ลุ้นมหากาพย์ฟื้นฟูขสมก.


เพิ่มเพื่อน    

 

       ใกล้เห็นแสงที่ปลายอุโมงค์แล้วสำหรับการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มหากาพย์ 11-12 ปี ที่ทำยังไงก็ไม่เคยผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียกได้ว่าผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาหลายคนแล้ว แผนก็ยังนิ่ง มาล่าสุด แผนฟื้นฟู ขสมก.เสด็จน้ำแล้ว และมีท่าทีว่าแผนดังกล่าวครบจบทุกประเด็น ตอบโจทย์ของสังคมได้

                เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ”ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม  ได้เรียกผู้บริหารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หารือถึงแผนฟื้นฟู เบื้องต้นได้ดำเนินการจัดทำรายละเอียดแผนงานเสร็จแล้ว ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก. นำเสนอมายังกระทรวงคมนาคมแล้ว ล่าสุดได้นำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาแล้ว คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี  (ครม.) ได้ภายในเดือน ก.ค.63

                โดยคาดว่าหลังจาก ครม.อนุมัติ ขสมก.จะเริ่มดำเนินการจัดหารถใหม่ โดยจัดทำ TOR จัดซื้อจัดจ้าง โดยหลังจากนี้ ขสมก.จะใช้วิธีจัดหารถให้บริการ โดยการจ้างวิ่งรถตามระยะทาง เอกชนจะต้องหารถ หาพนักงาน หาเชื้อเพลิง หาที่จอดรถ ทั้งหมด รับจ้างวิ่ง โดย ขสมก.จัดเก็บค่าโดยสารที่ 30 บาทตลอดวัน ซึ่งตามแผนฟื้นฟูใหม่ จะมีการจัดหารถปรับอากาศใหม่ EV จำนวน 2,511 คัน โดยชุดแรกจะเริ่มให้บริการในเดือนมี.ค.64 และส่งมอบครบทั้งหมดในเดือน ก.ย.65

                สำหรับแผนฟื้นฟู ละเอียดรอบด้าน มีวัตถุประสงค์ 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.ลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยกำหนดอัตราค่าโดยสารแบบเหมาเป็นแบบตั๋ววัน 30 บาท/คน/วัน สามารถใช้บริการได้ทุกเส้นทางไม่จำกัดเที่ยว กรณีเป็นตั๋วเดือน ค่าโดยสารเฉลี่ย 25 บาท/คน/วัน ซึ่งถูกลงกว่าในปัจจุบันประมาณ 20 บาท/วัน ส่วนกรณีต้องการเดินทาง เพียงเที่ยวเดียว หรือเดินทางระยะสั้น หรือไม่ได้เดินทางทุกวันเป็นประจำจะกำหนดอัตราตามระยะทางเริ่มต้นที่ 15 บาท นอกจากนี้จะมีส่วนลดสำหรับนักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุด้วย

                รมว.คมนาคม เน้นย้ำตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ว่าต้องดูแลผู้มีรายได้น้อยในการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ โดยมีนโยบายการกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ 30 บาทตลอดวัน โดยเรื่องนี้ ขสมก.ให้ทีดีอาร์ไอศึกษาวิเคราะห์ โดยพบว่าในปี 63 มีผู้ใช้บริการรถเมล์ของ ขสมก.จำนวน 530,000 คน/เที่ยว/วัน, ในปี 62 มีจำนวน 1,062,947 คน/เที่ยว/วัน แบ่งเป็นผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 50,000 คน ผู้ใช้ทั่วไป 480,000 คน

                “การวิเคราะห์พบว่า หาก ขสมก.จัดเก็บค่าโดยสารปรับอากาศได้ที่ 30 บาท/คน/ตลอดวัน จากเดิมที่มีการจัดเก็บค่าโดยสารปรับอากาศเฉลี่ยที่ 15-25 บาท/คน/เที่ยว ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารได้รับประโยชน์ค่าโดยสารถูกลงจากเดิมถึง 20 บาท/คน/วัน ในส่วนของรถร่วมเอกชนสามารถเก็บในราคา 30 บาทตลอดทั้งวันได้”

                2.แก้ปัญหาการจราจรติดขัด โดยการปรับปรุงเส้นทางเดินรถไม่ให้ทับซ้อนกัน จากปัจจุบัน 269 เส้นทาง จะปรับเป็น 162 เส้นทาง โดยเป็น ขสมก. 108 เส้นทาง เป็นรถร่วมเอกชน จำนวน 54 เส้นทาง สามารถลดจำนวนรถที่จะนำมาให้บริการลง 300-500 คัน จากเดิมที่ต้องใช้รถจำนวน 4,800-5,000 คัน  การปฏิรูปเส้นทาง จะเหลือรถที่ให้บริการที่ 4,500 คัน

                3.ลดปัญหามลพิษในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล โดยใช้รถที่ใช้พลังงาน NGV หรือรถเมล์ไฟฟ้า (EV)  4.แก้ปัญหาการขาดทุนของ ขสมก.อย่างยั่งยืน ซึ่งแผนกำหนดว่าภายใน 7 ปี หลัง ครม.อนุมัติ EBIDA เป็นบวกในปี 72

                5.ให้ ขสมก.สามารถเลี้ยงตัวเองได้ และไม่เป็นปัญหาต่องบประมาณของภาครัฐ โดย ขสมก.ขอรับเงินสนับสนุนการเดินรถเพื่อการให้บริการสังคม (PSO) ระยะเวลา 7 ปี (63-71) วงเงินรวมไม่เกิน 9,674 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงปีแรกๆ ขสมก.ยังจะมีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย แต่หลังจากนั้นตามแผนฟื้นฟูจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้น

                จากรายงานพบว่า ปัจจุบันปัญหาของ ขสมก. ได้แก่ การขาดสภาพคล่องอย่างหนัก โดยสถานะทางการเงินของ ขสมก.  ณ วันที่ 29 ก.พ.63 มีหนี้สะสมรวม 129,507.311 ล้านบาท  นอกจากนี้รถยังมีสภาพเก่า อายุใช้งานเกินกว่า 20 ปี ทำให้เกิดต้นทุนในการซ่อมบำรุง รักษาสูง มีจำนวนรถไม่เพียงพอในการบริการ การดำเนินการตามแผนฟื้นฟู ขสมก.จะแก้ปัญหาหนี้สินและลดค่าใช้จ่ายลงได้

                เมื่อดูจากแผนงานนโยบายเร่งด่วนในการฟื้นฟู ขสมก.นั้น ได้กำหนดเป้าหมายไว้ว่า จะต้องสามารถดำเนินกิจการที่มีประสิทธิภาพ ให้บริการประชาชนอย่างมีคุณภาพ และไม่ขาดทุน ไม่เป็นภาระต่องบประมาณของรัฐ โดย ขสมก.ต้องช่วยแก้ไขปัญหามลภาวะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ดังนั้น รถที่จะนำมาวิ่งให้บริการ จะต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะเป็นรถปรับอากาศทั้งหมด, มีการปฏิรูปเส้นทางไม่ให้ทับซ้อนที่จะทำให้เกิดปัญหาจราจร และจัดช่องทางเดินรถเฉพาะโดยชิดเกาะกลางถนน (บัสเลน) เรียกได้ว่าแผนนั้นละเอียดยิบ รอดหูรอดตาเจ้ากระทรวงไม่ได้อย่างแน่นอน เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก.

 กัลยา ยืนยง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"