หม่อมเต่าทิ้งกำนัน ไขก๊อกพ้นหัวหน้ารปช./'เอนก-วรงค์'เต็งเสียบแทน


เพิ่มเพื่อน    

    พปชร.ระอุหวิดบานปลาย "สิระ" ชง กก.บห.ชุดใหม่ต้องไม่เกี่ยวพันยาเสพติด "ไผ่ ลิกค์"  สวนทันควัน "บ้ารึเปล่า" สะพัด "บิ๊กป้อม" นอนมาขึ้นหัวหน้าพรรคคนใหม่ไร้คู่แข่ง "สันติ-อนุชา" ชิงดำเลขาธิการ "จุรินทร์" ไม่ติดใจ 6 ส.ส.ดอดกินข้าวกับ "พีระพันธุ์" ขณะที่ "รปช." ป่วน "หม่อมเต่า" ไขก๊อกพ้นหัวหน้า 5 ส.ส.-สมาชิกพรรคมึนตึ้บ คาด "เอนก-หมอวรงค์" เต็งหัวหน้าคนใหม่
    เมื่อวันอังคารที่ผ่านมายังมีความเคลื่อนไหวในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารพรรคอย่างต่อเนื่อง โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. กล่าวถึงในวันที่ 19 มิ.ย.ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค พปชร.ชุดรักษาการเพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญเพื่อเลือก กก.บห.ชุดใหม่ว่า ตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคจะไปทำไม และไม่ต้องไปสังเกตการณ์หรอก เขาเรียบร้อยดี
    เมื่อถามว่าซ้อมรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ยังไม่รู้เลย จะไปรู้ได้ยังไง ก็ต้องแล้วแต่สมาชิกพรรคเขา" เมื่อถามว่าสมาชิกพรรคส่วนใหญ่ออกมาให้สัมภาษณ์สนับสนุน พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "คนที่ไม่ให้สัมภาษณ์ก็ไม่สนับสนุนไง" 
    ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงานและรักษาการเลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวตอบคำถามกรณีจะสนับสนุน พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่หรือไม่ว่า แล้วแต่ที่ประชุม ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมและหัวหน้าคนใหม่เหมือนกัน รวมทั้งเรื่องสัดส่วน กก.บห.ก็เป็นเรื่องต้องหารือกันอีกเช่นกัน เมื่อถามว่ามีการวางตัว กก.บห.ไว้แล้วหรือไม่ นายสนธิรัตน์ตอบกลับว่า  "เนี่ย ชอบคาดเดากันไปล่วงหน้า"
    เมื่อถามว่ารู้สึกถอดใจจากการเมือง หรือจะมีการไปตั้งกลุ่มใหม่หรือไม่หากไม่ได้เป็น กก.บห.แล้ว  นายสนธิรัตน์ตอบว่าอย่าเพิ่งคาดเดาหรือคิดไปล่วงหน้า "ขอให้เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ" ส่วนประเด็นที่มีการล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนตนออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ตนยังไม่ได้คุยกับใคร และไม่ได้คุยว่าจะมีชื่อตนเองอยู่ใน กก.บห.ชุดใหม่ด้วยหรือไม่ ส่วนจะส่งผลต่อการปรับ ครม.หรือไม่ เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และอย่าเพิ่งไปคาดเดาล่วงหน้า
    ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐ อาคารวัน รัชดา ถ.รัชดาภิเษก มีการประชุม ส.ส.ของพรรคประจำสัปดาห์ โดยมีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล, นายอนุชา นาคาศัย รองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค และนายสุชาติ ชมกลิ่น นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุม ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะรักษาเลขาธิการพรรค ยังคงไม่เข้าร่วมประชุม
    โดยในที่ประชุมนายไพบูลย์ได้แจ้งว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการจะเตรียมจัดประชุมในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ เวลา 10.00 น. ณ ที่ทำการพรรคเดิม จากนั้นการประชุมได้เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อยระหว่างที่รอสื่อมวลชนเก็บบรรยากาศการประชุม ก่อนเข้าวาระที่ 3 ซึ่งนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม.ได้ลุกขึ้นหารือ โดยเสนอว่าให้คณะกรรมการบริหารชุดรักษาการต้องพิจารณาเพิ่มคุณสมบัติผู้ที่จะเป็น กก.บห.พรรคชุดใหม่ โดยอย่าให้ผู้ที่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเข้ามาดำรงตำแหน่ง     
    ทำให้นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ตะโกนสวนทันทีด้วยความไม่พอใจว่า "บ้ารึเปล่า!" ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน ก่อนที่นายไพบูลย์จะรีบตัดบทระบุว่า สิ่งที่นายสิระเสนอนั้นไม่ได้อยู่ในวาระการประชุม ก่อนที่จะเชิญสื่อออกนอกห้อง
ป้อมนอนมาหัวหน้า พปชร.
