ทร.สั่งสอบคลี่ปม พบทหารดับปริศนา


เพิ่มเพื่อน    

 ทร.แจงเหตุพลทหาร สห.ทร.เสียชีวิตกลางดึก- น้ำลายฟูมปาก รอผลสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ปัดข่าวลือพบยาฆ่าหญ้าในกระเพาะอาหาร เผยหน่วยส่งคนไปร่วมงานศพ แต่ไม่ทัน

    พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ และโฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมว่า ตามที่สื่อมวลชนหลายสำนักได้นำเสนอข่าวการเสียชีวิตของพลทหารเจษฎากร เนตรแสงสี สังกัดกองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 กรมสารวัตรทหารเรือ โดยมีประเด็นการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการเสียชีวิตว่า พบสารพิษในกระเพาะอาหารผู้ตาย และประเด็นที่ไม่มีกำลังพลไปร่วมในงานฟังสวดศพนั้น ในนามกองทัพเรือรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพลทหารคนดังกล่าว ซึ่งเป็นลูกหลานของประชาชนที่เข้ามาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบ พร้อมกันนี้ในส่วนของผู้บังคับบัญชาระดับสูงก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยสั่งการด่วนตั้งแต่รับทราบเหตุการณ์ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน     อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นการตายผิดธรรมชาติ ที่ยังรอผลยืนยันการตรวจตามมาตรฐานแพทย์นิติเวช จึงอยากให้ทุกฝ่ายที่นำเสนอข่าว อย่าเพิ่งละเมิดสิทธิของผู้ป่วย ส่วนข้อจำกัดของหน่วยที่ไม่ได้ไปร่วมฟังสวดที่จังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ 29 เมษายน-1 พฤษภาคม 2563 แต่ก็ได้ช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยการเป็นฝ่ายดำเนินการจ้างรถมูลนิธิเคลื่อนศพ ไปส่งยังจังหวัดพิษณุโลกแล้ว พร้อมแสดงความตั้งใจจะร่วมเดินทางไปในวันฌาปนกิจเดิมในวันที่ 2 พ.ค.63 นั้น ก็สืบเนื่องจากมีข้อจำกัดการเดินทางไปต่างพื้นที่ในห้วงสถานการณ์ ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งก็อาจทำให้ส่งผลกระทบกับความรู้สึกของครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต ตามที่ปรากฏในข่าว
    โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า รายละเอียดเหตุการณ์ ขอชี้แจงให้ทราบถึงประเด็นต่างๆ ในเบื้องต้นดังนี้ ในวันเกิดเหตุ (27 เม.ย.63) เวลา 22.30 น. พลทหารเจษฎากร เนตรแสงสี ได้กลับเข้ากรมกอง ภายหลังเสร็จภารกิจการเข้าเวรจุดตรวจ และได้เข้านอนในเวลา 00.30 น. หลังจากรับประทานอาหารในช่วงดึก ต่อมาในเวลา 01.50 น. เพื่อนที่นอนเตียงติดกันได้ลุกไปเข้าห้องน้ำ และพบว่า พลทหารเจษฎากรน้ำลายฟูมปาก จึงได้แจ้งนายเวรรีบนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ โดยทีมแพทย์ได้พยายามช่วยอย่างเต็มความสามารถ แต่พลทหารเจษฎากรได้เสียชีวิตในเวลา 02.24 น. จึงได้รีบแจ้งให้ทางบ้านของพลทหารเจษฎากรได้รับทราบ
    ในการนี้ กองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 ได้สรุปเหตุการณ์เบื้องต้นรายงานด่วนถึงกองทัพเรือ พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการหาข้อเท็จจริงในทันที ในส่วนของการช่วยเหลือในเบื้องต้นนั้น กองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 ได้รวบรวมเงินช่วยเหลือ และจ้างรถมูลนิธิเคลื่อนศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนายังภูมิลำเนาที่จังหวัดพิษณุโลก พร้อมจัดพวงหรีดในนามหน่วย
    ทั้งนี้ ในเรื่องที่เป็นข่าวว่าไม่มีผู้บังคับบัญชา หรือตัวแทนหน่วยไปร่วมงานฟังสวดศพเลยนั้น หน่วยชี้แจงว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งได้มีการประกาศพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเรื่องการเดินทางข้ามพื้นที่ อีกทั้งเป็นช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ ทำให้หน่วยงานต้นสังกัดของพลทหารเจษฎากร คือกองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 พิจารณาว่าจะจัดกำลังพลไปร่วมในพิธีฌาปนกิจศพ โดยต้องมีการทำหนังสือรับรองการกักกันตัวในหน่วย คัดเลือกกำลังพล เพื่อเดินทางไปร่วมงาน ของพลทหารเจษฎากร ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนของการตรวจโรค เพื่อรับใบรับรองแพทย์ รวมทั้งต้องเสนอหนังสือขออนุญาตถึงฐานทัพเรือสัตหีบ ในการไปราชการจำเป็น เป็นกรณีพิเศษ ในการเดินทางข้ามจังหวัด และผ่านช่วงเวลาเคอร์ฟิว
    ในส่วนข้อมูลเรื่องสารพิษ ที่มีการนำเสนอว่าป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของพลทหารเจษฎากรนั้น จากผลการชันสูตร ในเบื้องต้น ทราบว่าผลปัสสาวะไม่มีสารเสพติด, ผลเลือดและผลน้ำในกระเพาะอยู่ระหว่างการส่งไปตรวจแลบภายนอก ต้องรอคอยเวลาแจ้งผลกลับมาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ซึ่งขัดแย้งกับข่าวที่นำเสนอออกมาเรื่องสารฆ่าแมลงที่ทราบผลแล้ว จึงขอให้มีความชัดเจนในเรื่องผลการชันสูตรอีกครั้งหนึ่ง และหากผลตรวจพบว่ามีการเสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติ หรือความผิดไปจากปกติแต่ประการใด ทางกองทัพเรือจะได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสาเหตุ และแจ้งข่าวให้ทราบต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"