'สิระ'ร้องกกต.คลายกฎ อยากทุ่มแจก'ฐานเสียง'


เพิ่มเพื่อน    

    ใจถึงพึ่งได้! "สิระ" เรียกร้อง กกต.ยกเว้นไม่นำเงินที่ส.ส.ช่วยประชาชนในวิกฤติโควิดไปรวมกับค่าใช้จ่ายเลือกตั้งครั้งถัดไป ครวญเพดาน 3 แสนน้อยไป ช่วยชาวบ้านไม่ทั่วถึง ขณะที่ "ธนกร" ยันรัฐบาลเยียวยาประชาชนทุกกลุ่ม มีจ่ายอีกเยอะอย่ากังวล เผยชีวิตแรงงานต้มยำกุ้งในมาเลเซียสุดรันทด ได้กินข้าวต้มมาม่าก็หรูแล้ว
    เมื่อวันที่ 11 เมษายน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาพ.ร.ป.การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 และ ระเบียบ กกต.ว่าด้วยจำนวน หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขของการให้ตามประเพณี หรือเมื่อมีเหตุอันสมควร และการยื่นคัดค้านเกี่ยวกับการบันทึกค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป พ.ศ.2561 อย่างยืดหยุ่น เพราะในขณะนี้สถานการณ์ไม่ปกติ มีวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากจำกัดการช่วยเหลือของพรรคการเมืองช่วยเหลือได้ในแต่ละโอกาสไม่เกิน 3,000,000 บาท ส่วน ส.ส.หรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองช่วยเหลือในแต่ละโอกาสได้ไม่เกิน 300,000 บาท หากเกินกว่านั้นให้นำไปรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งต่อไป เพราะหลักเกณฑ์เช่นนี้จะทำให้ส.ส.มีข้อจำกัดในการช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส
    เขากล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นวิกฤติที่ยืดเยื้อ และอาจใช้เวลาเป็นปีกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย การจำกัดวงเงินการช่วยเหลือไว้ที่จำนวน 300,000 บาทสำหรับผู้เป็น ส.ส.หากเกินกว่านั้น ต้องนำไปรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะทำให้ ส.ส.ช่วยเหลือชาวบ้านไม่ได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ผมคิดว่า หาก ส.ส.จะนำเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชนออกไปช่วยเหลือชาวบ้านเจ้าของเงิน เป็นเรื่องที่ดีและเหมาะสมที่จะต้องทำ
    "ผมต้องการให้ประธาน กกต.พิจารณาเรื่องนี้ โดยเอาประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะลำพังการช่วยเหลือจากภาครัฐอาจจะไม่ทั่วถึง จึงเป็นหน้าที่ ส.ส.ที่ถือเป็นตัวแทนประชาชนที่จะต้องเข้าไปดูแล ขอให้อย่านำเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองมาเกี่ยวข้องในเวลานี้" 
    นายสิระยังกล่าวต่อว่า ตนเข้าใจในข้อกฎหมาย แต่กฎหมายบางข้อในสถานการณ์ฉุกเฉินก็ย่อมที่จะยกเว้นได้ การจำกัดงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เพียง 300,000 บาท ตนอยากจะย้อนถามว่า เงินจำนวนนี้จะเพียงพอต่อประชาชนในพื้นที่หรือไม่ กกต.ต้องตรวจสอบให้รอบคอบ แต่ละเขตมีประชาชนกี่ครัวเรือน ถ้าสถานการณ์ปกติตนไม่มีปัญหาในข้อกำหนดนี้เลย แต่ขณะนี้ชาวบ้านรอความช่วยเหลือ พวกเขาทำมาหากินไม่ได้ และจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของภาครัฐอย่างเดียวใช่หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นตนคิดว่าเราก็ไม่ควรมี ส.ส.ให้สิ้นเปลืองงบประมาณภาษีของประชาชน
    ทั้งนี้ ในวันพุธที่ 15 เม.ย. ตนและกลุ่มเพื่อนก็จะแจกข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม จำนวน 10,000 ถุง ในเขตหลักสี่และจตุจักร เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่กำลังเดือดร้อนอย่างมาก
รัฐบาลดูแลประชาชนทุกกลุ่ม
    ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท ตามโครงการเราไม่ทิ้งกันว่า ตลอดระยะเวลา 3 วันได้จ่ายไปแล้วทั้งหมด 1.4 ล้านคน นอกจากนี้ วันนี้ธนาคารกรุงไทยจะแจ้งให้ประชาชนที่ข้อมูลยังไม่ครบถ้วนให้มาลงข้อมูลเพิ่มเติม โดยธนาคารจะแจ้งผ่านเอสเอ็มเอสหรืออีเมล อีกทั้งจะส่งเอสเอ็มเอสแจ้งคนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองล็อตแรกด้วย 
    ทั้งนี้ รัฐบาลจะดูแลพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน หากมีกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนเพิ่มมาอีก กระทรวงคลังก็จะทยอยดูแลต่อไป โดยกระทรวงการคลังเตรียมงบประมาณเพียงพอสำหรับการเยียวยาประชาชนทุกกลุ่ม    
    นายธนกรกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาวิงวอนให้รัฐบาลเยียวยาให้ตรงกลุ่มนั้น ขอยืนยันว่ารัฐบาลเยียวยาถูกกลุ่มอย่างแน่นอน ไม่ต้องเป็นห่วง โดยมีการคัดกรองประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ มีเกณฑ์การคัดกรองที่ชัดเจน นอกจากนี้ ขณะนี้กระทรวงการคลังเพิ่งจะจ่ายเงินเยียวยาล็อตแรกเท่านั้น จะมีการทยอยจ่ายอีก ดังนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนอย่ากังวล หากมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่วางไว้ท่านจะได้เงินเยียวยาอย่างแน่นอน
    เขาฝากไปยัง น.อ.อนุดิษฐ์ช่วยไปให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนด้วย ประชาชนจะได้สบายใจ วันนี้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกับทีมงานทำงานแข่งกับเวลาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกคน เราจะจับมือฝ่าวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน
    นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า ภายหลังจากที่กระทรวงการคลังปรับแก้ไขระบบเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เพิ่มปุ่มยกเลิกลงทะเบียน เพื่อให้โอกาสกับประชาชนที่อาจจะไม่ได้ตั้งใจกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จให้สามารถไปยกเลิกการลงทะเบียนได้ โดยปุ่มยกเลิกลงทะเบียนเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. จนถึงขณะนี้วันที่ 11 เม.ย. รวมเวลา 8 วัน มียอดผู้ขอลงทะเบียนยกเลิกเข้าร่วมมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 แล้ว จำนวนกว่า 610,000 คน หรือคิดเป็นอัตราเฉลี่ยมีประชาชนเข้าใช้บริการปุ่มยกเลิกกว่า 76,000 คนต่อวัน
    นายชาญกฤชยังย้ำด้วยว่า ตัวเลขดังกล่าวถือว่าเป็นจำนวนที่ค่อนข้างสูง ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะกระทรวงการคลังได้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง โดยสั่งการทีมกฎหมายของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน และล่าสุดเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ทางกระทรวงการคลังได้ยื่นเอกสารหลักฐานประสานความร่วมมือไปยังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้โพสต์ข้อความลงสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการเงินเยียวยาโควิด-19 จำนวน 5,000 บาท ทั้งหมด 5 ราย 
ชีวิตแรงงานไทยในมาเลย์
    นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้ตั้งทีมกฎหมายเพื่อติดตามการเผยแพร่ข้อมูลของบุคคลต่างๆ ในโลกออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการแจกเงิน 5,000 บาทในทางที่ไม่สมควร โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ กรณีที่ 1 คนที่ได้รับเงิน 5,000 บาทจริง และมีการไปโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ว่าได้เงินมาอย่างที่ไม่ควรได้ ซึ่งทางกระทรวงการคลังจะทำการตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับ หากพบว่าผู้นั้นขาดคุณสมบัติจริง ก็จะทำการระงับการจ่ายเงินในเดือนต่อไป และให้ส่งเงินที่ได้รับ 5,000 แรกคืนให้กับรัฐบาล โดยที่รัฐบาลจะไม่ดำเนินคดี และกรณีที่ 2 ผู้โพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ว่าได้รับเงิน 5,000 บาท แต่ไม่ได้รับจริง ถือเป็นการสร้างความปั่นป่วนกับสังคม กระทรวงการคลังจะดำเนินคดีทางกฎหมายเอาผิดการนำเข้าข้อมูลเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ต่อไป
