ, จัดให้มีการเปิดเผยข้อมูล  ข้อเท็จจริง และรายงานสถานการณ์เป็นรายวัน, รัฐต้องแจกหน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่นละออง  PM 2.5 ให้คนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ, รัฐต้องจัดสรรบุคลากรทางด้านสาธารณสุขให้เพียงพอ
    ระยะกลาง ขอให้รัฐต้องเป็นตัวกลางในการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในประเด็นปัญหาหมอกควันข้ามแดน, ขอให้ออกมาตรการให้บริษัทเอกชนรายใหญ่ที่เป็นผู้สนับสนุนในการทำลายตอและซังทดแทนการเผา, การจัดสรรงบประมาณเพื่อเพิ่มศักยภาพในกระบวนการควบคุมไฟป่า
    ระยะยาว ต้องให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องของผลกระทบจากการเผาป่า, รัฐต้องเร่งรัดในการออกร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาด, การสนับสนุนมาตรการทางภาษีให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม และการคมนาคมที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ, ผลักดันอย่างจริงจังในการใช้พลังงานทดแทน, ปรับปรุงกฎหมายที่ดินและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดการอยู่ร่วมกันของคนในพื้นทีกับป่าอย่างยั่งยืน, ต้องเน้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการรักษาทรัพยากรของชาติ
    อย่างไรก็ตาม ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันในภาคเหนืออย่างจริงจัง โดยทุกฝ่ายยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันอย่างยั่งยืนต่อไป".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"