    ขณะที่นายไพบูลย์กล่าวถึงการประชุม กก.บห.พรรคชุดรักษาการวันที่ 19 มิ.ย.นี้ว่า จะมีการรายงานที่ประชุมว่ามี กก.บห.ลาออก และจะเสนอที่ประชุมให้รับรององค์ประชุม กก.บห.ชุดรักษาการ จำนวน 34 คน นอกจากนั้นจะพิจารณาดำเนินการเพื่อเลือก กก.บห.ชุดใหม่ โดยเบื้องต้นกำหนดไว้วันที่ 3 ก.ค. โดยการประชุมในวันดังกล่าวองค์ประชุมต้องไม่น้อยกว่า 250 คนตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ สมาชิกที่เป็น กก.บห.กึ่งหนึ่งเท่าที่มีอยู่ สมาชิกจากสาขาพรรคกึ่งหนึ่ง และสมาชิกพรรคประจำจังหวัด ซึ่งสมาชิกพรรคไม่ว่าจะมีสถานะอย่างไรก็ตามทุกคนมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากัน โดยเบื้องต้นมีรายชื่อทั้งหมดแล้ว คงจะไม่เกิดการขนคนมาร่วมโหวตเนื่องจากอยู่ในช่วงโควิด-19 ที่ต้องมีมาตรการเว้นระยะห่าง   
    นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ รักษาการนายทะเบียนสมาชิกพรรค กล่าวว่า ในการประชุมวันที่ 19 มิ.ย.นี้ รักษาการ กก.บห.จะเข้าประชุมในวันดังกล่าวด้วย เมื่อถามว่าหากมีการเสนอชื่อให้มาเป็น กก.บห.ชุดใหม่จะตัดสินใจอย่างไร นายวิเชียรกล่าวว่า "ไม่เป็นแล้ว ขอทำหน้าที่ ส.ส."
    รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมวันที่ 19 มิ.ย.ที่ประชุมจะพิจารณาวาระแก้ไขข้อบังคับพรรคใหม่  ก่อนจะนำไปสู่การประชุมใหญ่ในวันที่ 3 ก.ค. ทั้งนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าจะมีการเสนอรายชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรค เป็นหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียว ขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค ล่าสุดแคนดิเดตยังมี 2 คนตามเดิม คือ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง แกนนำกลุ่มเพชรบูรณ์ ที่ในช่วงหลังมีความใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร  
    นอกจากนี้ยังมี ส.ส.ในพรรคจำนวนหนึ่งให้การสนับสนุน อาทิ กลุ่มนายวิรัช รัตนเศรษฐ, นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ประธาน ส.ส. ส่วนนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท รองหัวหน้าพรรค แกนนำกลุ่มสามมิตร ที่ช่วงหลังก็มีความสนิทสนมเป็นเหมือนมือขวาตั้งแต่ พล.อ.ประวิตรก้าวเข้ามาเป็นประธานยุทธศาสตร์ โดยนายอนุชาเป็นรองประธานยุทธศาสตร์ ซึ่งทั้งคู่ยังมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่า พล.อ.ประวิตรจะตัดสินใจเลือกใคร ด้วยเหตุผลใด และเข้ามาทำภารกิจใด
    ต่อมานายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่ประชุม ส.ส.พรรคระหว่างตนกับนายสิระนั้น การที่ตนต้องทักท้วงเนื่องจากเห็นว่าขณะนั้นที่ประชุม ส.ส.พรรค กำลังเข้าสู่การซักซ้อมเพื่อเตรียมข้อมูลและความพร้อมในการประชุมสภา ที่จะมีการอภิปรายร่าง พ.ร.บ. โอนงบประมาณรายจ่ายในวันที่ 17 มิ.ย. แต่จู่ๆ นายสิระกลับพูดเรื่องนี้ขึ้นมากลางที่ประชุม นอกวาระการประชุม ทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคเสียหาย เพราะพรรคพลังประชารัฐไม่ได้สนับสนุนให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่แล้ว ตนไม่ทราบเจตนาของนายสิระ
    วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมสนามกอลฟ์ ฮูลา ฮูลา อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ดร.แสงชัย วสุนธรา ประธานกลุ่มพรรคพลังประชารัฐภาคใต้ ได้เป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐภาคใต้ (ส.ส.สอบตกที่ผ่านมา) ทั้งหมดรวม 45 คน เพื่อประชุมปรึกษาหารือเรื่องการทำกิจกรรมลงพื้นที่ ในการติดตามประชาชนที่รัฐมอบเงินผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 ทั่วถึงหรือไม่ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลรายงานให้แก่พรรค และได้เล่าเรื่องราวข้อเท็จจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในพรรค 
