สหรัฐเตรียมเปิดศก.-จีนปัดไวรัสแล็บอู่ฮั่น


เพิ่มเพื่อน    

     ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ฟันธงโควิด-19 ระบาดในสหรัฐอเมริกาผ่านจุดพีกแล้ว เตรียมประกาศแนวทางเปิดเศรษฐกิจ แต่วันเดียวกันยอดสังเวยรายวันของอเมริกาทำลายสถิติที่เกือบ  2,600 ศพ ยอดตายรวมทะลุ 30,000 ศพ จีนยกข้อมูลดับเบิลยูเอชโอโต้ทรัมป์ ยันไวรัสมรณะนี้ไม่ได้สร้างจากห้องแล็บอู่ฮั่น
     รายงานของสำนักข่าวต่างประเทศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2563 เปิดเผยว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แสดงความมั่นใจระหว่างการแถลงข่าวสรุปสถานการณ์รายวันที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันพุธว่า การต่อสู้กับโรคระบาดนี้ยังดำเนินต่อไป แต่ข้อมูลบ่งชี้ว่าทั่วสหรัฐอเมริกาผ่านจุดสูงสุดเรื่องผู้ติดเชื้อรายใหม่แล้ว 
    วันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐฯ เขาจะประกาศ "แนวทางใหม่" เพื่อเปิดเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อีกครั้ง  โดยเป็นไปได้ว่ามลรัฐที่ได้รับผลกระทบน้อยอาจสามารถผ่อนคลายมาตรการได้ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม
     ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันที่หวังจะชนะเลือกตั้งสมัยที่ 2 เดือนพฤศจิกายนปีนี้ กระเหี้ยนกระหือรือที่จะเปิดภาคธุรกิจและยุติมาตรการล็อกดาวน์พลเมืองหลายร้อยล้านคน เมื่อวันจันทร์ทรัมป์อ้างว่าเขามีอำนาจสูงสุดเหนือผู้ว่าการรัฐทั้งหลายที่จะตัดสินใจยุติการชัตดาวน์และสั่งให้ธุรกิจกลับมาดำเนินการได้ หลังจากตัวเลขการว่างงานในสหรัฐอเมริกาช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ทะลุ 17 ล้านรายแล้ว
     เวลาต่อมาในวันเดียวกัน ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ในสหรัฐฯ บ่งชี้ว่า ในช่วงเวลา  24 ชั่วโมงถึงเวลา 20.30 น.วันพุธตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ (07.30 น.วันพฤหัสบดีของไทย)  สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต 2,569 คน มากเป็นสถิติใหม่และเป็นยอดตายรายวันสูงกว่าทุกชาติในโลก ส่วนข้อมูลล่าสุดของจอห์นฮอปกินส์ในช่วงค่ำวันพฤหัสบดีของไทย สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิต  30,985 ราย จากผู้ติดเชื้อ 639,664 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 2,076,015 ราย เสียชีวิต 138,008 ราย
    ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้หลุดรอดออกมาจากห้องปฏิบัติการทดลองในเมืองอู่ฮั่นของจีน ซึ่งพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม ทรัมป์กล่าวว่า เขารู้เรื่องข่าวนี้และกำลังตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากๆ เกี่ยวกับสถานการณ์น่ากลัวที่เกิดขึ้น
     รายงานข่าวของสถานีฟอกซ์นิวส์เมื่อวันพุธกล่าวว่า ไวรัสนี้มีต้นกำเนิดในห้องแล็บอู่ฮั่น โดยไม่ใช่อาวุธชีวภาพ แต่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จีนต้องการแสดงให้เห็นว่า ความพยายามในการระบุและต่อสู้กับไวรัสต่างๆ ของจีนนั้นเทียบเท่าหรือดีกว่าขีดความสามารถของสหรัฐฯ
