ผ่าตัดใหญ่บินไทย! 15อรหันต์คุมแผนฟื้นฟูชงชื่อ‘บิ๊กตู่’เคาะสัปดาห์หน้า


เพิ่มเพื่อน    

  “ประยุทธ์” ทุบโต๊ะ ครม.เลิกอุ้มการบินไทย เข้าสู่การฟื้นฟูของศาลแต่ไม่ใช่ล้มละลายเพราะกลัวพนักงานเจ้าจำปี 2 หมื่นชีวิตถูกลอยแพ รับตัดสินใจยากแต่ผลกระทบโควิด-19 ไม่รู้ยาวนานแค่ไหน ต้องเตรียมเงินไว้ดูแลคนทั้งชาติ “อุตตม” สั่งคลังศึกษาด่วนลดถือหุ้นต่ำกว่า 50% “ศักดิ์สยาม”  เตรียมหามืออาชีพ 15 คนคุมแผนฟื้นฟูชงชื่อให้ “บิ๊กตู่” เคาะสัปดาห์หน้า

    เมื่อวันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แบบเต็มคณะผ่านเพจไทยคู่ฟ้าถึงการแก้ไขปัญหาของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ กบท.ว่า เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ก็เป็นการตัดสินใจที่รู้ว่าจะช่วยรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนทุกคนได้อย่างไร ซึ่งปัญหาเรื่องนี้ทุกคนทราบดีอยู่แล้วที่มีหนี้สินต่างๆ มากพอสมควร ซึ่งมีอยู่ 3 ทางเลือกด้วยกัน คือ 1.การหาเงินให้การบินไทยดำเนินการต่อไป 2.ปล่อยให้เข้าสู่สถานการณ์ล้มละลาย และ 3.เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูของศาล แต่ที่ผ่านมาอาจมีปัญหาการฟื้นฟูไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนัก เพราะมีข้อกฎหมายอยู่หลายประการ โดยเฉพาะพระราชบัญญัติแรงงานและพระราชบัญญัติรัฐวิสาหกิจ ดังนั้นวันนี้เราจำเป็นต้องหามาตรการที่เหมาะสม และรัฐบาลได้พิจารณาร่วมกันในคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และ ครม.แล้ว 
    "พวกเราทุกคนตัดสินใจว่าเราจะเลือกทางที่ 3 เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูของศาล ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และต้องดำเนินการอีกหลายขั้นตอนต่อไป เพื่อแก้ปัญหาภายในองค์กรและเรื่องประกอบการต่อไป เพื่อให้ฟื้นฟูขึ้นมาอย่างที่พวกเราคาดหวังไว้ ผมอยากให้ทุกคนกลับไปคิดดูว่า เรามีการบินไทยเพื่ออะไรในช่วงที่ผ่านมา และการบินไทยควรเป็นองค์กรที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้คนไทย และมีความสามารถในการแข่งขัน เข้มแข็งในตัวเองได้อย่างไร นี่คือพื้นฐานในการตัดสินใจของผม และนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันนี้ ซึ่งวันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องกล้าที่จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู โดยยื่นเข้ากระบวนการต่อศาล ซึ่งจะได้หารือกันอย่างรัดกุมในรายละเอียดต่างๆ ทั้งหมด" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 
