รุมอัด‘ปิยบุตร’เหิมหนัก! โจมตี‘นุรักษ์’เจตนาแฝง


เพิ่มเพื่อน    

  หลายฝ่ายจวกยับ "ปิยบุตร" โจมตี "นุรักษ์ มาประณีต" อดีตตุลาการศาล รธน.ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรี "ศรีสุวรรณ" จับไต๋กุศโลบายตีวัวกระทบคราด เตือนก้าวล่วงพระราชอำนาจ "วัชระ" ข้องใจเจตนาพิเศษอะไรหรือไม่ "แรมโบ้อีสาน" สงสัยมีเลือดเนื้อเชื้อไขเป็นคนไทยแท้จริงหรือเปล่า 

    เมื่อวันที่ 5 พ.ค.63 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศแต่งตั้งองคมนตรีเมื่อวันก่อน (4 พ.ค.) ว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งองคมนตรี ตามประกาศ ลงวันที่ 2 ต.ค.61 แล้วนั้น บัดนี้ ทรงพระราชดำริเห็นเป็นการสมควรแต่งตั้งองคมนตรีเพิ่มเติมขึ้น อาศัยอำนาจตามความใน ม.10 และ ม.11 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายนุรักษ์ มาประณีต เป็นองคมนตรี ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปนั้น
    นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ทันทีที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศแต่งตั้งนายนุรักษ์ มาประณีต  เป็นองคมนตรี นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้าและอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ก็ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กร่ายยาวถึงผลงานของนายนุรักษ์ เมื่อครั้งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยเจตนาเน้นไปที่กรณีการยุบพรรคของขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลปัจจุบัน ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ต่อเนื่องมาจนถึงยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคอีก 10 ปี
    เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยกล่าวว่า แม้โพสต์ของนายปิยบุตรจะไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ มากไปกว่าความพยายามจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลงานการวินิจฉัยในคดียุบพรรค และคดีทางการเมืองที่นายนุรักษ์มีส่วนร่วมในองค์คณะ ซึ่งมีผลกระทบในทางการเมืองสูง และสร้างความไม่พอใจให้บุคคลในพรรคการเมืองบางฝ่ายมาตลอด แต่สิ่งที่นายปิยบุตรไม่ยอมพูดถึงหรืออธิบายให้สังคมรับรู้ไปในคราวเดียวกันก็คือ พฤติการณ์และการกระทำของนักการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆ เหล่านั้น รวมทั้งพรรคอนาคตใหม่ด้วยนั้น เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไร 
    "นายปิยบุตรเคยเป็นอาจารย์สอนกฎหมายรัฐธรรมนูญ ย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าพฤติการณ์และการกระทำใดที่เข้าข่ายต้องถูกยุบพรรค และ/หรือตัดสิทธิทางการเมืองตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ อย่าแสร้งเขียนหรือตีตัวประเภทเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น เพราะในยุคสารสนเทศโซเชียลมีเดียเยี่ยงนี้ นักการเมืองทำอะไร คิดอะไร ชาวบ้านเขารู้ทันกันหมดแล้ว" นายศรีสุวรรณกล่าวและว่า ที่สำคัญการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งองคมนตรีนั้นเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 ม.10 ประกอบ ม.11 บัญญัติไว้ทุกประการว่า ให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัยโดยชอบด้วยแล้ว ไม่ควรที่จะมีบุคคลใดไปก้าวล่วงพระราชอำนาจดังกล่าวของพระองค์ท่านให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ไม่เช่นนั้นอาจหมิ่นเหม่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญาเข้าไปอีก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อผู้วิจารณ์หรือผู้ใดที่จะใช้กุศโลบายตีวัวกระทบคราดใดๆ ทั้งสิ้น
