บันทึกหน้า4


เพิ่มเพื่อน    

ข่าวดีเล็กๆ ในที่สุดก็กลับสู่ความจริง เมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 เมื่อวันที่ 8 เมษายน ก็กลับมาสู่เลขสามหลักอีกครั้ง โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มถึง 111 คน ทั้งที่ช่วง 2 วันก่อนหน้านี้ระดับอยู่แค่ 2 หลักเท่านั้น จึงทำให้ตัวเลขผู้ป่วยล่าสุดของไทยอยู่ที่ 2,369 ราย ซึ่ง “นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน” โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) ก็ได้แถลงโดยชี้ว่า กลุ่มก้อนใหม่ของผู้ติดเชื้อที่ต้องเฝ้าระวังคือ ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ...๐ ยิ่งดูตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุด 3 รายก็ยิ่งทำให้น่าปริวิตก เพราะเป็นชาวต่างชาติทั้งสิ้น ทั้งชาวรัสเซีย อเมริกันและอินเดีย ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 30 คน ที่สำคัญ การติดเชื้อล่าสุดยังทำให้จังหวัดสตูล ซึ่งเดิมเป็น “ไข่แดง” แห่งการปลอดโควิด-19 มีอันต้องจบลงเสียแล้ว เพราะพบว่าคนไทยที่กลับจาก “อินโดนีเซีย” จำนวน 42 ราย ติดเชื้อในการทำพิธีดาวะห์ ซึ่งเป็นชาวสตูลถึง 16 ราย ทำให้เหลือเพียง 10 จังหวัดเท่านั้นที่ไวรัสยังไปไม่ถึง ที่น่าสนใจของ “เคสการทำพิธีดาวะห์” จากอินโดนีเซียที่เป็นกลุ่มถึง 42 คน แต่เมื่อดูตัวเลข ผู้ติดเชื้อของอินโดนีเซียที่รายงานว่ามีเพียงระดับกว่า 2.7 พันราย มากกว่าไทยแค่กว่า 300 รายเท่านั้น น่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด เพราะนี่ขนาดคนไทยกลับมาจากพิธีดังกล่าวก็ติดเชื้อกันแทบทุกราย แล้วคนอินโดฯ เองจะตัวเลขแค่นี้ได้อย่างไร...๐ หันกลับมามองมาตรการเงินกู้ครั้งมโหฬารในการต่อสู้โควิด-19 และเยียวยาหลังผ่านคณะรัฐมนตรีในวงเงิน 1.9 ล้านล้านบาทบ้าง ซึ่งก็มี 4 กลุ่มที่กระเป๋าตุงกันไปแล้ว เพราะได้รับเงินงวดแรก 5 พันบาท ได้แก่ ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล, คนขับรถแท็กซี่, วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และมัคคุเทศก์ ซึ่งบรรดาขาเมาธ์ก็ถึงกับงงงวยว่าทำไมต้องเป็น 4 กลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรก ทั้งที่วินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ยังทำมาหากินได้ ในขณะที่อาชีพอื่นๆ ที่เป็นลูกจ้างแต่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมนั้นต้องปิดร้านปิดกิจการจากคำสั่งล็อกดาว์นกันไปแล้ว...๐ ยิ่งได้เห็น “ดรามา” กรณีสาวออกมาบอกว่าเงิน 5 พันเป็นแค่เศษเงินนั้นก็ยิ่งทำให้น่าคิดว่าระบบการกลั่นกรองของ “กระทรวงการคลัง” ใน บังเหียนการดูแลของ “อุตตม สาวนายน” น่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะบรรดาผู้ค้าสลากฯ ที่ปกติหากไม่มีไวรัสล้างโลกนี้ก็เป็นแผงขายสลากเกินราคาเสียด้วย แต่กลับได้รับเงินเยียวยากับเขาด้วย อย่างนี้จะเรียกว่ายุติธรรมหรือไม่อย่างไร เพราะยาม ปกติยังกระทำผิดกฎหมายด้วยซ้ำ...