'มะกันมิคสัญญี'สางแค้นฆ่าผิวสี!


เพิ่มเพื่อน    


    ลุกเป็นไฟ ชาวอเมริกันแค้นตำรวจฆ่าชายผิวสีที่เมืองมินนีแอโพลิส ออกก่อจลาจลวางเพลิงปล้นสะดมติดต่อกันเป็นคืนที่ 3 สถานีตำรวจต้นสังกัดโดนเผาทำลาย ผู้ว่าการรัฐเรียกเนชั่นแนลการ์ดมาเสริมกำลัง ประท้วงยังลุกลามไปหลายรัฐ มีคนถูกยิง 7 รายที่เคนทักกี ข้าหลวงสิทธิยูเอ็นเรียกร้องสหรัฐเอาจริง หยุดยั้งการฆ่าคนแอฟริกันอเมริกันไร้อาวุธ
    รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม รายงานเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงในเมืองมินนีแอโพลิส และเมืองเซนต์พอล เมืองคู่แฝดในรัฐมินนิโซตา ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา จากความโกรธแค้นที่ชาวอเมริกันผิวดำเสียชีวิตระหว่างโดนตำรวจผิวขาวควบคุมตัวอีกราย กรณีล่าสุดเกิดที่เมืองมินนีแอโพลิสเมื่อวันจันทร์ ตำรวจเข้าจับกุมจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีวัย 46 ปี โดยสงสัยว่าเขาใช้ธนบัตร 20 ดอลลาร์ปลอม ตำรวจจับเขาใส่กุญแจมือแล้วกดลงพื้น แต่มีผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายวิดีโอไว้ได้ ซึ่งเปิดโปงว่าตำรวจนายหนึ่งใช้เข่ากดคอชายผู้นี้นานกว่า 5 นาที แม้เขาจะร้องบอกว่าหายใจไม่ออก จนเขาหมดสติแน่นิ่ง เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและแพทย์ประกาศว่าเขาเสียชีวิต
    ตำรวจ 4 นายที่อยู่ในเหตุการณ์โดนไล่ออกเมื่อวันอังคาร แต่วันเดียวกันนั้น ประชาชนนับพันคนชุมนุมประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมและต้องการให้ดำเนินคดีตำรวจเหล่านี้ฐานฆ่าคนตาย การประท้วงบานปลายเป็นการปะทะกับตำรวจที่ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง เหตุการณ์ลุกลามเป็นจลาจล มีทรัพย์สินและร้านค้าถูกวางเพลิงและปล้นสะดม รวมถึงที่เมืองเซนต์พอลที่อยู่ติดกัน การประท้วงเกิดต่อเนื่องในวันพุธ ผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจ, ออกปล้นสะดมและวางเพลิงร้านค้าและสถานที่ก่อสร้างแห่งหนึ่ง มีคนโดนยิงเสียชีวิต ตำรวจกำลังสอบสวนว่าเขาโดนเจ้าของร้านค้ายิงหรือไม่
    ช่วงดึกของวันพฤหัสบดี ผู้ประท้วงได้ทำลายสิ่งกีดขวางและเข้าไปเผาทำลายสถานีตำรวจเขต 3 ต้นสังกัดของตำรวจกลุ่มนั้น รวมถึงวางเพลิงร้านค้าและโรงรับจำนำที่อยู่ใกล้เคียง รายงานเอเอฟพีเมื่อวันศุกร์อ้างแถลงการณ์ของตำรวจเมืองมินนีแอโพลิสว่า ตำรวจได้อพยพออกจากสถานีเขต 3 ล่วงหน้าตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มเศษ จึงไม่มีใครอยู่ภายในอีก
    ทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา ได้เรียกกองกำลังเนชั่นแนลการ์ด 500 นาย และตำรวจรัฐมาเสริมการรักษาความปลอดภัยตามคำร้องขอของนายกเทศมนตรีเมืองมินนีแอโพลิสและเซนต์พอลเมื่อวันพฤหัสบดี "การเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ควรนำไปสู่ความยุติธรรมและการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่การเสียชีวิตเพิ่มขึ้นและการทำลายล้าง" เขากล่าว และเรียกร้องให้การชุมนุมประท้วงทั้งหมดเป็นไปอย่างสันติ
    เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตประณามเหตุการณ์รุนแรงที่รัฐมินนิโซตา โดยบอกว่าอันธพาลเหล่านี้สร้างความเสื่อมเสียต่อจอร์จ ฟลอยด์ และว่าทหารอยู่เคียงข้างผู้ว่าการรัฐ ข้อความดังกล่าวของทรัมป์ถูกทวิตเตอร์ขึ้นป้ายเตือนในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาโดยระบุว่าทวีตนี้ของทรัมป์ละเมิดข้อบังคับเกี่ยวกับการยกย่องความรุนแรง