    นอกจากนั้นให้ผู้ร่วมประชุมได้ระดมเสนอความคิดเห็นต่างๆ จากนั้นที่ประชุมได้สรุป แสดงจุดยืนของกลุ่มพรรคพลังประชารัฐภาคใต้ว่า ปัญหาภายในพรรคก็แก้ปัญหาในพรรค จะไม่ขอความคิดเห็นหรือเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่กลุ่มพรรคพลังประชารัฐภาคใต้ขอสนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คงเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งให้กำลังใจและปฏิบัติหน้าที่ มีสมาธิจัดการปัญหาประเทศชาติ ที่ประชาชนชื่นชอบและไว้ใจมากที่สุด ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
    วันเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นประธานที่ประชุม ขณะที่ ส.ส.พรรคต่างๆ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ไม่ติดใจ 6 สส.กินข้าวกับพีระพันธุ์
    ก่อนเข้าร่วมการประชุม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป.เปิดเผยว่า เป็นการประชุมส.ส.ตามปกติเพื่อพิจารณาวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฏร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17 มิ.ย. ส่วนการนัดผู้ช่วยรัฐมนตรี ผู้ช่วย ที่ปรึกษา เลขานุการรัฐมนตรี ก็เพื่อให้ทุกคนตระหนักในภารกิจ นอกจากดูแลงานในกระทรวงแล้วจะต้องดูแลเรื่องต่างๆ ที่ประชาชนฝากผ่าน ส.ส.มาให้บรรลุผลในภาระหน้าที่ในกระทรวงนั้นๆ ส่วนการรับฟังความเห็น ส.ส.ในพรรคมีการแลกเปลี่ยนกันเป็นระยะอยู่แล้ว แต่วันนี้ต้องการให้ทุกคนได้ตระหนักในภารกิจมากขึ้น ใครที่ทำครบถ้วนสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องดี ส่วนใครที่ขาดตกบกพร่องก็ปรับปรุงเพื่อความเข้มข้นในการทำงานต่อไป
    ส่วนความขัดแย้งภายในพรรค โดยเฉพาะกรณีมี ส.ส.ไปรับประทานอาหารกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและอดีต ส.ส.พรรค ปชป.นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่าคงไม่สอบถามอะไร  ใครจะไปพูดคุยอะไรกับใครไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้ และตนเองไม่มีอะไรติดใจเพราะ ส.ส.ก็มีเพื่อนข้ามพรรคได้ ทุกคนมีสิทธิ์พบปะหารือทานข้าวด้วยกันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีอะไรที่จะคิดว่าเป็นประเด็นขึ้นมาโดยไม่จำเป็น 
    ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวล่ารายชื่อ กก.บห.พรรคเกินครึ่ง เพื่อเปิดทางให้เลือกหัวหน้าพรรคและกก.บห.ชุดใหม่ เช่นเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ นายจุรินทร์กล่าวว่าเป็นคนละพรรคกัน จะใช้โมเดลเดียวกันคงไม่ได้ แต่ละพรรคมีที่มาที่ไป มีฐานราก มีความแตกต่างกัน พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้แปลว่าถ้าพรรคหนึ่งมีปรากฏการณ์อย่างหนึ่ง พรรคเราจะต้องเป็นอย่างนั้นด้วย เป็นเพียงกระแสข่าว โดยข้อเท็จจริงยังไม่มีอะไรเป็นไปตามนั้น และการแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างเลขาธิการพรรค รองหัวหน้าพรรคกับสมาชิกพรรคก็ดำเนินการอยู่ เพียงแต่ว่าอาจจะขาดเกินบ้างแล้วแต่กรณี เพราะ 2-3 เดือนมานี้ก็เป็นช่วงปิดสมัยประชุม และเป็นช่วงโควิด-19 ด้วย แต่พอเปิดสมัยประชุมสภาก็คงจะเจอกันมากขึ้น
    นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า ระยะเวลาที่ผ่านมาก็ได้เดินสายพบปะสมาชิกสม่ำเสมอต่อเนื่อง และยินดีที่จะพบปะทุกคนเสมอไม่ได้มีปัญหาอะไร ทั้งนี้พรรคจะมีการนัดประชุม กก.บห.ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ และจะกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญตามกฎหมาย ซึ่งเคยกำหนดวันไปแล้วแต่ต้องเลื่อนเพราะสถานการณ์โควิด-19 แต่หากเป็นไปได้และ กกต.อนุญาตการประชุมใหญ่สามัญก็ควรจะเกิดขึ้นไปภายในเดือน ก.ค.  และในวันที่ 6 ก.ค.จะนัดประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนงานขับเคลื่อนพรรค ในที่ประชุมสมาชิกสามารถแสดงความเห็นได้ ไม่มีครั้งไหนที่ไม่สามารถแสดงความเห็นได้ เพราะทุกคนมีสิทธิ์แสดงความเห็น
    ด้านนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ปฏิเสธกระแสข่าวล่ารายชื่อให้เปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ยังอยากให้มีการประชุมใหญ่เพื่อรับฟังความเห็นของสมาชิก ซึ่งได้มีการเสนอและสอบถามไปหลายครั้งแล้ว แต่เชื่อว่าน่าจะได้รับคำตอบเดิมว่ายังติดสถานการณ์โควิด-19 แต่วันนี้ก็จะถามในที่ประชุมอีกครั้ง
ปชป.เซ็ง รมต.ไม่ทำแต้ม
    ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ว่า ผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้กล่าวเตือน ส.ส.พรรคว่าอย่าให้ความสนิทสนมกับสื่อมวลชนให้มาก และอย่านำเรื่องภายในของพรรคแพร่งพรายออกไป เพราะจะสร้างความเสียหายให้พรรค  
    จากนั้นได้เปิดโอกาสให้สมาชิกเปิดใจในช่วงวิกฤติโควิด โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง  ได้วิเคราะห์สถานการณ์ทั้งก่อนและหลังโควิดระบาดว่า ในช่วงโควิดระบาดส่งผลกระทบต่อประชาชนจากมาตรการต่างๆ ของรัฐที่ต้องการยับยั้งการแพร่ระบาด น่าเสียดายที่รัฐมนตรีของพรรคที่มีบทบาทสามารถช่วยเหลือ ส.ส.สมาชิกพรรคในการทำคะแนนกับชาวบ้านได้ อย่าง รมว.พาณิชย์ และ รมช.สาธารณสุข ไม่ได้มีบทบาทช่วยเหลือ ส.ส.ของพรรคเท่าที่ควร ทำให้ ส.ส.ต้องช่วยตัวเองโดยสละเงินเดือนทำถุงยังชีพ จัดซื้อเจลแอลกอฮอล์มาแจกจ่ายประชาชนและเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่   
    "ที่สำคัญพรรคไม่มีกระบอกเสียงหรือสื่ออยู่ในมือ ขณะที่พรรคอื่นเช่นพรรคพลังประชารัฐ ทำอะไรก็มีสื่อประชาสัมพันธ์ให้ แม้กระทั่งโครงการเยียวยาให้เกษตรกรของกระทรวงเกษตรฯ ก็ยังถูกนายอุตตม  สาวนายน รมว.การคลัง ลงพื้นที่จังหวัดนครปฐมไปเก็บเกี่ยวคะแนนแทน ทำให้สังคมเข้าใจว่าเป็นโครงการของพรรคพลังประชารัฐ" แหล่งข่าวอ้างคำพูดนายสาทิตย์ 
    ส.ส.ภาคเหนือคนหนึ่งกล่าวเสริมว่า พรรคไม่มีการต่อยอดประชาสัมพันธ์เพื่อเก็บเกี่ยวคะแนนนิยมในนโยบายของพรรคเลย และการที่หลายคนระบุว่ารัฐมนตรีของพรรคมีผลงาน แต่ในส่วนของจังหวัดตาก กระแสของพรรคในพื้นที่ไม่ได้กระเตื้องขึ้นเลย ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าเป็นนโยบายของประชาธิปัตย์ แต่เข้าใจว่าเป็นนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 
    ขณะที่ ส.ส.ใต้อีกคนวิเคราะห์ว่า คะแนนนิยมของพรรคพลังประชารัฐที่จริงแล้วไม่มี มีแต่คะแนนส่วนใหญ่อยู่ที่ตัวผู้นำ พล.อ.ประยุทธ์ ในอนาคตหาก พล.อ.ประยุทธ์อยู่พรรคใด ฐานคะแนนนิยมก็จะย้ายตามไป และขอให้จับตาดูกรณีเงินเยียวยาของรัฐบาลเดือนละ 5,000 บาท 3 เดือน ว่าจะมีการขยายระยะเวลาให้เงินจำนวนดังกล่าวเพิ่มอีก 3 เดือนต่อคนอีกหรือไม่ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เคยพูดเหมือนโยนหินถามทางมาก่อนหน้านี้แล้ว หากเปรียบไปแล้วก็เป็นเหมือนการซื้อเสียงครั้งหน้าเพื่อรองรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่
หม่อมเต่าลาออก หน.รปช.    