    นายกฯ กล่าวอีกว่า ช่วงเวลานี้ไทยและทั้งโลกกำลังเผชิญวิกฤติ รายได้ของทุกคนกำลังหายไปจากหายนะของโควิด-19 เราจำเป็นต้องรักษาเงินตราของประเทศเอาไว้เพื่อใช้ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในช่วงเวลาข้างหน้าต่อจากนี้ ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี คนหาเช้ากินค่ำ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือประชาชนทั่วไป รัฐบาลต้องมองอย่างรอบคอบในทุกมิติ แม้ว่าวันนี้เราอยู่ในจุดที่ควบคุมวิกฤติทางด้านสุขภาพได้ดีในระดับหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆ ประเทศ แต่ปัญหาโควิด-19 จะยังไม่จบเพียงเท่านี้ ปัญหาที่หนักกว่านั้นซึ่งรัฐบาลกำลังหาหนทางปฏิบัติแก้ไขคือ ปัญหาการทำมาหากินเลี้ยงปากท้องของประชาชนที่ทุกคนในประเทศไทยล้วนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น และยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสามารถกลับมาทำมาหากินสร้างรายได้เหมือนปกติอย่างเคย นี่คือวิกฤติทางเศรษฐกิจที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต เราจำเป็นต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนในการใช้จ่ายงบประมาณอีกจำนวนมากหลังจากช่วงวิกฤติโควิด-19 เพื่อให้ประชาชนอยู่รอด สร้างชีวิตสร้างรายได้กลับสู่ภาวะปกติ และสร้างเศรษฐกิจประเทศกลับคืนมาและเข้มแข็งในระยะต่อไป รัฐบาลจึงต้องมองในทุกมิติ
กลัวลอยแพ พนง. 2 หมื่น
    "ผมเองรู้สึกว่าการที่ตัดสินใจเข้าสู่แผนการฟื้นฟู โดยไม่ปล่อยให้การบินไทยเข้าสู่สถานะล้มละลาย  ซึ่งอาจทำให้พนักงานมากกว่า 2 หมื่นคนต้องถูกลอยแพ พวกเราคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น ฉะนั้นรัฐบาลยืนยันว่าจะสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อให้ดำเนินกิจกรรมต่อไปได้แม้ไม่ได้รับเงินจากรัฐบาล จึงขออนุญาตให้การบินไทยเข้าไปอยู่ภายใต้การคุ้มครองของศาลและเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูภายใต้คำสั่งของศาล ซึ่งศาลจะพิจารณาแต่งตั้งมืออาชีพมาบริหารจัดการฟื้นฟูการบินไทย ผมเองและพี่น้องประชาชนทุกคนคงคาดหวังเช่นเดียวกันว่า เมื่อมีมืออาชีพเข้ามาบริหารจัดการแล้ว การบินไทยจะกลับมาเป็นสายการบินแห่งชาติที่คนไทยเคยภาคภูมิใจ และกลับมาเป็นองค์กรที่ช่วยสร้างความรุ่งเรืองให้กับประเทศได้ วิธีการนี้เป็นวิธีการเดียวที่การบินไทยจะยังคงสามารถประกอบกิจการและดำเนินการต่อได้ พนักงานการบินไทยจะมีงานทำต่อไป" นายกฯ กล่าว
    ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข กล่าวก่อนการประชุม ครม.ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดแผนฟื้นฟูการบินไทยที่จะให้กองทุนวายุภักษ์และบริษัทบริหารสินทรัพย์เข้ามาถือหุ้นการบินไทยแทนกระทรวงการคลังเพื่อลดสัดส่วนการถือครองหุ้น ซึ่งจะทำให้การบินไทยหลุดพ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ ต้องรอมติที่ประชุม ครม. 