     รายงานนี้รวมถึงรายงานอีกหลายชิ้นของสื่อสหรัฐฯ ชี้แนะว่า แล็บที่อู่ฮั่นที่ทำการทดลองด้านไวรัสวิทยานั้นไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัย จึงทำให้มีคนติดเชื้อและเชื้อนี้ยังไปปรากฏที่ตลาดสดที่อยู่ใกล้เคียงด้วย
     ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์กับฟอกนิวส์หลังคำแถลงของทรัมป์ว่า เรารู้ว่าไวรัสนี้กำเนิดที่เมืองอู่ฮั่นของจีน และสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นก็อยู่ห่างจากตลาดสดแห่งนี้แค่ไม่กี่ไมล์ เราอยากให้รัฐบาลจีนเปิดเผยและช่วยอธิบายว่าไวรัสนี้แพร่ระบาดได้อย่างไร
     สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นเคยปฏิเสธข่าวลือเหล่านี้มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ความเห็นส่วนใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่าไวรัสซึ่งมีชื่อทางการว่า SARS-CoV-2 ชนิดนี้มีแหล่งกำเนิดในค้างคาว เมื่อวันพฤหัสบดี กระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงตอบโต้คำกล่าวหาเรื่องไวรัสหลุดจากห้องแล็บของจีนว่า องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เคยกล่าวไว้แล้วว่า ไม่มีหลักฐานว่าไวรัสชนิดนี้เกิดจากการสร้างในห้องแล็บ
     ถึงวันพฤหัสบดี จีนมีผู้ติดเชื้อสะสมที่ 83,402 ราย เสียชีวิต 3,346 ราย เมื่อวันพุธจีนมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากการนำเข้าเพียง 34 ราย ลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แต่ผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มจาก 10  รายเป็น 12 ราย โดยเป็นการติดเชื้อที่กรุงปักกิ่ง, เฮย์หลงเจียง และกวางตุ้ง
     ด้านสถานการณ์ในยุโรปซึ่งเป็นทวีปที่สถานการณ์รุนแรงที่สุด ข้อมูลจากสำนักข่าวเอเอฟพีถึงเวลา 17.30 น.วันพฤหัสบดีของไทย เผยว่ามีผู้ติดเชื้อในยุโรปแล้ว 1,047,279 ราย เสียชีวิต 90,180  ราย หรือกว่า 65% ของยอดเสียชีวิตทั้งโลก อิตาลีมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 21,645 ราย ตามด้วยสเปน  19,130 ราย, ฝรั่งเศส 17,167 ราย และอังกฤษ 12,868 ราย
     ภาวะการแพร่เชื้อที่ชะลอตัวลงทำให้หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการ แต่หลายประเทศก็ยังตัดสินใจคงไว้หรือแม้แต่ขยายออกไปอีก ที่เยอรมนี นายกฯ อังเกลา แมร์เคิล ขอให้ใช้ความระวังสูงสุดต่อไป แม้ว่านางจะประกาศให้เริ่มเปิดร้านค้าได้บางส่วนและทยอยเปิดโรงเรียน ส่วนเดนมาร์กก็เริ่มเปิดโรงเรียนสำหรับเด็กเล็กแล้วเช่นกันหลังจากปิดมานาน 1 เดือน ส่วนฟินแลนด์ยกเลิกการปิดเมืองหลวง 
     ลิทัวเนียจะอนุญาตให้ร้านค้าขนาดเล็กเปิดได้ในวันพฤหัสบดี ขณะที่อิหร่านซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง  4,777 ราย จากผู้ติดเชื้อ 76,389 ราย ก็จะอนุญาตให้ธุรกิจขนาดเล็กบางแห่งเปิดกิจการได้ นิวซีแลนด์มีแผนจะผ่อนคลายการล็อกดาวน์ทั่วประเทศสัปดาห์หน้า 
     ทว่าอีกด้านหนึ่ง อังกฤษเตรียมจะขยายมาตรการล็อกดาวน์ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานที่เริ่มใช้เมื่อวันที่ 23 มีนาคมออกไปอีก ส่วนญี่ปุ่น นายกฯ ชินโซ อาเบะ สั่งขยายภาวะฉุกเฉินครอบคลุมทั่วประเทศแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี จากเดิมที่บังคับใช้ใน 7 ภูมิภาครวมกรุงโตเกียว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"