    ช่วงค่ำวันเดียวกัน มีความเคลื่อนไหวจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ว่า ล่าสุด ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและหัวหน้าพรรค รปช.ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและตำแหน่งหัวหน้าพรรคในวันนี้อย่างกะทันหัน แต่ไม่กระทบต่อการทำงานตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแต่อย่างใด 
    มีรายงานว่า การลาออกครั้งนี้ทั้งสมาชิกพรรคที่เป็น ส.ส.และไม่ได้เป็น ส.ส.ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแกนนำในกลุ่ม กปปส. ต่างไม่มีใครทราบสาเหตุของการลาออกในครั้งนี้และแสดงความตกใจ โดยเฉพาะ ส.ส.ของพรรค รปช.ทั้ง 5 คนได้มีการเรียกประชุม ส.สและคณะ กก.บห.เป็นการด่วน ซึ่งในที่ประชุมต่างยืนยันว่าไม่ทราบสาเหตุของการลาออกจากพรรคและตำแหน่งหัวหน้าพรรค และเพื่อเป็นการให้พรรคสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ที่ประชุมจึงมีมติให้นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นนักกฎหมายคนสนิทนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย  ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรค รปช.ไปก่อน 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคส่งผลกระทบทำให้คณะกรรมการบริหารพรรค รปช.ทั้งคณะต้องพ้นจากวาระการดำรงตำแหน่งตามกฎหมายพรรคการเมือง โดย กก.บห.ชุดปัจจุบันทั้งคณะต้องทำหน้าที่รักษาการไปพลางๆ ก่อน โดยที่ประชุมพรรคมีมติให้จัดการประชุมใหญ่สามัญในวันที่ 5 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
    คนใกล้ชิดของ ม.ร.ว.จัตุมงคลบอกว่า ตนไม่ทราบสาเหตุของการลาออกกะทันหันนี้เช่นกัน ส่วนการลาออกครั้งนี้เป็นเพราะทราบว่าพรรคจะถูกยึดโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ ตนคิดว่าไม่ใช่ เพราะพรรคที่น่าเป็นห่วงคือพรรคชาติพัฒนาที่มี ส.ส.เพียงแค่ 3 เสียง แต่พรรค รปช.มี 5 เสียง อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องนำพรรคเศรษฐกิจใหม่มาเกลี่ยเก้าอี้ใหม่อีกด้วย
    แหล่งข่าวเผยว่า หัวหน้าพรรค รปช.คนใหม่ที่จะมาแทน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล คาดว่าน่าจะเป็น นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ซึ่งปัจจุบันดำรงแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) อีกกระแสก็มองว่านายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ กรรมการบริหารพรรค มีความเหมาะสมเช่นกัน.
    เวลา 19.00 น. ม.ล.มิ่งมงคล โสณกุล หรือ "หม่อมเต่านา" บุตรสาว ม.ร.ว.จัตุมงคล ได้โพสต์รูปภาพขณะนั่งรับประทานข้าวกับบิดา พร้อมข้อความระบุว่า "มาเลี้ยงข้าวพ่อ..เนื่องจากท่านลาออกจากหัวหน้าพรรค รปช...ขอส่งกำลังใจให้ท่านนายกฯ ในการปรับ ครม.ค่ะ....รบกวนอย่าเพิ่งโทรหาเรากับพ่อสัก 3 ชม.นะคะ..ทานข้าวเย็นกันอยู่ ขอบพระคุณค่ะ".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"