    ด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง กล่าวว่า หลัง ครม.เห็นชอบแผนฟื้นฟูการบินไทย ได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ไปทำแผนขายหุ้นที่กระทรวงถืออยู่ 51.03% ให้ต่ำกว่า 50% เพื่อให้การบินไทยพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ ส่วนจะขายเท่าไหร่ หรือขาย 3% ให้กองทุนวายุภักษ์ตามข่าวหรือไม่ ขอให้รอดูแผนก่อน ซึ่งสั่งการให้ สคร.ทำแผนให้เสร็จโดยเร็ว
    “สคร.ต้องไปดูว่าจะขายหุ้นที่คลังถืออยู่เท่าไร อย่างไร จึงเหมาะสม แต่ต้องอยู่ต่ำกว่า 50% ซึ่งขายลงมาหน่อยก็ต่ำกว่า 50% แล้ว สั่งการให้เร่งทำแผนโดยเร็ว แต่ต้องดูให้รัดกุมและรายงานให้ ครม.รับทราบเท่านั้น ไม่ต้องขอความเห็นชอบแล้ว” นายอุตตมกล่าวและว่า การขายหุ้นจะทำให้คลังขาดทุน แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย ไม่มีการฟื้นฟูการบินไทย ราคาหุ้นมูลค่าก็ต้องลดลงอยู่แล้ว และทำให้เป็นปัญหากับ การบินไทยในระยะต่อไป แต่ถ้าขายหุ้นเข้าสู่แผนฟื้นฟูแล้วราคาหุ้นก็จะดีขึ้น ก็จะส่งผลดีกับหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ในระยะยาว
     นายอุตตมยืนยันว่า การเข้าแผนฟื้นฟูของการบินไทยไม่ใช่การล้มละลาย แม้ว่าจะไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจต่อไป แต่การดูแลพนักงานต้องมีอย่างต่อเนื่อง สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยต้องมีอยู่เหมือนเดิม แต่ต้องตั้งขึ้นมาใหม่ ภายหลังขายหุ้นและพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจไปแล้ว การทำงานยังต้องมีความคล่องตัว มีมาตรฐาน 
คัด 15 มืออาชีพคุมฟื้นฟู
    ขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวถึงแผนฟื้นฟูการบินไทยตามมติ ครม.ซึ่งจะยื่นฟื้นฟูกิจการทั้งศาลไทยและศาลสหรัฐอเมริกาว่า ภายในสัปดาห์นี้ต้องได้รายชื่อ 15 บุคคลที่จะเข้ามาบริหารแผนฟื้นฟู โดยคาดว่าจะเสนอให้ ครม.พิจารณาภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งแนวทางนี้เป็นแนวทางที่ดีที่สุด หากปล่อยให้การบินไทยล้มละลายก็จะไม่เป็นผลดี เพราะจะถูกพิทักษ์ทรัพย์ ไม่สามารถทำการบินได้ ประกอบกิจการไม่ได้ ทำให้ทรัพย์สินถูกอายัดขายทอดตลาด พนักงานตกงานและถูกลอยแพ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ ขณะที่ขั้นตอนหลังจากนี้การบินไทยยังดำเนินกิจการได้ภายใต้การพิจารณาของศาล และจะเจรจากับเจ้าหนี้ทั้งในและต่างประเทศให้เห็นชอบแผนฟื้นฟู และสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ทำงานได้จริง
     “การคัดเลือกประมาณ 15 บุคคลที่จะมาดำเนินการจัดทำแผน ต้องเป็นบุคคลที่ทำงานได้จริงและปราศจากการแทรกแซง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหัวใจในการที่จะทำให้การบินไทยฟื้นฟูขึ้นมาได้ คาดว่าจะได้รายชื่อภายในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะเสนอให้นายกฯ เร็วที่สุดภายในสัปดาห์หน้า”
ส่วนประเด็นที่สังคมได้ตั้งคำถามว่า กรณีการบินไทยเมื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูแล้วอะไรจะเกิดขึ้น นายศักดิ์สยามกล่าวว่ายังดำเนินกิจการได้อยู่ แต่จะดำเนินการภายใต้แผนฟื้นฟูที่ศาลพิจารณา และอยู่ภายใต้การกำกับของผู้ที่ศาลได้แต่งตั้งในการดำเนินการ ส่วนบอร์ดการบินไทยก็ยังมีอำนาจในการบริหารอยู่ และยังเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ จนกว่าจะปรับลดหุ้นกว่า 50% ก็จะหลุดจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ 
     นายศักดิ์สยามระบุว่า การที่กระทรวงคมนาคมให้ความเห็นในการเข้าสู่แผนฟื้นฟูโดยยื่นต่อศาลนั้น ได้ดูจากตัวแบบของสายการบินที่ประสบปัญหาในอดีต เช่น สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ ที่สามารถยื่นฟื้นฟูในปี 2010 และออกจากแผนฟื้นฟูได้ภาย 14 เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นกลับเข้ามามีสถานภาพผลประกอบการที่มีรายได้และผลกำไรปีละ 2 พันล้านดอลลาร์ทุกปี ขณะที่สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ใช้ระยะเวลาเพียงสามปีในการฟื้นตัว
เล็งหาช่องอุ้ม พนง.
