'บีโอไอ'เคาะ5โปรเจ็กต์ 4.1หมื่นล้านกระตุ้นศก.


เพิ่มเพื่อน    


    "บิ๊กตู่" นั่งหัวโต๊ะบอร์ดบีโอไอไฟเขียว 5 โครงการลงทุน 4.1 หมื่นล้านบาท "รถยนต์ไฟฟ้า-โรงไฟฟ้า-พลาสติก" เพิ่มสิทธิประโยชน์อุตสาหกรรมบีซีจีต่อยอดภาคเกษตร ดันเศรษฐกิจฐานราก 
    เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่าที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบให้การส่งเสริมการลงทุนแก่โครงการขนาดใหญ่จำนวน 5 โครงการ รวมมูลค่าลงทุน 41,834 ล้านบาท ได้แก่ 1.กลุ่มบริษัทสามมิตร  เงินลงทุน 5,500 ล้านบาท ในกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ปีละประมาณ 30,000 คัน ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นมูลค่าปีละประมาณ 8,500 ล้านบาท โดยจะจำหน่ายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ตั้งโครงการที่จังหวัดเพชรบุรี
       2.บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เงินลงทุนรวม 24,113 ล้านบาท ในกิจการผลิตไฟฟ้าจากกากน้ำมัน 250 เมกะวัตต์ และกรดกำมะถัน ปีละประมาณ 80,300 ตัน 3.บริษัท เอ็นวิคโค จำกัด  กิจการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลชนิด PET สำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มและอาหาร และเม็ดพลาสติกรีไซเคิลชนิด HDPE สำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์สิ่งประทินร่างกายและสินค้าอุปโภคในครัวเรือน  มูลค่าเงินลงทุน 2,476 ล้านบาท
     4.บริษัท บี.กริม พาวเวอร์ (แหลมฉบัง) 1 จำกัด เงินลงทุน 6,000 ล้านบาท กิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติและไอน้ำ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ 157 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 75 ตัน/ชั่วโมง เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่าผลิตแห่งประเทศไทย และ 5.บริษัท บางกอก อารีน่า  จำกัด เงินลงทุน 3,745 ล้านบาท ในกิจการหอประชุมขนาดใหญ่ เพื่อช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยว
     นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการปรับสิทธิประโยชน์และเงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมเกษตรตามแนวคิดบีซีจี เพื่อนำความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้อุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งเป็นรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานราก ควบคู่กับการพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศ โดยได้ปรับปรุงประเภทกิจการ เงื่อนไข และสิทธิประโยชน์ ดังนี้ 1.เพิ่มประเภทกิจการด้านการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ได้แก่ กิจการโรงงานผลิตพืช จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 5  ปี
    2.ปรับปรุงขอบข่าย เงื่อนไข และสิทธิประโยชน์ของบางประเภทกิจการ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และให้มีความยืดหยุ่นในการให้การส่งเสริมการลงทุนมากขึ้น ได้แก่ กิจการคัดคุณภาพ บรรจุ และเก็บรักษาพืช ผัก ผลไม้ หรือดอกไม้ กิจการห้องเย็นและขนส่งห้องเย็น กิจการผลิตผลิตภัณฑ์จากผลพลอยได้หรือเศษวัสดุทางการเกษตร หรือผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบที่มาจากผลพลอยได้หรือเศษวัสดุหรือของเสียจากการเกษตร กิจการผลิตอาหารสัตว์/ส่วนผสมอาหารสัตว์ โดยกระตุ้นให้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในกิจการ รวมทั้งมีการรักษาสิ่งแวดล้อม
    เลขาธิการบีโอไอกล่าวว่า สถานการณ์การลงทุนในช่วงที่ผ่านมาเป็นสถานการณ์ไม่ปกติเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่บริษัทต่างๆ ทั่วโลกกำลังปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางด้านห่วงโซ่อุปทาน เพราะคาดว่าจะมีการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน รวมถึงปัจจัยเสี่ยงเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และสงครามการค้าโลก ดังนั้นทุกประเทศจึงยังเป็นเป้าหมายของบีโอไอที่จะดึงดูดให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย อย่างไรก็ตามปีนี้คงไม่ได้ตั้งเป้าหมายการขอรับการส่งเสริมการลงทุน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"