เด้งตำรวจลวนลามสาว ตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง


เพิ่มเพื่อน    

  ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งเด้งตำรวจลวนลามเด็กสาวที่ไปจ่ายค่าปรับบนโรงพัก สภ.สหัสขันธ์ พร้อมตั้งข้อหาอนาจารแก่บุคคลที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง

    เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่ลานลามนักเรียนสาวขณะไปเสียค่าปรับจราจรคาโรงพัก สภ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ว่า ขณะนี้ พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจภูธร 4 (ผบช.ภ.4) มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้รายงานผลให้ทราบภายใน 7 วัน เพราะสร้างความเสียหายและภาพลักษณ์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ล่าสุด ผบช.ภ.4 มีคำสั่งให้ ร.ต.ท.อุทิศ อ่อนประสงค์ รอง สวป. สภ.สหัสขันธ์ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติราชการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าพบการกระทำความผิดจริงต้องถูกดำเนินการทั้งวินัยและอาญา ไม่เอาไว้
    พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กำชับตำรวจทุกนายว่าทำดีก็ต้องส่งเสริม แต่หากประพฤติตัวไม่เหมาะสมก็ต้องถูกทำโทษทั้งทางวินัยและอาญาเด็ดขาด ส่วนของพฤติกรรมในการก่อเหตุยังไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัดว่า ร.ต.ท.คนดังกล่าว อยู่ในอาการมึนเมา, แต่งเครื่องแบบครึ่งท่อนจริงหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจสอบทั้งหมด
    ด้าน พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ร่วมเปิดเผยความคืบหน้า โดยระบุว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายพบว่า ผู้เสียหายเป็นนักเรียนหญิง ถูกจับในข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย และได้ไปชำระค่าปรับที่ สภ.สหัสขันธ์ พร้อมน้องสาว เมื่อช่วงเวลา 11.00 น.วันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้สอบถามตำรวจเพื่อเสียค่าปรับ ซึ่งระหว่างพูดคุยกันที่ห้องประชาสัมพันธ์ชั้น 1 มีตำรวจนายหนึ่ง ทราบชื่อภายหลังคือ ร.ต.ท.อุทิศ พรประสงค์ ซึ่งกำลังทำหน้าที่สิบเวรได้มาหาผู้เสียหาย และสอบถามว่า มาทำอะไร
    ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากนั้น ร.ต.ท.อุทิศได้แนะนำและพาขึ้นไปเสียค่าปรับที่ชั้น 2 และขณะนั้นเป็นวันหยุด ห้องเปรียบเทียบปรับไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ ก่อนพาผู้เสียหายเข้าไปและก่อเหตุลวนลาม กอดเอวผู้เสียหาย และขอจับของสงวน โดย ร.ต.ท.อุทิศยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุได้ดื่มสุราที่บ้านพัก และมีเพื่อนมาขอให้ไปเข้าเวรแทน ระหว่างเข้าเวรมีอาการเมาสุรา ก็เลยก่อเหตุ แต่อ้างว่าทำไปโดยไม่รู้ตัว จึงได้สั่งย้าย ร.ต.ท.อุทิศมาประจำที่ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และตั้งคณะกรรมสอบสวนวินัยร้ายแรง ซึ่งหากสอบสวนปากคำพยาน รวบรวมหลักฐาน และได้ข้อเท็จจริงแล้ว ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมตัว
    ในเบื้องต้นได้ตั้งข้อหาอนาจารแก่บุคคลที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งมีโทษสูงจำคุก 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งหากศาลตัดสินมีความผิด ก็ต้องดำเนินการไล่ออกจากราชการต่อไป นอกจากนี้ จะมีการตรวจสอบกรณีข้อบกพร่องของผู้บังคับบัญชาที่ปล่อยให้ลูกน้องดื่มสุราแล้วมาปฏิบัติหน้าที่ด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"