     “สิ่งสำคัญคือ การบินไทยต้องเอกซเรย์ว่ามีอะไรที่ดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง และทำให้มีต้นทุนที่สูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ กระทรวงจะเข้าไปดูในเรื่องนี้ และจะไล่ดูว่าทำอะไรมาถึงเกิดปัญหานี้ขึ้นมา วันนี้เราต้องหันหน้ามาร่วมกันทำงาน เพื่อที่จะช่วยฟื้นฟูกิจการการบินไทย เราไม่ได้ต้องการทำลายการบินไทย เราต้องการทำให้การบินไทยฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง ส่วนปัญหาเรื่องพนักงาน หลังจากนี้ต้องหารือกับสหภาพการบินไทยเพื่อหาทางออกที่อยู่ในสถานการณ์จริงและปฏิบัติได้ เพื่อดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพนักงานกว่า 20,000 คน แต่จะทำลักษณะไหนจะหารือและตัดสินใจเสนอ ครม.โดยมีตัวแบบและผลการวิเคราะห์“ นายศักดิ์สยามกล่าว
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า การบินไทยมีปัญหาในการประกอบกิจการ ซึ่งปี 2562 มีหนี้สินภาระดอกเบี้ย 147,352 ล้านบาท ยังไม่รวมในปี 2563 โดยหนี้สินของการบินไทยคาดการณ์ว่า ปีนี้จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งจะทำให้การบินไทยมีภาระหนี้มากกว่า 2 แสนล้านบาท ส่วนแผนฟื้นฟูที่การบินไทยเสนอมาเพื่อประกอบการพิจารณา เห็นว่ามีสิ่งที่เป็นความเสี่ยง 23 เรื่อง และเห็นว่าหากพิจารณาเห็นชอบก็จะไม่สามารถปฏิบัติตามแผนได้ และรัฐบาลอาจต้องเสียงบประมาณมากกว่า 5 หมื่นล้านบาทหากค้ำประกันเงินกู้ และรัฐบาลอาจต้องเพิ่มเงินเข้าไปอีกและทำให้เกิดความเสียหาย
    นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการคนที่ 2 รักษาการแทนกรรมการผู้อํานวยการใหญ่การบินไทย กล่าวว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้การบินไทยดําเนินการตามแผนฟื้นฟูธุรกิจภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลาง โดยให้การบินไทยดําเนินกิจการตามปกติ แม้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้ พ.ร.บ.ล้มละลาย แต่ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเลิกหรือชําระบัญชีบริษัท หรือไม่ได้มุ่งหมายให้บริษัทต้องตกเป็นบุคคลล้มละลายแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของแผนฟื้นฟูธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพตามขั้นตอนต่างๆ ซึ่งมีกฎหมายรองรับและให้ความคุ้มครองอย่างเป็นธรรมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
    “การบินไทยยังประกอบธุรกิจปกติต่อไปได้ตลอดเวลาที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการขนส่งผู้โดยสารไปยังจุดหมายปลายทางของการบินทั่วโลก หรือการขนส่งสินค้าไปรษณีย์ภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะดําเนินการควบคู่ไปกับการฟื้นฟูองค์กรเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการดําเนินงานและพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการให้ดียิ่งขึ้นต่อไป”.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"