    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 พ.ค.63 นายปิยบุตรได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ภายหลังราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งนายนุรักษ์ มาประณีต อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นองคมนตรีว่า "วันนี้ (4  พฤษภาคม 2563) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศแต่งตั้ง นายนุรักษ์ มาประณีต เป็นองคมนตรี อนึ่ง นายนุรักษ์ มาประณีต เป็นตุลาการรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักไทย ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 111 คน เป็นเวลา 5 ปี เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550, เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ สมัคร สุนทรเวช พ้นจากนายกรัฐมนตรี, เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย พร้อมตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค รวม 109 คน เป็นเวลา 5 ปี, เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์, เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เรื่องที่มา ส.ว.ตกไป, เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  วินิจฉัยให้ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านตกไป, เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 ไม่ชอบ
    เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากนายกรัฐมนตรี, เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคไทยรักษาชาติ และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี, เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, และล่าสุด...ผลงานสุดท้าย ก่อนพ้นจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ คือ #ยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี"
    นอกจากนี้ อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ยังได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ระบุว่า "ในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ เสียงข้างมาก 7 คน ให้ยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค โดย 6 คน ให้เพิกถอน 10 ปี และ 1 คน คือ นายนุรักษ์ มาประณีต ให้เพิกถอนไม่มีกำหนด นี่คือความเห็นของนายนุรักษ์ครับ"
    สำหรับความเห็นของนายนุรักษ์ที่นายปิยบุตรระบุถึงนั้น มีเนื้อหาดังนี้ "มีข้อพิจารณาต่อไปว่า เมื่อวินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องแล้ว จะต้องเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นระยะเวลาเท่าใด เห็นว่า การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคของผู้ถูกร้องมิได้กำหนดระยะเวลาไว้เหมือนกับมาตราอื่นๆ แสดงว่ามีเจตนารมณ์เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา การที่ศาลรัฐธรรมนูญจะกำหนดระยะเวลาการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเสียเอง มิอาจกระทำได้ มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเสียเอง จึงให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองผู้ถูกร้องโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา"
    นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายปิยบุตรว่า ไม่น่าเชื่อว่าผู้โพสต์เป็นถึงอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นอาจารย์ผู้สอนกฎหมายมหาชน จบการศึกษาสูงจากประเทศฝรั่งเศส แต่ไม่ได้ทำให้เป็นคนมีจิตใจสูงเสมอไป การวิพากษ์วิจารณ์บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นองคมนตรี ทำให้เกิดคำถามถึงจรรยาบรรณของความเป็นครูอาจารย์ และจรรยาบรรณของนักการเมืองผู้ที่อ้างว่ามีความคิดก้าวหน้าเลิศเลอ และต้องถามถึงเจตนาของนายปิยบุตรว่าต้องการอะไร มีเจตนาพิเศษอะไรหรือไม่ 
    "ต้องการให้บุคคลที่ชื่นชอบศรัทธาตามแนวทางการเมืองของตนเข้าใจในกรณีการแต่งตั้งองคมนตรีนี้ไปในทิศทางใด เป็นบวกหรือเป็นลบกับประเทศชาติ เป็นการสร้างสรรค์สังคมหรือกัดเซาะสถาบันใดหรือไม่ รวมทั้งมีเจตนาซ่อนเร้นเป็นนัยทางการเมืองประการใด ทั้งที่จริงๆ แล้วนายปิยบุตรควรมีจรรยาบรรณและมารยาททั้งทางวิชาการและการเมือง กอปรกับรัฐธรรมนูญแทบทุกฉบับก็เขียนไว้ชัดเจนแล้วว่า การแต่งตั้งหรือให้พ้นจากตำแหน่งองคมนตรีเป็นไปตามพระราชอัธยาศัยขององค์พระมหากษัตริย์ เมื่อรัฐธรรมนูญบัญญัติเช่นนี้มาแต่โบราณ การที่นายปิยบุตรเขียนเฟซบุ๊กเหน็บแนมบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญ เพื่อชักจูงจิตใจผู้หลงศรัทธาตนให้เกิดความคล้อยตามในจิตอคติเฉพาะตน จึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่บุคคลผู้เป็นอาจารย์และผู้นำทางการเมืองจะกระทำเยี่ยงนี้" นายวัชระกล่าว
