‘หลิน นุศรา’เปลือยชีวิตในวงการ จนถึงการโดนมองเป็นเด็กเสี่ย!


เพิ่มเพื่อน    

 

          ถือเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ฝากผลงานในวงการบันเทิงมาหลากหลายรูปแบบทั้งการเป็นนักแสดงละครทภาพยนตร์ นักร้องลูกทุ่ง สำหรับ หลิน-นุศรา ประวันนา ที่แจ้งเกิดจากภาพยนตร์วัยรุ่นเรื่อง “เสียดาย” ล่าสุดออกมาเปิดใจในรายการคุยแซ่บShow ถึงชีวิตตั้งแต่เริ่มเข้าวงการไปจนถึงการถูกตราหน้าว่าเป็นเด็กเสี่ย

          “เมื่อก่อนครอบครัวไม่ได้มีฐานะเป็นคนค้าขาย เรียกว่าลำบาก จนก็ได้ อะไรที่พอช่วยแบ่งเบาที่บ้านได้ก็จะทำ ทำทุกอย่างตั้งแต่ขายของห้าง เดินแจกใบปลิว แล้วจำได้ว่าตอนแจกใบปลิวเขาเอาเขวี้ยงใส่หน้าเรา เลยจำเอาไว้เลย ไปแจกที่หน้ามหาวิทยาลัย ตอยดูนะสักวันนึงเราจะต้องทำงานหาเงินแล้วจะต้องเรียนมหาวิทยาลัยให้ได้ จนมาได้เล่นภาพยนตร์เรื่องเสียดาย ด้วยความที่เราอาจจะเด็กด้วยอายุ 18 เอง พอเล่นเรื่องแรกหนังมันดังมาก แต่เราก็ไม่รู้ว่าดังคืออะไร ดังมันเป็นยังไง แล้วสมัยนั้นไม่มีสื่อเราไม่สามารถจะเช็คฟีดแบ็คอะไรได้ เราก็รู้แค่ว่าเรามาทำงานนะ

          ก็มีงานต่างๆเข้ามาไม่เว้นแม้แต่งานเซ็กซี่ ก็เป็นงานๆนึงที่ติดต่อมาก็ลองทำดู ลองถ่ายดู แต่มันไม่ใช่แนวเรา ต้องมาทำท่าทาง ทำไม่เป็น คือทำได้แต่รู้สึกมันพยายาม เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ การจะเซ็กซี่มันต้องมาจากอินเนอร์ข้างใน คนเซ็กซี่เขาไม่ต้องทำอะไรมาก นอกจากงานแสดง งานถ่ายเซ็กซี่แล้วก็มาเป็นนักร้องลูกทุ่ง จริงๆต้องบอกว่าโชคดีที่เรามีผู้ใหญ่หยิบยื่นอะไรหลายๆอย่างให้เราได้ลองทำ วันนั้นไปทำผม แล้วร้านทำผมอยู่ติดกับค่ายเทป เจ้าของค่ายบังเอิญเห็นแล้วเขากำลังจะมีโปรเจคเป็นนักร้อง 4 คน เอามารวมตัวกัน ต้องมีนักแสดง 1 คน นักร้องลูกทุ่ง 1 คน แล้วก็มีอีก 2 คนก็มีพี่ลิซ่า, ดวงตา คงทอง, พี่จิ้งหรีดขาว แล้วก็มีหลิน ก็ได้มีโอกาสไปร้องเพลง เหมือนการเล่นหนังเลย เขาให้ไปแคสต์ตอนเย็นแล้วตกกลางคืนโทรมาบอกว่าท่านมุ้ยโอเค ออกอัลบั้มก็เหมือนกันพอเค้าไปเจอ รุ่งขึ้นโทรมาได้พรุ่งนี้เข้ามาเซ็นสัญญาร้องเพลงเลย แต่จริงๆต้องบอกเลยว่างานร้องเพลงไม่ใช่งานถนัด เราไม่ได้สายนักร้อง เสียงเราไม่ได้ดีขนาดนั้น ชอบร้องเพลงแต่เราไม่ได้เสียงลูกทุ่งขนาดนั้น

 

 

          เรื่องความรัก เอาจริงๆไม่เคยมีแฟนในวงการเลยนะ สมัยก่อนมันยังไม่มีไลน์ ไม่มีอะไร ก็ขอเบอร์ เจอกันตามที่เที่ยวบ้าง สมัยก่อนตอนเราเด็กๆเราก็ยังเที่ยวอยู่ แต่ผู้ชายตามที่เที่ยวก็จะไม่ค่อยคบ ยิ่งในวงการไม่มีเลย แล้วก็ไม่เคยคบใครด้วย เพราะในวงการรู้สึกว่าเหมือนเพื่อน เหมือนพี่เหมือนน้องกัน ตอนนั้นมีคนเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กเสี่ยก็มี ดาราทุกคนโดนข้อครหาอันนี้อยู่แล้ว ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราก็ไม่ใช่แนวนั้น เราไม่ใช่เด็กเสี่ย อาจจะด้วยลุคเซ็กซี่ด้วยมั้ง คนก็เลยคิดว่าเราเป็นเด็กเสี่ย แต่ว่าไม่มี อาจจะเป็นเพราะว่าคนที่มาจีบคนนึงเป็นเจ้าของอาบอบนวด หรือเปล่าคนเลยมองแบบนั้น ไม่ได้เป็นแฟนกันด้วยนะ

          ตอนนั้นครองตัวเองโสดมา 8 ปี ตั้งแต่อายุ 30 จำได้ว่าตอนนั้นทำงานอายุเข้าเลข 3 ก็บอกตัวเองว่าจะเลิกทุกอย่างแม้กระทั่งเรื่องเที่ยว อาจจะด้วยตอนนั้นอกหักด้วยก็เลยขอพักก่อน ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะพักยาวนะ เงียบกริบเลย บริสุทธิ์ด้วย เวอร์จิ้น รักษาพรหมจรรย์มา 8 ปี แล้วก็มีเด็กคนนึงเข้ามาในชีวิตอ่อนกว่า 8 ปี ต่างคนต่างโสดทั้งคู่ก็เลยคุยๆกัน เป็นคนนอกวงการ

          มีช่องว่างระหว่างวัยไหมเหรอ อายุอย่างหลิน 45 แล้ว ถ้ารุ่นเดียวกันมาจีบเขาก็จะแต่งงานกันหมดแล้ว มันก็จะไม่มี กลายเป็นว่าหลังๆจะเป็นรุ่นเด็กมาจีบ ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนผู้ใหญ่จะจีบเยอะมาก จริงๆก็ไม่คิดที่จะชอบเด็กนะ จริงๆมีแพลนว่าจะไม่แต่งงาน ไม่มีลูก อายุมันเกินแล้ว แต่ถามว่าอยากมีไหม อยากมี ไม่ปรึกษาคุณหมอแล้ว รู้สึกว่าพออายุขนาดนี้มันนิ่งแล้ว ชีวิตที่เหลือของเราตอนนี้ใช้ชีวิตให้ไม่ต้องมีภาระหรือมีห่วงแล้ว ถ้ามีลูกเราต้องมานั่งห่วงลูก อายุมันน้อยลงๆ ใช้ชีวิตที่เหลือทำอะไรก็ได้ให้เป็นประโยชน์กับตัวเองและสังคมกับพระพุทธศาสนาดีกว่า”

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"