คุก1,446ปี!แหลมเกตซีฟู้ด จัดโปรอาหารถูกตุ๋นปชช.


เพิ่มเพื่อน    


    ศาลสั่งจำคุก 1,446 ปี ผู้บริหารแหลมเกตซีฟู้ดฉ้อโกงประชาชน จัดโปรฯ อาหารทะเลราคาถูกให้หลงเชื่อ ก่อนยกเลิกเชิดเงินลูกค้า พร้อมให้ชดใช้เงินคืนกว่า 2 ล้านบาท 
    ที่ห้องพิจารณา 701 ศาลอาญา วันที่ 10 มิ.ย. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2808/2562  ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท แหลมเกต อินฟินิท จำกัด, นายอพิชาต หรือโจม บวรบัญชารักษ์ หรือพารุณจุลกะ และ น.ส.ประภัสสร บวรบัญชา เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด คุณภาพ ปริมาณ ในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา  341, 343 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
    พฤติการณ์ความผิดของจำเลยสรุปว่า นายโจมกับ น.ส.ประภัสสร ได้เปิดบริษัท แหลมเกต อินฟินิท และได้โฆษณาทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ของร้านชื่อ www.laemgate.net กับโปรแกรมแชตไลน์ Line:@laemgate ว่า จำหน่ายบัตรรับประทานอาหารเป็นจำนวนมากตามแต่ละโปรโมชัน และมีราคาถูกต่ำกว่าความเป็นจริง เช่น "โปรราชาทะเลบุฟเฟต์" ขายเป็นชุด ชุดละ 880 บาท มี 10 ที่นั่ง ที่นั่งละ 88 บาท, "โปรนาทีทองมาแล้วจ้า" ขายเป็นชุด ชุดละ 2,020 บาท มี 20 ที่นั่ง ที่นั่งละ  101 บาท, "โปรแฟนพันธุ์แท้" ขายเป็นชุด ชุดละ 3,000 บาท มี 30 ที่นั่ง ที่นั่งละ 100 บาท และโปรโมชันหมีหมี เป็นต้น โดยลูกค้าต้องจองคิววันที่จะเข้าไปทานอาหารผ่านทางระบบออนไลน์ของร้าน ซึ่งให้ผู้ที่สนใจโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 0401759603 ชื่อบัญชี บจก.แหลมเกต อินฟินิท จนมีคนหลงเชื่อโอนเงินไปจำนวนมาก ต่อมาวันที่ 22 มี.ค.62 ร้านขอยกเลิกและงดบริการทุกโปรโมชัน เนื่องจากได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามและเกินความคาดหมาย ทำให้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะใช้วัตถุดิบสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ จึงเป็นเหตุให้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดี
    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานประกอบคำรับสารภาพแล้ว พิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคแรก ประกอบมาตรา 341, 83 พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค  พ.ศ.2522 มาตรา 47, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา 91 ฐานเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ, ฐานหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ฐานหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ กับฐานหลอกลวงผู้อื่นโดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน มีอัตราโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเพียงบทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคแรก  ประกอบมาตรา 341, 83 
    จำเลยทั้งสามร่วมกันกระทำความผิด รวม 723 กระทง ให้จำคุกจำเลยที่ 2-3 ทุกกระทง กระทงละ  2 ปี รวมจำคุกคนละ 1,446 ปี ส่วนจำเลยที่ 1 ให้ปรับกระทงละ 5,000 บาท รวมปรับ 3,615,000 บาท  จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งทุกกระทงความผิด ไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 723 ปี แต่เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงความผิดแล้ว คงจำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา 91 (2) จำเลยที่ 1 คงปรับ 1,807,500 บาท หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนเงินจำนวน 2,500,960 บาทแก่เจ้าของ
    ต่อมาภายหลังญาติของนายโจม จำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า  2.1 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราว ส่วนญาติของ น.ส.ประภัสสร จำเลยที่ 3 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นโฉนดที่ดิน มูลค่า 1.8 ล้านบาท และเงินสดอีกจำนวน 130,000 บาท ซึ่งศาลอาญาพิจารณาแล้ว เห็นควรส่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของจำเลยที่ 2-3 ให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวทั้งสองไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"