4 มิ.ย.63 - นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การตรวจสอบการใช้เงินจากพระราชกำหนดกู้เงินจำนวน 1.9 ล้านล้านบาท ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อ้างว่าสามารถใช้การตรวจสอบตามช่องทางปกติได้นั้น ประชาชนไม่ให้ความเชื่อถือองค์กรเหล่านี้ ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รวมทั้งองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นหน่วยตรวจสอบที่เกิดขึ้นหลังรัฐประหาร การทำงานขององค์กรอิสระเหล่านี้ ยังคงความอิสระจริงหรือไม่ เพราะหลายครั้งที่การวินิจฉัยขององค์กรอิสระ เกิดคำถามจากสังคมว่าเป็นไปตามกระบวนการหรือไม่ สังคมไม่ยอมรับ ทั้งนี้เพราะผู้บริหารองค์กร หรือผู้มีอำนาจในหลายองค์กรเกิดขึ้นหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.มีอำนาจ และใช้กฎหมายพิเศษในการแต่งตั้ง จึงเกรงว่าจะเกิดการเอื้อประโยชน์หรือเลือกปฏิบัติในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล

นายวิสาร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้การตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินกู้น่าผิดหวังมาก เพราะเป็นข้าราชการ 6 คน ที่เหลืออีก 5 คน พลเอกประยุทธ์ คัดสรรคนใกล้ชิดเข้ามาบริหารเงิน ไม่ต่างจากการตั้งคนกันเองมาดูแลเงินจำนวน 1.9 ล้านล้านบาท เห็นชัดว่ารัฐบาลตั้งใจปกปิดข้อมูลและไม่ยอมรับการมีส่วนร่วมของประชาชนเจ้าของเงิน

“นอกจากนี้มีรายงานว่าหลายจังหวัดได้รับการร้องเรียน ว่ามีการเตรียมจัดสรรงบประมาณจากเงินกู้1.9 ล้านล้านบาท ไปทำโครงการในพื้นที่ของส.ส.พรรครัฐบาล มีการขึ้นป้ายหาเสียงกันแล้ว เป็นการจงใจที่จะใช้งบประมาณ เพื่อเอื้อประโยชน์ทางการเมืองมากกว่าที่จะใช้งบประมาณเพื่อช่วยเหลือประชาชน ทั้งๆที่เศรษฐกิจประเทศใกล้ล้มละลาย แต่พลเอกประยุทธ์ไม่ให้ความสำคัญในการเร่งแก้ปัญหา กลับให้ความสำคัญในการใช้อำนาจผ่าน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หวังคุมอำนาจเบ็ดเสร็จ เพื่อไม่ต้องรับผิดชอบหากเกิดความเสียหายจากการใช้เงินดังกล่าว”นายวิสาร กล่าว