ศบค.รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 5 ราย ทั้งหมดเดินทางจากซาอุดีอาระเบีย และเข้าสู่สถานกักกันของรัฐจัดให้ ส่วนผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็น 0 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 19 ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกกลับย่ำแย่หนัก บราซิลทุบสถิติป่วย-ตาย ขึ้นอันดับ 2 รองจากอเมริกาแล้ว
    เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2563 เฟซบุ๊กเพจศูนย์ข้อมูล COVID-19  โดยศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์ประจำวันของโรคโควิด-19 ประจำวันที่ 13 มิ.ย. ว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 5 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมรวม 3,134 ราย หายป่วยกลับบ้านรวม 2,987 ราย เสียชีวิตสะสม 58 ราย ยังรักษาตัวใน รพ. 89 ราย 
    โดยผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 5 รายกลับมาจากต่างประเทศคือ ซาอุดีอาระเบีย และเข้าสู่สถานกักกันของรัฐจัดให้ (State Quarantine) เป็นนักเรียน นักศึกษา เพศชายทั้งหมด เดินทางถึงประเทศไทยด้วยเครื่องบินลำเดียวกัน ตรวจหาเจอเชื้อวันที่ 12 มิ.ย. 
    3 รายแรก อายุ 21 ปี, 23 ปี และ 26 ปี มีอาการไข้ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น เข้ารับการรักษาใน รพ. จ.ฉะเชิงเทรา และอีก 2 รายอายุ 24 ปี และ 26 ปี มีอาการไอ น้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น เข้ารับการรักษาใน รพ. จ.สมุทรปราการ    
    ทั้งนี้ การพบผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศเป็น 0 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 19 โดยมีผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศคงที่ 2,444 ราย ส่วนการเจอผู้ป่วยในสถานกักกันของรัฐรวมเป็น 197 ราย    
    ขณะที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 7,732,948 ราย อาการรุนแรง 53,887 ราย รักษาหายแล้ว 3,956,279 ราย เสียชีวิต 428,248 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 2,116,922 ราย 2.บราซิล จำนวน 829,902 ราย 3.รัสเซีย จำนวน 511,423 ราย 4.อินเดีย จำนวน 309,603 ราย 5.สหราชอาณาจักร จำนวน 292,950 ราย สำหรับประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 87 จำนวน 3,134 ราย
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ บราซิลพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ 24,253 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัส 843 ราย ซึ่งจากจำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุด ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในบราซิลอยู่ที่เกือบ 42,000 ราย แซงหน้าสหราชอาณาจักรขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ในฐานะประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก ตามหลังประเทศสหรัฐอเมริกาที่มียอดผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 110,000 ราย
         ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่แถบอเมริกาใต้ยังคงน่าเป็นห่วง และมียอดผู้ป่วยสะสมในพื้นที่รวมกันอย่างน้อย 1,500,000 ราย 
    ประเทศที่มีผู้ป่วยสะสมมากที่สุดคือ ประเทศบราซิล ที่มียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 800,000 ราย และเปรูที่มียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 200,000 ราย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้คาดเดาว่าตัวเลขผู้ป่วยจริงน่าจะสูงกว่านี้ เนื่องจากยังมีประชาชนในพื้นที่ลาตินอเมริกาจำนวนมากที่ไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อ
    ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังผู้ป่วยใหม่ลดลงเป็นศูนย์ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าโรคระบาดใหญ่ยังคงไม่สิ้นสุดง่ายๆ ในขณะที่ภาครัฐเริ่มผ่อนปรนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมแล้ว
     นิวเซาท์เวลส์ซึ่งเป็นรัฐใหญ่สุดของออสเตรเลียมีรายงานผู้ป่วยโควิด-19 ใหม่ถึง 4 รายในชั่วข้ามคืน ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมในแดนจิงโจ้พุ่งเฉียด 7,300 คน สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในท้องถิ่นเป็นชายวัย 20 ปีเศษ ซึ่งหน่วยงานสาธารณสุขยืนยันว่า เขาไม่เคยไปเข้าร่วมการชุมนุมประท้วง ‘Black Lives Matter’ ที่นครซิดนีย์
     นายแพทย์เตโวโดรส อัดฮาโนม ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่จะมีการผลิตในอนาคต ควรถือเป็นสินค้าสาธารณะระดับโลก ที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ เพื่อรับประกันว่าทุกคนจะได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง เนื่องจากกังวลว่าบางประเทศเช่นสหรัฐอาจกักตุนวัคซีนหรือยาต้านไวรัสโควิด-19 ที่ผลิตได้ เพื่อนำไปต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ในประเทศ จนทำให้ประเทศที่ยากจนไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนและยาดังกล่าว.