ตำรวจไทยรับตัว 18 ผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จาก UAE


เพิ่มเพื่อน    

2 เม.ย. 61 -   ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา พิเศษ ตร. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ร่วมกันรับตัวผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวไทย จำนวน 18 คน จากตำรวจประเทศสหรัฐอารับเอมิเรตส์เพื่อดำเนินคดีข้อหา “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ,กระทำการเป็นอั่งยี่ซ่องโจร,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงเป็นบุคคลอื่น,ร่วมกันฟอกเงินละร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวงกันนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”  หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการศูนย์ป้องกันแลปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศป.ฉปทน.ตร.) เข้าทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมืองดูไบ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา จับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 23 คน เป็นคนไทย 22 คน และชาวไต้หวันอีก 1 คน   

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร.กล่าวว่า ตามนโยบายของ  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องความมั่นคง เพราะประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และจะได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน แก๊งดังกล่าวเป็นแก๊งของนายฉีเคอ ชาวไต้หวัน เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ ตำรวจได้รับความร่วมมือกับหลายหน่วยๆ กระทั่งสามารถนำเงินกลับคืนผู้ได้รับความเสียหายหลายล้าน อยากฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน ถ้ารู้ตัวว่าถูกหลอกให้รีบแจ้งเจ้าหน้าทีทันที เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้ทันถ่วงที   ต่อจากนี้ถ้ามีข้อมูลประเทศใดมีแก๊งคอเซ็นเตอร์เข้าไปตั้งฐานก็จะประสานด้านฑูตเพื่อขอความร่วมมือในการเข้าจับกุม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ขาดการต่อเนื่อง พึ่งมาทำจริงจังเมื่อ2 ปีที่ผ่านมา

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่หลอกลวงคนไทยมีฐานตั้งอยู่ที่ประเทศยูเออี  พล.ต.อ.จักรทิพย์ จึงประสาน  ผบ.ตร.ประเทศยูเออี เข้าทลายแก๊งดังกล่าววนนี้นำตัวกลับมา 18 คน พรุ่งนี้ (3 เม.ย.)นำตัวกลับมาอีก 4 คน  ถือเป็นความสำเร็จ ส่วนของทรัพย์สินที่ต้องเร่งคืนให้ประชาชนที่ถูกหลอก สำนวนต้องส่งอัยการให้ได้ภายในเดือนเม.ย. เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเฉลี่ยทรัพย์คืนให้ประชาชนโดยเร็ว ตั้งแต่เข้าทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ต่างประเทศมาแล้ว 5 ครั้ง การหลอกลวงประชาชนลดวูบอย่างน่าใจหาย และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ดูไบมีจำนวนคนมาก มีความเฉี่ยวชาญสูง หลอกลวงคนไทยมูลค่าความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท

การเข้าทลายแก๊งคอล์เซ็นเตอร์ที่เมืองดูไบ เป็นผลมาจากการเข้าทลายที่ประเทศกัมพูชา พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงจึงทราบแหล่งที่มาถึงตัวขบวนการชาวไต้หวัน เพราะแต่ละจุดจะมีชาวไต้หวันเป็นหัวหน้าควบคุมทุกจุด 70 เปอร์เซ็นการหลอกลวงมาจากกลุ่มนี้ หลังจากกลุ่มนี้ถูกจับสถานการ์เบาลงเยอะ ส่วนผู้ต้องหาที่จับได้ที่ประเทศกัมพูชาอยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อขอนำตัวคนไทยกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย

ขณะที่นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ปิดเผยว่าในส่วนของ ปปง.สายด่วน 1710 พบว่าสถิติหลอกลวงของแก๊งคอเซ็นเตอร์ลดน้อยลงมาก บางวันแทบไม่มี จากเดิมประมาณ 10 เรื่องต่อวัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมืองดูไบ เป็นแก๊งใหญ่ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ผู้กระทำความผิดลดน้อยลงมาก ถึงแม้สถิติจะลดลงแค่แก๊งดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ตลอด ใช้เครื่องมือที่ทันสมัย สิ่งที่ควรจะสร้างต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงรูปแบบการกระทำความผิด การประชาสัมพันธ์เป็นการป้องกันอย่างหนึ่งเพื่อไม่ให้เกิดการหลอกลวงขึ้นอีก. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"