ก.อุตฯลุยของบฟื้นฟู1.4หมื่นล้านช่วยประชาชน


เพิ่มเพื่อน    

 

5 มิ.ย.2563 แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเสนอโครงการตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 4 แสนล้านบาท ภายใต้พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ว่า วันที่ 5 มิ.ย. กระทรวงฯจะเสนอโครงการในการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 วงเงิน 14,000 ล้านบาท ต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เพื่อดำเนินโครงการตั้งแต่วันได้งบจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2564 คาดว่าจะช่วยประชาชนได้ประมาณ 1.2 ล้านคน เกิดมูลค่าเศรษฐกิจประมาณ 100,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามวงเงินที่เสนอต้องอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการของสศช. ด้วย แต่กระทรวงฯมั่นใจว่าโครงการทั้งหมดจะช่วยเหลือประชาชนได้ตรงจุดแน่นอน เพราะได้หารือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ชุมชน และเกษตรกรอย่างรอบด้านแล้ว

ทั้งนี้จากวงเงินที่เสนอเป็นโครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) มากที่สุดประมาณ 10,000 ล้านบาท เน้นชูโครงการอุตสาหกรรมฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศรองรับวิถีความปกติใหม่ มีเป้าหมายผลผลิตครอบคลุม 14,150 กิจการ ครอบคลุม 500 หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัวให้ถูกทางอย่างยั่งยืน คาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ 96,000 ล้านบาท โดยมีการดำเนินงานแบ่งเป็น 4 ด้าน ใน 4 กลุ่มเป้าหมาย คือ 1.กลุ่มผู้ประกอบการ บุคลากร 2.ประชาชน อาชีพอิสระ 3.ชุมชน วิสาหกิจชุมชน และ4.เกษตรกร ธุรกิจเกษตร

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิดส่งผลกระทบอย่างรุนแรง สสว.จึงได้เตรียมเสนอโครงการเพื่อจะช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีใน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในระบบสถานการบันการเงิน(กู้เงินนอกระบบ) และกลุ่มที่เป็นหนี้เสีย(เอ็นพีแอล) ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ โดยจะเสนอสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อขอใช้เงินในโครงการตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 4 แสนล้านบาท ภายใต้พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ภายในวันที่ 5 มิ.ย. เป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้หน่วยงานราชการยื่นเสนอโครงการเข้ามา

นอกจากนี้ได้จัดทำ 4 โครงการ ช่วยเอสเอ็มอีทุกกลุ่มใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท  เพื่อพัฒนาธุรกิจ สร้างผู้ประกอบการใหม่ พัฒนาแบรนด์ และเครือข่ายคลัสเตอร์  โดยการดำเนินโครงการทั้ง 4 จะช่วยพัฒนาและเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการในหลากหลายกลุ่ม ให้สามารถปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นภายหลังการระบาดของโรค รวมทั้งกลุ่มสิ่งทอแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับจีดีพี ของประเทศ โดยเฉลี่ยราว 200,000 ล้านบาทต่อปี
นายชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า            สถาบันฯได้ของบประมาณภายใต้พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ผ่าน สมอ. จำนวนเงิน 40 ล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์ตรวจสอบคุณภาพเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ เหมือนวันสต็อปเซอร์วิสที่ให้และสามารถออกใบรับรองคุณภาพให้เลย โดยจะลดภาระต้นทุนของผู้ประกอบการลง 50%

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"