พายุถล่มนครพนม พระธาตุ2พันปีหัก


เพิ่มเพื่อน    

  พายุฤดูร้อนพัดถล่มนครพนม พระธาตุสำราญ อายุ 2 พันปีพังเสียหาย บ้านทรงไทยขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้างพังถล่มทับนักเรียนวัย 16 ปีเสียชีวิต อุตุฯ เตือนจนถึง 26 เม.ย.จะเกิดพายุฝนรุนแรงแถมลูกเห็บ เริ่มจากอีสาน ก่อนไล่ไปยังภาคอื่น ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือ

    เมื่อวันที่ 22 เมษายนนี้ เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้ลงพื้นที่ ต.ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชน หลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มเมืองนครพนมช่วงคืนวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายแห่ง รวมไปถึงพระธาตุสำราญ ซึ่งเป็นพระธาตุเก่าแก่อายุประมาณ 2,000 ปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง บ้านสำราญ หมู่ที่ 2 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม พังลงมาได้รับความเสียหาย  
    พระธาตุสำราญ เชื่อกันว่าสร้างในยุคเดียวกับพระธาตุพนม มีการขุดพบใบเสมาโบราณ จารึกอักษรขอม ระบุปีที่สร้างพร้อมกับคำสาปแช่งผู้ที่จะเข้ามาล่วงเกิน องค์พระธาตุเดิมมีชื่อว่า พระธาตุทับเงา หรือพระธาตุเงา ตามตำนานกล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมายืนอยู่กลางแม่น้ำโขง แล้วเงาของพระองค์ทอดมาถึงบริเวณนั้น ชาวบ้านจึงสร้างพระธาตุทับเงาพระพุทธเจ้า ภายหลังถูกปล่อยให้ทรุดโทรม ก่อนที่กรมศิลปากรจะเข้ามาบูรณะและขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พายุฤดูร้อนดังกล่าวยังได้พัดถล่มบ้านทรงไทยที่กำลังก่อสร้าง ที่บ้านภูเขาทอง หมู่ 12 ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม พังถล่มลงมา มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือน้องมาร์คเกอร์ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบ้านนางัว ต.นางัว อ.นาหว้า จ.นครพนม ถูกคานไม้ทับที่ศีรษะและหลัง 
    นายกิตติธัช นาโควงศ์ อายุ 45 ปี เปิดเผยว่า ตนกับพวกรวม 3 คนได้เข้ามาทำงานไม้ที่บ้านหลังดังกล่าว กระทั่งโรงเรียนปิดเทอมใหญ่ น้องมาร์คเกอร์ หลานชายได้ขอมาทำงานโดยชวนเพื่อนนักเรียนอีก 2 คนมาทำด้วย เพื่อหารายได้พิเศษระหว่างปิดเทอม ก่อนเกิดเหตุพวกผู้ใหญ่อยู่บนบ้าน ส่วนเด็กๆ กำลังหุงหาอาหารอยู่ใต้ถุน จากนั้นเกิดลมพายุพัดมาทางทิศตะวันออก ไฟฟ้าดับหมดทั้งเมือง ตนจึงตะโกนบอกเด็กที่อยู่รวมกันด้านล่างระวังด้วย พูดจบไม่ทันถึง 3 นาที ตัวบ้านก็เอนไปทางฝั่งซ้าย พวกผู้ใหญ่ก็กลิ้งไปตามพื้น ตั้งสติลุกขึ้นตะโกนเรียกเด็กทั้งสามไม่มีเสียงตอบรับ จึงใช้ไฟฉายส่องหา พบเด็กสองคนนั่งตัวสั่นอยู่ที่บ้านหลังใกล้เคียงที่กำลังก่อสร้างเช่นเดียวกัน ขณะที่น้องมาร์คเกอร์เสียชีวิตแล้ว
    ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม นำโดย พ.ต.ท.คำดี เฮียงบุญ รอง ผกก.สอบสวน นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านเกิดเหตุ ก่อนจะเชิญเจ้าของบ้านและผู้รับเหมามาให้ปากคำ
    ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 22-26 เมษายน 2563)" ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 22 เมษายน 2563 
    ในช่วงวันที่ 22-26 เมษายน 2563 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้เกิดการปะทะกันของมวลอากาศเย็นและอากาศร้อน ส่งผลทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะได้รับผลกระทบก่อน ส่วนภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตกที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
    จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้ ในช่วงวันที่ 22 เมษายน 2563 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม อุดรธานี มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
    ในช่วงวันที่ 23-24 เมษายน 2563 ภาคเหนือ: จังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    ในช่วงวันที่ 25-26 เมษายน 2563 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ภาคกลาง: จังหวัดสุพรรณบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกจังหวัดที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือน ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและแนวโน้มสถานการณ์ภัยต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤติ (ERT) รถปฏิบัติการ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที อีกทั้งแจ้งเตือนประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"