จับอดีตผู้สมัครสส. แฮ็กข้อมูลฉก4แสน


เพิ่มเพื่อน    


    จับหนุ่มนักเรียนนอกอดีตผู้สมัคร ส.ส.ตั้งแก๊งต้มตุ๋น ติดต่อเหยื่ออ้างเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลมือถือ พร้อมนำของมามอบให้ โดยนำซิมของผู้เสียหายใส่ไปในเครื่องเพื่อยืนยันสิทธิ์ แล้วดูดข้อมูลโอนเงินออกจากบัญชีสูญเกือบ 4 แสน
    ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล วันที่ 4 มิถุนายนนี้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. แถลงผลการจับกุมนายอานนท์วัฒน์ วรเมธชยางกูร อายุ 34 ปี อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภราดรภาพ จับกุมได้ที่บริเวณหน้าเรือนจำกลางจังหวัดสมุทรปราการ หลังร่วมกับพวกอีกอย่างน้อย 2 คน หลอกนำข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหาย เพื่อใช้ขโมยเงินออกจากบัญชีผู้เสียหาย มูลค่าเกือบ 4 แสนบาท 
    พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายอานนท์วัฒน์ กับพวก ร่วมกันหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัวของประชาชนโดยการหลอกมอบรางวัลเป็นโทรศัพท์มือถือ โดยให้ผู้เสียหายเอาซิมโทรศัพท์ใส่ อ้างว่าเพื่อยืนยันการรับรางวัล จากนั้นแอบรับ SMS OTP ก่อนนำไปโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก มูลค่ารวมหลายแสนบาท
    ขณะที่ พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า นายอานนท์วัฒน์จบการศึกษาจากประเทศเยอรมัน มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบประวัติพบมีคดีติดตัวอยู่ 9 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดีฉ้อโกงเกี่ยวกับการหลอกลวงขายหน้ากากอนามัย นอกจากนี้ยังได้ออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 1 ราย เป็นผู้ร่วมขบวนการ อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี
    สำหรับประชาชนที่เคยถูกหลอกลวงในลักษณะนี้ สามารถไปชี้ตัวผู้ต้องหาได้ที่สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง และขอให้ประชาชนระมัดระวังในการให้ข้อมูลส่วนตัวแก่บุคคลหรือเว็บไซต์ที่ไม่เป็นทางการ ซึ่งคนร้ายอาจจะนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้กระทำความผิดได้ หากพบเห็นการกระทำความผิดต่างๆ สามารถแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่
    เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีมาตรการการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
    ด้านนายอานนท์วัฒน์ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริง โดยเลือกเหยื่อจากสื่อสังคมออนไลน์ ลักษณะเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต มีหน้าที่การงานที่ดี ส่วนเงินที่ได้มา นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 
    นายกษิดิศ ขอสงวนนามสกุล ผู้เสียหาย เล่าว่า หลังกลับจากพักโรงแรมแห่งหนึ่ง มีโทรศัพท์เข้ามาหา แสดงความยินดีที่เข้าพักโรงแรม และได้รับรางวัลเป็นโทรศัพท์มือถือ โดยผู้ต้องหานัดหมายนำโทรศัพท์มาให้ด้วยตนเอง และมีการถ่ายภาพลงสื่อสังคมออนไลน์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ต้องใส่ซิมส่วนตัวเข้าไปในโทรศัพท์มือถือที่เป็นรางวัล โดยอ้างว่าเพื่อยืนยันการรับรางวัล หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง เงินในบัญชีตนเองถูกโอนออกไปเกือบ 4 แสนบาท ยืนยันไม่เคยรู้จักผู้ต้องหามาก่อน
    ส่วนนายนิวัตร เหลืองศิริเชียร อดีตผู้ประกาศข่าว กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องหารายได้เพิ่ม จึงรับงานฟรีแลนซ์ผ่านเว็บอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยถูกว่าจ้างให้นำโทรศัพท์ไปมอบให้กับผู้โชคดี จำนวน 3 ราย ตกลงรับงานในราคา 5,000 บาท พร้อมจ่ายเงินล่วงหน้า 50% อีกครึ่งหนึ่งจะจ่ายหน้างาน แต่ปรากฏว่าหลังจากนำโทรศัพท์ไปให้ผู้เสียหายแล้วกลับไม่ได้เงินส่วนที่เหลือ ตนจึงยุติไม่ไปส่งโทรศัพท์อีก 2 ราย หลังจากนั้นตนพยายามติดต่อขอเงินค่าจ้างที่ตกลงกันไว้ แต่ก็ไม่ได้รับเงิน จึงยุติการรับงานกับเคสนี้โดยสิ้นเชิง 
    นายนิวัตรกล่าวว่า ต่อมาทราบว่าผู้เสียหายที่ตนนำโทรศัพท์ไปให้นั้นถูกขโมยเงินจากบัญชี และมีภาพของตนตอนส่งมอบโทรศัพท์ไปเกี่ยวข้องด้วย จึงเข้าแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมยืนยันว่าไม่เคยรู้จักนายอานนท์วัฒน์ ไม่เคยเห็นหน้าและติดต่องานกันมาก่อน และไม่มีส่วนรู้เห็นกับการหลอกลวงในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาก็รับงานฟรีแลนซ์มาตลอด แต่ไม่เคยมีปัญหา เคสนี้เป็นเคสแรกที่ถูกหลอกให้ทำงาน จึงต้องยุติบทบาทการเป็นผู้ประกาศ และหยุดรับงานฟรีแลนซ์. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"