    รายงานข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสะท้อนภาพที่ญาติของแหล่งข่าวรายหนึ่งที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ที่ได้เดินทางไปเป็นลูกจ้างร้านอาหารแห่งหนึ่งในรัฐยะโฮร์บาห์รู ประเทศมาเลเซีย ส่งวิดีโอที่บันทึกด้วยโทรศัพท์มือถือมาให้เผยแพร่ เพื่อขอให้ทางการไทยเร่งช่วยเหลือกลุ่มคนไทยที่ตกค้างอยู่ในประเทศมาเลเซีย คนไทยกลุ่มนี้ต้องเผชิญชะตากรรมด้วยกัน จำนวน 20 คน ที่ทางเจ้าของผู้ประกอบการได้จัดให้ไปพักอาศัยอยู่รวมกันที่แฟลต 5 ชั้น ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากร้านอาหารมากนัก
    โดยแรงงานไทยกลุ่มนี้ได้แยกย้ายกันนั่งรับประทานอาหารที่บริเวณทางเดินของห้องพัก ซึ่งถือว่าเป็นอาหารที่ดีที่สุดเท่าที่หาได้ รับประทานมาเป็นเวลา 1 เดือนแล้ว หลังจากที่เดินเรื่องกับทางสถานกงสุล เพื่อขออนุญาตเดินทางกลับประเทศไทย แต่เดินทางกลับไม่ทัน คือข้าวเปล่ากับต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือไม่ก็ข้าวเปล่ากับไข่เจียว ที่ต้องแบ่งกันรับประทานเพื่อประทังชีวิต ที่ทางเจ้าหน้าที่รัฐยะโฮร์บาห์รูได้ตระเวนนำมาแจกจ่ายให้รับประทานประทังชีวิต 3 วันต่อ 1 ครั้ง หลังจากที่ทางการประเทศมาเลเซียใช้กฎเหล็กประกาศปิดประเทศโดยไม่อนุญาตให้ประชาชนออกจากบ้านตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งหากฝ่าฝืนจะถูกจับนำไปเปรียบเทียบปรับคนละ 10,000 ริงกิต เทียบเป็นเงินไทยประมาณ 8,000 บาท
    สำหรับชีวิตประจำวันของแรงงานไทยกลุ่มนี้ ทำได้เพียงแยกย้ายกันนอนเล่นโทรศัพท์ อาทิ ฟังเพลง เล่นเกม บ้างก็พูดคุยปรับทุกข์กับเครือญาติที่อาศัยอยู่ฝั่งประเทศไทย เพื่อฆ่าเวลาให้หมดไปวันๆ ทุกคนต่างคิดว่าอยู่ในประเทศมาเลเซียในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ไม่ต่างจากติดคุก จึงต้องการให้ทางการไทยให้การช่วยเหลือกลับประเทศไทยโดยเร็ว 
    นอกจากนี้ แรงงานไทยกลุ่มนี้ยังทราบข่าวสารของทางการประเทศมาเลเซียว่า ขณะนี้ประเทศมาเลเซียใช้กฎเหล็กประกาศปิดประเทศระลอกที่ 3 เพิ่มเติมอีก 14 วัน จนถึงวันที่ 28 เม.ย. หากไม่ได้รับการช่วยเหลือก็จะติดค้างอีกนาน
    ด้านแรงงานไทยรายหนึ่งกล่าวว่า เป็นแรงงานไทยที่อยู่รัฐยะโฮร์บาห์รูตอนนี้เดือดร้อนมาก ถูกกักตัวอยู่ในที่พักกว่า 20 วันแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ประเทศมาเลเซียก็ได้มีการช่วยเหลือเรื่องอาหารการกินบ้างเล็กน้อย รู้สึกอึดอัดอยู่ที่นี่จากการใช้ชีวิตประจำวัน พวกเราหยุดงานก็ไม่มีเงินเดือน เพราะเป็นลูกจ้างรายวันของร้านอาหาร ทำเรื่องเพื่อเดินทางกลับประเทศกับสถานกงสุลก็หลายรอบแล้ว แต่เดินทางกลับข้ามประเทศไทยไม่ทัน ซึ่งทราบข่าวมาว่าทางรัฐบาลประเทศมาเลเซียอาจจะต้องปิดประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้หมดไป อีกประมาณ 6 เดือนหรือ 1 ปี แล้วพวกเราจะอยู่อย่างไร ถูกกักตัวอยู่ที่นี่จะออกไปไหนก็ไม่ได้ พวกเราเป็นแรงงานถูกกฎหมาย มีเวิร์กเพอร์มิตกันทุกคน จึงอยากให้ทางรัฐบาลไทยช่วยเหลือคนไทยทุกคนโดยเร่งด่วนด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"