'วัส'โผล่ฟันธง สนช.หมดสิทธิ์ 'องค์กรอิสระ'


เพิ่มเพื่อน    

    ประธาน กสม.เขย่าคุณสมบัติต้องห้ามอดีต สนช. นั่งเก้าอี้ในกรรมการอิสระ ชี้ประธานวุฒิสภาต้องรอข้อยุติสรรหา กสม.ก่อนนำชื่อว่าที่ ป.ป.ช.ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ขณะที่โฆษก ป.ป.ช.ปัดชี้มูลเสียบบัตรแทน 2 ส.ส.
    เมื่อวันอาทิตย์ กรณีที่คณะกรรมการสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (กรรมการ ป.ป.ช.) มีมติเลือกบุคคลที่เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในระยะ 10 ปี ก่อนเข้ารับการสรรหา และวุฒิสภาได้ให้ความเห็นชอบไปแล้วนั้น ล่าสุด นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวผ่านสถานีวิทยุแห่งจุฬาฯ ในรายการสำนึกของสังคม ระบุใจความช่วงหนึ่งว่า ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ 2560 การสรรหาและแต่งตั้งบุคคลมาเป็น ส.ว. จำนวน 196 คน มีลักษณะต้องห้ามประการหนึ่งที่ยกเว้นไว้ว่าไม่ให้นำมาใช้บังคับคือ คนที่เป็นรัฐมนตรีมาก่อนสามารถได้รับการสรรหาและแต่งตั้งให้เป็น ส.ว. ได้โดยไม่ต้องเว้นวรรค 5 ปี (มาตรา 369 (2))
    นายวัสกล่าวต่อว่า แต่คนที่เป็นสมาชิก สนช. ในฐานะ ส.ส.มาก่อน รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้บัญญัติให้แต่งตั้งได้โดยไม่ต้องเว้นวรรคดังกรณีที่รัฐมนตรีมาเป็น ส.ว. ดังนั้นสมาชิก สนช. ในฐานะ ส.ส. จึงน่าจะไม่สามารถได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ส.ว. โดยยังเว้นวรรคไม่ถึง 5 ปี   
    “ในส่วนของกรรมการ ป.ป.ช.นั้น มีลักษณะต้องห้ามอยู่ 24 ข้อ ข้อที่เป็นปัญหาคือ เป็นหรือเคยเป็น ส.ส.หรือ ส.ว. ในระยะ 10 ปี ก่อนเข้ารับการสรรหา (พ.ร.ป. ป.ป.ช. 2561 มาตรา 11 (18)) อดีตสมาชิก สนช. ในระบบสภาเดียว ย่อมมีสถานะเป็นทั้ง ส.ส.และ ส.ว. จึงมีลักษณะต้องห้ามในการเป็นกรรมการ ป.ป.ช. หากเว้นวรรคไม่เกิน 10 ปี” ประธาน กสม.กล่าว
     ประธาน กสม.กล่าวอีกว่า ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญขององค์กรอิสระทุกองค์กร ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครหรือผู้ได้รับการสรรหา เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสรรหาเป็นผู้วินิจฉัย แม้กฎหมายจะบัญญัติต่อไปว่า คำวินิจฉัยของคณะกรรมการสรรหาให้เป็นที่สุด ก็ไม่ตัดอำนาจขององค์กรตุลาการที่จะเข้ามาตรวจความถูกต้อง องค์กรตุลาการดังกล่าวคือศาลปกครอง เพราะกรรมการสรรหาเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และคณะกรรมการสรรหาถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมายจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ผู้เดือดร้อนหรือเสียหายมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองให้เพิกถอนคำสั่งหรือมติที่คณะกรรมการสรรหาเลือกอดีตสมาชิก สนช. มาเป็นกรรมการในองค์กรอิสระได้ภายใน 90 วัน   
    "ในกรณีที่วุฒิสภาให้ความเห็นชอบอดีตสมาชิก สนช. เป็นกรรมการ ป.ป.ช.  และพ้นกำหนดเวลา 90 วันไปแล้ว ประธานวุฒิสภาควรรอข้อยุติจากการสรรหา กสม. อีก 3 คน ที่ยังดำเนินการอยู่ ก่อนนำความขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ส่วนกรณีการสรรหา กสม.อีก 3 คนที่กำลังดำเนินการอยู่นั้น หากคณะกรรมการสรรหาประกาศรายชื่อผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามแล้ว ผู้ที่ถูกตัดรายชื่อออกไปเพราะขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม สามารถนำคดีไปฟ้องต่อศาลปกครองกลางภายใน 90 วัน เพื่อขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการสรรหา" ประธาน กสม.ระบุ 
    ประธาน กสม.ระบุด้วยว่า เมื่อมีการฟ้องคดีดังกล่าว กระบวนการสรรหาของคณะกรรมการสรรหาและการพิจารณาให้ความเห็นชอบของวุฒิสภายังคงเดินหน้าต่อไป เพราะกฎหมายบัญญัติว่า ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการสรรหา และมิให้นำบทบัญญัติว่าด้วยมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองมาใช้บังคับ (พ.ร.ป.กสม. 2560 มาตรา 18)” 
    วันเดียวกัน นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ข่าวล่ามาเร็ว....มี ส.ส. 2 คน ถูกชี้มูลคดีอาญา ม.157 เรื่องกดบัตรแทนกัน จบข่าว!!” ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณา เพื่อเสนอตั้งคณะกรรมการไต่สวนเต็มองค์คณะ หรือตั้งคณะกรรมการไต่สวน ตอนนี้ยังไม่ไปถึงขั้นตอนดังกล่าว ดังนั้น เรื่องนี้จึงยังไม่มีการชี้มูลความผิดแต่อย่างใด ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะได้แถลงข่าวให้ทราบ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนพอสมควร
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่มีการยื่นนั้นคือกรณีกล่าวหา 3 ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้แก่ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง,  นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ และ 1 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ คือ น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ เสียบบัตรลงคะแนนแทนกันในพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 
    ด้านนายนิพิฏฐ์กล่าวสั้นๆ กับผู้สื่อข่าวที่ได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริงว่า ขอไม่เปิดเผยรายชื่อ และให้ไปตามเรื่องจาก ป.ป.ช. ซึ่งคดีเสียบบัตรแทนกัน ผลคดีมีให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"