'ราเมศ'ถอนหงอก'พนัส'ซัดแก่มะพร้าวเฒ่ามะละกอ พูดจาหยาบคายเสียงสุนัขเห่าข้างบ้านยังน่าฟังกว่า


เพิ่มเพื่อน    

28 เม.ย.63-  นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้กล่าวพาดพิงถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร ด้วยข้อความที่รุนแรงและไม่เป็นความจริงว่า นายพนัส เป็นนักกฎหมายแต่แสดงความคิดเห็นเรื่องการเปิดสภาเหมือนคนที่ไม่มีการศึกษา การเปิดประชุมสภาไม่ว่าจะสมัยสามัญหรือสมัยวิสามัญ รัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่า สภาพร้อมให้มีการประชุม หากมีการดำเนินการตามขั้นตอนที่รัฐธรรมนูญกำหนด คือหากรัฐบาลขอให้เปิดการประชุมสภา หรือกรณีที่สมาชิก ส.ส. หรือ ส.ว. ร้องขอ หากครบหลักเกณฑ์ก็สามารถดำเนินการได้ สภาพร้อมดำเนินการตามกระบวนการ 

แต่การที่ใช้คำพูดหยาบคายว่า "ทีอย่างนี้แม่งไม่ช่วยกันคิดว่าจะหาหนทางทำอย่างไรได้บ้าง" นั้น คำพูดนี้ไม่จริงเพราะทุกฝ่ายได้พยายามเตรียมการ โดยเฉพาะในส่วนของสภาให้มีความพร้อมที่สุด และได้ช่วยกันคิดในทุกด้าน โดยขอย้ำว่าหากหลักเกณฑ์ครบตามรัฐธรรมนูญ สภาสามารถดำเนินการได้ทันที จึงขอให้นายพนัสกลับไปเริ่มต้นศึกษารัฐธรรมนูญใหม่ หัดหาข้อมูลใหม่ใส่ศีรษะบ้าง ดีกว่ามาใช้คำพูดที่ไม่เข้าท่าด่าแต่คนอื่น

นายราเมศ กล่าวอีกว่า ส่วนที่บอกว่า “ประธานสภาไม่กล้าออกจากบ้านเพราะกลัวติดโควิด เลยต้องฉีดยาฆ่าโควิดล้างบ้านซอยหมอเหล็งของตัวเอง ไม่ออกมาพูดห่าอะไรเลย” นั้น เป็นคำพูดที่ไม่น่าเชื่อเลยว่า จะเป็นความเห็นของอดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ ที่พูดออกมาอย่างหยาบคาย แต่ละคำเพี้ยนไปหมด เพราะข้อเท็จจริงนั้น นายชวน ออกจากบ้านไปทำงานที่สภาทุกวัน เพราะสภายังเปิดทำการทุกวันเป็นปกติ อีกทั้งต้องเตรียมความพร้อมการประชุมที่จะเกิดขึ้นในสมัยประชุมหน้า งานบริหารของสภาที่ต้องทำ รวมทั้งการออกไปทำงานร่วมกับคณะทำงาน เพื่อร่วมบริจาคเงินให้โรงพยาบาล การนำหน้ากากผ้าไปแจกจ่ายตามจุดต่าง ๆ ในชุมชนด้วยตนเอง และส่งกระจายให้ทั่วทั้งประเทศ สิ่งเหล่านี้หรือที่เรียกว่าไม่กล้าออกจากบ้าน

"การที่มีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิคในซอยหมอเหล็งนั้น เป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องซึ่งไปดูแลพี่น้องประชาชนในบริเวณดังกล่าวและในวันดังกล่าว ขณะที่นายชวนยังไม่ได้ออกจากบ้าน แต่เมื่อทราบว่าทางเจ้าหน้าที่มาดำเนินการจึงออกมาให้กำลังใจในการทำหน้าที่  สิ่งที่นายพนัสกล่าวจึงเป็นการบิดเบือนแทบทั้งสิ้น และที่บอกว่านายชวนไม่เคยออกมาพูดห่าอะไรเลย ก็ถือว่าใช้ถ้อยคำได้แย่มาก เสียงสุนัขเห่าข้างบ้านยังน่าฟังกว่าถ้อยคำของนายพนัส และที่กล่าวมาก็ไม่เป็นความจริง เพราะนายชวนได้ออกมาให้ความเห็นอยู่บ่อยครั้งในเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศอีกด้วย ไม่เหมือนกับนายพนัสที่แต่ละวันคอยประดิษฐ์ถ้อยคำหยาบคายด่าคนอื่น ไร้สาระ กลวง อยากถามกลับไปว่าช่วงนี้คิดทำในสิ่งที่ดีบ้างหรือไม่ ความจริงไม่อยากออกมาตอบโต้เลย แต่การใช้คำพูดที่แย่มากลักษณะนี้ หากไม่ออกมาตักเตือนกันบ้างจะยิ่งหนักขึ้นทุกวัน นายพนัสก็มีอายุมากแล้วควรใช้คำพูดใช้ความคิดให้รุ่นลูกหลานได้ศรัทธา อย่าให้ใครว่าได้ว่า แก่มะพร้าว เฒ่ามะละกอ" โฆษกปชป. กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"