    นายวัชระกล่าวอีกว่า นายปิยบุตรอาจไม่ชอบใจผลงานของนายนุรักษ์ในบางเรื่อง เช่น ผลงานการยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี ก็เป็นเพียงอคติส่วนตัว แต่การมากระแนะกระแหนเหน็บแนมบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นองคมนตรี นับเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำในสังคมไทยและเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง จึงใคร่ขอให้บิดา มารดา หรือญาติผู้ใหญ่ของนายปิยบุตรหากยังมีชีวิตอยู่ โปรดกรุณาช่วยสั่งสอนนายปิยบุตรให้สำนึกบุญคุณแผ่นดินเป็นการด่วนด้วย
    ขณะที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวโจมตีนายปิยบุตรว่า เหมือนคนสิ้นคิด ไร้สติ ไร้จิตสำนึก มิบังควรอย่างยิ่ง เป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ ทำให้คนไทยเห็นชัดเจนว่านายปิยบุตรมีความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูงหรือไม่ พฤติกรรมเช่นนี้สังคมไทยมิควรให้อภัยได้กับคนที่ไม่รู้จักคำว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ไม่สมควรที่ลูกศิษย์ลูกหาจะนับถือเป็นครูบาอาจารย์ ไม่มีวุฒิภาวะผู้นำที่ดีต่อเยาวชนเลยสักนิด 
    "ประเทศนี้คือประเทศไทย จำให้ขึ้นสมองที่นี่คือประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศในอวกาศตามจินตนาการของคุณปิยบุตร ที่นี่เราคนไทยทุกคนมีความจงรักภักดีเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์  ผืนแผ่นดินนี้ราชวงศ์ทุกรัชสมัยทุ่มเทปกป้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อด้วยชีวิต จนทำให้พวกเรามีที่อยู่ที่กินที่อาศัยจนมาถึงลูกหลานเหลนโหลนตราบเท่าทุกวันนี้ นายปิยบุตรไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทยหรืออย่างไร จึงไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรวิจารณ์ ไม่รู้หรือว่าคนไทยพร้อมพลีชีพเพื่อปกป้องสถาบันเบื้องสูง เพราะคนไทยมีความจงรักภักดีเป็นที่สุด" นายสุภรณ์กล่าว
    นายสุภรณ์กล่าวต่อว่า ตนสงสัยว่านายปิยบุตรมีเลือดเนื้อเชื้อไขเป็นคนไทยแท้จริงหรือเปล่า ถ้าคนไทยที่มีเลือดเชื้อไขแท้จริงจะคิดได้ว่า การกระทำใดๆ ก็ตามที่จะพาดพิงหรือกระทบต่อพระราชอำนาจสมควรหรือไม่สมควร แต่นายปิยบุตรกลับคิดไม่เป็น ถ้านายปิยบุตรคิดว่าประเทศไทยไม่ยุติธรรมกับตัวเอง ก็คงต้องย้ายทะเบียนบ้านเก็บสัมภาระไปอยู่ประเทศในอวกาศที่มีความสุข มีความยุติธรรมกับชีวิตตัวเองดีกว่า
    ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด  ระบุว่า "คุณนุรักษ์เป็นคนเก่งและคนดี ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองคมนตรี ยังมีคนออกมาแซะ แขวะ แบบไม่รู้จักคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรที่ไม่บังควร ดร.ทางกฎหมายเหรอ"
    ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา แสดงความคิดเห็นว่า "โควิดลดทุกวัน การเมืองเลอะขึ้นทุกวัน จมปลักแค่ประชาธิปไตย-เผด็จการ อวดคิดใหม่แต่ใจล้าหลัง ย้อนยุค 2475 ขุดวิญญาณคณะราษฎร ปั่นแฮชแท็ก ปั้นเฟกนิวส์ โจมตีสถาบัน คิดเคลื่อนมวลชน จมปลักความคิดปฏิวัติฝรั่งเศส  (Revolution francaise) หลังโควิดสังคมไทยปรับ new normal แล้ว การเมืองฝ่ายแค้นไม่คิดจะปรับใหม่เลิกเลอะเทอะกันบ้างหรือ"
    นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือติ๊งต่าง เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับและแกนนำกลุ่มชาวไทยหัวใจรักสงบ แม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "เสียแรงเรียนจบกฎหมายมามากมาย กลับตีโพยตีพายหาว่าเป็นเพราะศาลฯ คนนั้นตัดสินยุบพรรคตน เด็กๆ ก็รู้ว่าคนเราถ้าไม่ได้ทำผิดจะถูกยุบพรรคได้อย่างไร ก่อนศาลจะมีคำพิพากษา ท่านก็ชี้แจงเหตุผลเป็นข้อๆ ว่าทำผิดอะไร คนแบบนี้มันหมดราคา ตายไปแล้วทางการเมือง น่าจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับเมียฝรั่งได้แล้ว".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"