ไฟเขียวฟื้นฟูการบินไทย


เพิ่มเพื่อน    

  อนุทินยันบิ๊กตู่เลือกผ่าทางตันการบินไทยฟื้นฟูกิจการก่อนขายทอดตลาด ย้ำชัดปล่อยให้ล้มละลายไม่มีอยู่ในหัวของนายกฯ ขณะที่อุตตมหวังส่งแผนฟื้นฟูทัน ครม.สัปดาห์หน้า ปัดต้นเหตุประชุมล่มไร้ปัญหาศักดิ์สยาม ด้านอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์วอนอย่าแห่ถอนเงิน สถานะ 82 สหกรณ์ปลอดภัย มีแผนรองรับ ไม่ซ้ำรอยคลองจั่น

    เมื่อวันศุกร์ เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เรียกนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลการบินไทย เข้าหารือประมาณครึ่งชั่วโมง โดยนายอนุทินเปิดเผยภายหลังการหารือว่า การบินไทยถือเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ ส่วนการเพิ่มเงินจากกระทรวงการคลังไปค้ำประกันหนี้หรือหาเงินทุนเพื่อจะมาลงก็ลำบาก ซึ่งก็น่าจะเหลืออยู่วิธีการเดียวคือการฟื้นฟูการบินไทย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นใหญ่ของการบินไทย ซึ่งมีกระทรวงการคลังเป็นหลัก แต่วันนี้ทางกระทรวงการคลังไม่ได้มาหารือด้วย นายกรัฐมนตรีก็มีความเห็นไปในทางเห็นด้วยที่จะให้มีการฟื้นฟูกิจการการบินไทย ซึ่งถือเป็นวิธีการที่สวยที่สุด ถ้าทุกคนและทุกฝ่ายร่วมมือกัน
    ผู้สื่อข่าวถามว่า การบินไทยทำแผนฟื้นฟูมาแล้วหลายรอบ แต่ยังไม่ได้ผล นายอนุทินกล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นแผนการฟื้นฟูกิจการภายใน ไม่ใช่แผนการฟื้นฟูหนี้ แต่เรากำลังฟื้นฟูหนี้ที่มีอยู่ ทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้ เรื่องนี้เราก็ต้องแข่งกับเวลา ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการแล้วก็เป็นเรื่องของเจ้าหนี้และลูกหนี้ โดยมีศาลเป็นผู้กำกับ และจะต้องมีผู้ทำแผน เมื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการแล้ว อำนาจการบริหารจัดการบริษัทนั้นๆ ก็จะอยู่กับผู้ทำแผนที่ศาลเป็นผู้แต่งตั้ง โดยเป็นความเห็นชอบทั้งจากเจ้าหนี้และลูกหนี้ ผู้ทำแผนต้องมีหน้าที่เจรจากับเจ้าหนี้ และทำแผนฟื้นฟูกิจการขึ้นมา ถ้าตกลงกันได้ก็ไปโหวตที่ศาล หลังจากนั้นผู้ทำแผนก็หมดหน้าที่ไป เป็นหน้าที่ของผู้บริหารแผนที่ต้องทำตามแผนฟื้นฟูกิจการตามที่ศาลมีคำพิพากษามา ซึ่งมีขั้นตอนอีกมาก 
    “วันนี้เราต้องเร่งหาข้อสรุปในตัวนโยบาย โดยนายกรัฐมนตรี บอกว่าเราต้องฟื้นฟูกิจการ ผมคิดว่าตอนนี้เหลือเพียงซอยเดียวแล้ว การฟื้นฟูกิจการเป็นทางที่ดีที่สุด ทุกคนต้องถอยกันบ้าง เพียงแค่ก้าวเดียว ก็จะเดินหน้าไปได้ 5 ก้าว ซึ่งเราควรจะต้องทำ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นกระทรวงคมนาคมที่ผมกำกับดูแล เพียงได้แต่เสนอเท่านั้น แต่ทั้งหมดอยู่ที่ผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะกระทรวงการคลังก็ต้องไปพูดคุยกันอีกที” นายอนุทินระบุ
    เมื่อถามว่า การที่กระทรวงการคลังไม่มาร่วมหารือด้วยมีนัยอะไรหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า คงต้องไปถามนายอุตตม สาวนายน รมว.การคลังดู อย่างไรก็ตาม หากพูดถึงผู้ถือหุ้น ถ้าในบริษัทนั้นๆ มีส่วนของทุนเป็นลบ ใบหุ้นก็ไม่มีราคาอะไร เจตนารมณ์ของการฟื้นฟูกิจการภายใต้ พ.ร.บ.ล้มละลาย หลักการคือเมื่อคนสะดุดล้มด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม แทนที่จะขายทรัพย์สินหรือขายทอดตลาด แล้วนำมาแบ่งเฉลี่ย อาจจะได้คนละนิดหน่อย แต่การให้โอกาสในการฟื้นฟูกิจการภายใต้กฎกติกามารยาทใหม่ทั้งหมด กิจการนี้ก็อาจจะรอด ธุรกิจก็เดินหน้าต่อไปได้ ส่วนใดที่ไม่มีมูลค่า ก็อาจกลับมามีค่าก็ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่สำหรับรัฐบาล โดยเฉพาะหัวหน้ารัฐบาลอย่างนายกรัฐมนตรี ก็อยากให้มีการฟื้นฟูกิจการก่อน การไปขายทอดตลาดหรือปล่อยให้ล้มละลายไม่มีอยู่ในหัวของนายกรัฐมนตรี เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ถือเป็นทิศทางที่ดี
     ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง กล่าวว่า มีความพยายามที่จะเอาแผนฟื้นฟูการบินไทยเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ทันภายในสัปดาห์หน้า ส่วนรายละเอียดของแผนฟื้นฟูยังไม่สามารถชี้แจงได้ ทั้งเรื่องการค้ำประกันเงินกู้วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท และเงื่อนไขต่างๆ ส่วนเรื่องที่ตนเองไม่ได้เข้าประชุมจนที่ประชุมล่มนั้นไม่เป็นความจริง และทำให้สับสน เพราะได้พูดคุยกับนายศักดิ์สยามอยู่ตลอด
    ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij  ระบุว่า ขอยํ้าอีกครั้งว่าข้อเสนอค้ำประกันเงินกู้ 50,000 ล้านบาทของรัฐบาลนั้น การบินไทยควรเข้ากระบวนการฟื้นฟูตามกฎหมายล้มละลายก่อน แล้วรัฐบาลค่อยค้ำประกันหนี้ให้ เงินใหม่จะมีสิทธิมากกว่าเงินเดิม เพราะกฎหมายระบุว่าหนี้สินที่มีการกู้ยืมหลังคำสั่งฟื้นฟูของศาลจะมีสิทธิเหนือกว่าหนี้สินที่การบินไทยมีอยู่เดิม แต่หากปล่อยกู้หรือค้ำประกันเงินกู้ก่อนเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู หนี้ส่วนนี้จะมีสิทธิเพียงเทียบเท่าหนี้เก่า ทั้งๆ ที่เวลานี้เราควรเจรจาลดภาระหนี้เก่าลงก่อน หนี้ก้อนใหญ่ของการบินไทยเป็นหนี้เช่าซื้อเครื่องบิน เวลานี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะเจรจาต่อรองลดหนี้ส่วนนี้ เพราะอุตสาหกรรมการบินยํ่าแย่ทั่วโลก 
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหุ้น บจม.การบินไทยนั้น ชุมชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ จำกัด ได้ร่วมลงทุนเป็นเงินจำนวน 97,206,026.50 บาท และสหกรณ์ออมทรัพย์ โรงพยาบาลตำรวจ จำกัด ได้ร่วมลงทุนเป็นเงิน 768,844,500.00 บาท เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สมาชิกสหกรณ์ฯมาขอถอนเงินจำนวนมาก โดยถอนได้ไม่เกินรายละ 300,000 บาท/คน/วัน 
    วันเดียวกัน นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ แถลงข่าวกรณีสหกรณ์ออมทรัพย์ที่นำเงินไปลงทุนในบริษัท การบินไทย จำกัด ว่ามีทั้งหมด 82 แห่ง วงเงิน 42,229 ล้านบาท ทุกแห่งล้วนเป็นสหกรณ์ชั้น 1 มีฐานะการเงินที่ดีมาก ขอยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบ เพราะเป็นเงินลงทุนเพียงแค่ 3.62% ดังนั้นขอให้สมาชิกสหกรณ์มีความเชื่อมั่น อย่าแห่ถอนเงิน ขณะนี้พบว่ามีความผิดปกติประมาณ 7 สหกรณ์ มีการถอนประมาณ 100-200ล้านบาทต่อวัน ซึ่งไม่กระทบสถานะทางการเงินกับสหกรณ์นั้นๆ
    นายพิเชษฐ์ระบุด้วยว่า กรณีนี้ต่างกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น เพราะทั้ง 82 แห่งไม่มีเรื่องทุจริต คาดว่าการบินไทย สามารถชำระได้ตามกำหนดแน่นอน แต่หากไม่สามารถชำระได้ กรมจะออกมาตรการผ่อนคลายในเรื่องเกณฑ์ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งปกติจะตั้งไว้ที่ 100% ดังนั้นเมื่อผ่อนผันเกณฑ์นี้ ไม่ต้องตั้งเงินสำรองหนี้ จะทำให้แต่ละสหกรณ์สามารถดำเนินธุรกรรมได้ตามปกติ เพราะไม่มีภาระสำรองหนี้ ในปีนี้หากการบินไทยไม่ชำระหนี้ จะใช้อำนาจนายทะเบียนสหกรณ์สั่งผ่อนคลายให้สหกรณ์เจ้าหนี้ไม่ต้องตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะต้องดูแลการบินไทยอย่างดีที่สุด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"