๐ ที่ตลกไม่ออกเข้าไปอีกคือ มาตรการค่าไฟฟรีที่ ตีปี๊บเสียใหญ่โตในเรื่องใช้ไฟฟรี 3 เดือน เพราะจริงๆ แล้วต้องเป็นบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ โดยขยายเพดานการใช้ไฟฟรีจาก 50 หน่วยเป็น 90 หน่วย หรือตกประมาณบ้านละไม่เกิน 300 บาทนั่นแล ถามหน่อยเถอะส่วนใหญ่บ้านไหนใช้ไม่เกินกันบ้าง ยิ่งในสภาพอากาศร้อนอบอ้าวอย่างนี้ ซึ่งไม่ต่างจาก ส่วนลดค่าน้ำ 3% ที่จะลดให้ เพราะในความเป็นจริงหากต้องการได้เงินคืนพอค่าข้าวแกงจานละ 30 บาท ซึ่งแทบไม่มีใครขายแล้ว เท่ากับต้องจ่ายค่าน้ำกันถึง 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งความจริงก็เป็นไปไม่ได้อีก หากไม่อยู่กันเป็น 10-20 คน...๐ งานนี้เลยต้องฝากรัฐมนตรีที่ดูแลการเยียวยาทั้งหลาย ถ้าจะทำเพียงได้หน้าก็อย่าทำเสียดีกว่า และถ้าจะทำจริงก็ควรทำอย่างจริงใจและจริงจัง ลดภาระได้อย่างแท้จริง อย่างกรณี “โทรศัพท์บ้าน” ในช่วงเวลา “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ก็ควรเลิกได้แล้วในค่ารักษาเบอร์ 107 บาท ทั้งที่ความจริงไม่ว่าจะมีโควิด-19 หรือไม่ก็ควรไม่มีนานแล้ว ไม่ใช่มาทำตัวเป็น “เสือนอนกิน” ฟรีทุกๆ เดือน ก็ฝาก “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคมไปดูแลด้วย...๐ ที่ต้องฝาก “น้องรักของพี่เนวิน” อีกเรื่องคงไม่พ้นเรื่อง “ขสมก.” เพราะเข้าใจได้ว่ามีเคอร์ฟิว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องหยุดบริการ หรือบริการแบบขอให้พ้นไปวันๆ เพราะมี ผู้ร้องเรียนมา แถวคลองเตยในช่วงเคอร์ฟิว 2-3 วันแรก พบว่าในเวลา 20.00-21.00 น. แทบไม่มีรถเมล์ของ ขสมก.วิ่งเลย ทั้งที่เงินเดือนก็ได้เท่าเดิมไม่ได้ลดตามเคอร์ฟิว ทั้งที่ควรจะออกรถให้ถี่ให้มากขึ้น เพราะเวลาการขับรำน้อยลงต่อวัน แล้วยังเป็นการช่วยเหลือคนหาเช้ากินค่ำ แต่ทำไปทำมากลับเป็นการกลั่นแกล้งและซ้ำเติมความยากลำบากเสียนี่กระไร...๐ ทิ้งท้ายด้วยความสับสนของชาวบ้านอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อ “กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” หรือดีเอสไอของ “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” ออกแอปพลิเคชันที่ชื่อ Card2U โดยระบุว่าเป็นแอปที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 แต่ใครต่อใครต่างมึนงงกันมาก เพราะแค่ชื่อก็ไม่สะท้อนแล้ว ที่สำคัญ “โปรแกรม” ก็แทบจะใช้งานใช้การอะไรไม่ได้เลย แค่ปรับโปรไฟล์ หรือเรื่องจีพีเอสก็ไม่เอาอ่าวเสียแล้ว งานนี้เขาเลยสงสัยกันว่าเป็น “แอปการกุศล” หรือว่าจ้างให้ทำกันแน่ เพราะหากว่าจ้างจริงก็เรียกว่าผลาญเงินผลาญทองกันเสียเปล่าๆ ปลี้จริงๆ...๐


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"