    ภายหลังทวีตของทรัมป์ นายกเทศมนตรีจาค็อบ เฟรย์ แห่งเมืองมินนิแอโพลิส แถลงข่าวชี้แจงว่า อิฐปูนไม่สำคัญไปกว่าชีวิตคน และเจ้าหน้าที่ถูกส่งไปวางกำลังเพื่อป้องกันการปล้นสะดม เขายอมรับว่าความโกรธและความคับแค้นของผู้ประท้วงบนท้องถนนเป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจ แต่การปล้นสะดมนั้นยอมรับไม่ได้ 
    รายงานกล่าวว่า เมืองมินนีแอโพลิสเรียกร้องให้ประชาชนในเขต 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารสถานีตำรวจแห่งนี้ ย้ายออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากอาจมี "วัตถุระเบิด" อยู่ภายใน และท่อส่งก๊าซในพื้นที่ถูกตัดแล้ว
    กระทรวงยุติธรรมให้คำมั่นเมื่อวันพฤหัสบดีว่าจะสอบสวนคดีการเสียชีวิตของฟลอยด์อย่างตรงไปตรงมาและเป็นคดีที่ให้ความสำคัญก่อน สมาชิกพรรคเดโมแครตยังเรียกร้องให้รัฐบาลสอบสวนการตายของชาวอเมริกันผิวดำอีก 2 คนเมื่อไม่นานมานี้ด้วย รายหนึ่งคืออาห์มูด อาร์เบรี ที่โดนชายผิวขาว 2 คนยิงเสียชีวิตที่เมืองบรันสวิค รัฐจอร์เจีย และบรีออนนา เทย์เลย์ ที่โดนตำรวจบุกยิงเสียชีวิตในบ้านของเธอที่เมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี เมื่อเดือนมีนาคม
    เอเอฟพีกล่าวว่า การเสียชีวิตของฟลอยด์ที่กระพือความโกรธแค้นจนกลายเป็นเหตุจลาจลนี้ทำให้หวนนึกถึงเหตุการณ์จลาจลในเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี เมื่อปี 2557 ที่เกิดขึ้นภายหลังตำรวจยิงชายแอฟริกันอเมริกันที่ต้องสงสัยว่าก่อคดีปล้น เสียชีวิต ปีเดียวกันนั้นตำรวจนิวยอร์กรัดคอชายผิวดำชื่อเอริก การ์เนอร์ จนเขาขาดใจตายขณะพยายามควบคุมตัวเขาฐานขายบุหรี่เถื่อน การตายของการ์เนอร์ปลุกขบวนการเรียกร้อง "ชีวิตคนผิวดำก็สำคัญ" ขึ้นทั่วสหรัฐ
    ชาวอเมริกันในรัฐอื่นๆ ออกมาชุมนุมประท้วงด้วยเช่นกันในสัปดาห์นี้ ที่ย่านยูเนียนสแควร์ของนครนิวยอร์ก มีคนชุมนุมหลายร้อยคนเมื่อวันพฤหัสบดี ผู้ชุมนุมโดนตำรวจจับกุมอย่างน้อย 5 คน ส่วนที่นครลอสแองเจลิสที่มีความตึงเครียดมายาวนานระหว่างตำรวจกับคนผิวดำ ผู้ประท้วงเดินขบวนกลางเมืองเมื่อวันพุธและปิดถนนสายหลักเป็นเวลาสั้นๆ โดยวันศุกร์ นักเคลื่อนไหววางแผนเดินขบวนกันกลางกรุงวอชิงตันใกล้ทำเนียบขาว ขณะที่ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีมีการชุมนุมที่เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด และเมืองฟินิกส์ รัฐแอริโซนา  
    ที่รัฐเคนทักกีเมื่อวันพฤหัสบดี ชาวเมืองออกมาชุมนุมประท้วงการเสียชีวิตของบรีออนนา เทย์เลอร์ สื่อท้องถิ่นรายงานว่ามีคนโดนยิงระหว่างการประท้วง 7 ราย ตำรวจหลุยส์วิลล์กล่าวว่า หนึ่งในนี้มีอาการอยู่ในขั้นวิกฤติ และยังไม่ชัดเจนว่าใครเป็นคนยิง คำแถลงของตำรวจที่เผยแพร่ทางทวิตเตอร์เรียกร้องให้ชาวเมืองใช้แนวทางสันติ พร้อมกับลงวิดีโอจากสมาชิกในครอบครัวของเทย์เลอร์ วิงวอนให้ผู้ชุมนุมกลับบ้าน ขอให้ปลอดภัยและพร้อมต่อสู้ต่อไป
    ที่นครเจนีวาเมื่อวันพฤหัสบดี มิเชล บาชเล็ต ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แถลงประณามการสังหารจอร์จ ฟลอยด์ และคนแอฟริกันอเมริกันอีกหลายชีวิตในช่วงเวลาหลายปีมานี้ และเรียกร้องให้ทางการสหรัฐดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อหยุดยั้งการฆ่าคนแอฟริกันอเมริกันไร้อาวุธ ทั้งโดยตำรวจสหรัฐและโดยสาธารณชนที่มีอาวุธ และต้องให้ความมั่นใจว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว ผู้กระทำผิดจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน อดีตประธานาธิบดีหญิงของชิลียังขอร้องให้ผู้ประท้วงอยู่ในความสงบสันติและขอให้ตำรวจระมัดระวังถึงที่สุดไม่กระพือให้สถานการณ์รุนแรงยิ่งขึ้นด้วยการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"