M-FLOWวิ่งฉิวรถไม่ติดหน้าด่าน


เพิ่มเพื่อน    

 

     ปัญหาการจราจรติดขัดถือเป็นปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนไหนของกรุงเทพฯ ก็ล้วนแล้วหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะจะพบว่าปัญหาการจราจรจะหนาแน่นมากในช่วงเช้า เพราะผู้คนต้องรีบไปทำงาน และอีกช่วงเวลาคือหลังเลิกงาน เรายังคงต้องเผชิญปัญหารถติดต่อไป ขณะที่ระบบสาธารณะในเมืองกรุงยังไม่พร้อมเหมือนในต่างประเทศ

                ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการเดินทางของประชาชน “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม เสนอแนวทางการนำระบบ M-FLOW ติดกล้องสแกนทะเบียนรถ ชำระค่าผ่านทางแทนเงินสดแบบ “ขึ้นก่อน จ่ายทีหลัง” เลิกไม้กั้น วิ่งฉิวไม่ต้องชะลอความเร็วรถ หวังแก้รถติดหน้าด่าน ตามที่เห็นกันในปัจจุบัน

                เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  ได้เรียกหน่ยวงานที่เกี่ยวข้องประชุมผ่านระบบโปรแกรม ZOOM เพื่อแก้ปัญหาจราจรบริเวณด่านเก็บเงินค่าผ่านทางของทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ของกรมทางหลวง (ทล.) และทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ว่า จากที่ให้นโยบายเร่งด่วนต่อ ทล. และ กทพ.ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บเงินค่าผ่านทางด้วยการพัฒนาระบบ Free Flow โดยใช้ระบบ AI มาใช้ในการบริหารจัดการจราจรหน้าด่าน ซึ่งเป็นโมเดลที่ได้จากการไปดูงานที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

                เพื่อให้เห็นเป็นรูปธรรม ได้มอบนโยบายกับทั้งสองหน่วยงาน ทล.และ กทพ.ไปหารือร่วมกัน เนื่องจากมีความกังวลว่า หากต่างคนต่างพัฒนาจะไม่เกิดการบูรณาการ และทำให้ไม่เกิดการเชื่อมต่อกันระหว่างทั้งสองระบบ ซึ่งจะทำให้ประชาชนใช้งานไม่สะดวก จึงสั่งให้ทั้งสองหน่วยงานช่วยกันทำงาน ไม่ควรต่างคนต่างคิด โดยให้ทำเป็นระบบเดียวที่เรียกว่า “Single Planform System” เพื่อให้ใช้งานได้ทั้งมอเตอร์เวย์และทางด่วนได้อย่างสมบูรณ์ภายในปี 2564

                สำหรับระบบกล้องตรวจจับป้ายทะเบียนอัตโนมัติในการชำระค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ หรือ Automatic Licen plate Reconitetion เป็นหลักการทำงานของ Video Tolling ภายใต้ความเร็วที่ 80 กม./ชม. จะรองรับรถได้ถึง 1,200 คัน/ชม. เปรียบเทียบกับช่องทางอัตโนมัติ (M Pass) ปัจจุบันรองรับได้ 500-800 คัน/ชม. อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของระบบ M-FLOW จะให้รถวิ่งผ่านได้ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วที่ประกาศใช้บนทางด่วนและมอเตอร์เวย์ จะเพิ่มความเร็วรถผ่านหน้าด่าน และรองรับรถได้ถึง 2,000-2,500 คัน/ช่องทาง หรือเพิ่มขึ้น 5 เท่า ทำให้รถเคลื่อนตัวหน้าด่านได้เร็วขึ้นและไม่มีปัญหารถติด

                ขณะที่การชำระเงินค่าผ่านทางจะเป็นระบบ postpaid คือแบบจ่ายทีหลัง โดยให้ชำระสิ้นเดือน ซึ่งจะมีทั้งแบบออกบิลเหมือนบิลค่าน้ำ ค่าไฟ และชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ช่องทางต่างๆ กรณีที่ไม่ชำระค่าใช้จ่ายจะถูกปรับ 10-15 เท่าของมูลหนี้ ดังนั้น ทล.จะมีการเปิดประมูลเพื่อจัดจ้างเอกชนเข้ามาติดตั้งระบบ และจัดจ้างเอกชน (Outsource) เพื่อบริหารจัดการระบบ โดยกรมทางหลวงและ กทพ.ในฐานะผู้กำกับจะต้องได้รับค่าผ่านทางครบ 100%

                สำหรับระบบนี้กล้องจะทำหน้าที่ถ่ายทะเบียนรถ และมีซอฟต์แวร์ประมวลผลเพื่อคิดค่าผ่านทาง ซึ่งการตรวจสอบป้ายทะเบียนรถจะประสานกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) รวมถึงมาตรการกรณีไม่ชำระค่าผ่านทางตามที่เรียกเก็บจะมีบทลงโทษในการต่อทะเบียนรถด้วย ระบบนี้หลายประเทศใช้กันแล้วเพราะแก้ปัญหาได้ทั้งรถติดหน้าด่าน รวมไปถึงเรื่องอาชญากรรมต่างๆ อีกด้วย   

                คาดว่าจะเริ่มนำร่องการใช้งานระบบ M-FLOW บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 (วงแหวนรอบนอก กทม.ด้านตะวันออก ช่วงบางปะอิน-บางพลี) ที่ด่านทับช้าง 1, 2 และด่านธัญบุรี 1, 2 โดยในเดือน เม.ย.นี้จะลงนามสัญญากับที่ปรึกษาเพื่อออกแบบรายละเอียด จัดทำ TOR และกำหนดราคากลางสำหรับประมูล 2 งาน ได้แก่ งานติดตั้งระบบ และงานจัดจ้างบริหารจัดการระบบ ในเดือน มิ.ย.-ก.ค.63 เพื่อดำเนินการติดตั้งระบบในเดือน ส.ค.-ต.ค.63 และเปิดใช้ระบบในเดือน ต.ค.63

            จะเห็นได้ว่าการนำระบบ M-FLOW มาใช้จะเพิ่มความสะดวกสบายและรวดเร็ว และยังเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ไม่ต้องการชะลอรถเมื่อถึงเวลาชำระค่าผ่านทาง  ขณะเดียวกันในส่วนของช่องทางเงินสดและช่องทาง M-Pass ยังคงใช้งานได้ตามปกติ แบบนี้เรียกได้ว่าเมื่อนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ทำให้เราวิ่งทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ที่เขาพัฒนาใช้ระบบดังกล่าวกัน. 

กัลยา ยืนยง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"