'หมอเลี้ยบ' ได้บทเรียนจากไทยรักไทย ลั่น 'กลุ่มแคร์' ต้องเปิดพื้นที่ความคิดใหม่ๆมองไกลไปข้างหน้า


เพิ่มเพื่อน    

19 มิ.ย.63 - นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี สมาชิกกลุ่มแคร์ ให้สัมภาษณ์ถึงการขับเคลื่อนกลุ่มแคร์ หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าการทำงานของกลุ่มแคร์ ไม่ใช่ลักษณะการทำงานแบบพรรคการเมือง การทำงานจะเน้นเรื่องประชาสังคมที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวภาคประชาสังคม แต่การขับเคลื่อนสังคมที่ผ่านมา จะเน้นประเด็นเฉพาะเรื่อง มองว่าจุดอ่อนการทำงานแบบเดิมคือไม่สามารถเห็นภาพรวม ทำให้ข้อเสนอต่างๆไม่รอบด้าน และเมื่อคิดแล้วนำเสนอจบแค่นั้น แต่การทำงานของกลุ่มแคร์จะคิดในองค์รวมเพราะมองว่าคิดเฉพาะเรื่องไม่น่าจะพอ เราจึงคิดคำ “คิด เคลื่อน ไทย” ขึ้นมา โดยไม่จำกัดแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่คิดทุกเรื่องที่เป็นองค์ประกอบของสังคม ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การกระจายอำนาจ การลดความเหลื่อมล้ำ เมื่อถึงเวลาเคลื่อน จะไม่ใช่แค่คิดแล้วเสนอแต่ต้องขับเคลื่อน อะไรสามารถมีกิจกรรมนำไปสู่การแก้ปัญหา โดยใช้เครือข่ายมาเชื่อมโยงการขับเคลื่อนเกื้อหนุนการทำงานกันในลักษณะเครือข่ายไม่มีลำดับชั้นทุกคนต้องมาฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ส่วนคำว่าไทย คือต้องครอบคลุมเครือข่ายทั้งประเทศ เช่นเครือข่ายในกทม.จะคิดว่าทำอย่างไรให้กทม.หน้าอยู่ เมื่อมีเรื่องเกษตรเข้ามาก็จะนำเครือข่ายเกษตรมาประสานจะทำอย่างไรให้กทม.เป็นตลาดที่ดี เป็นต้นโดยเน้นย้ำให้เป็นช่องทางที่เกื้อหนุนกัน

เมื่อถามว่า การไม่ทำงานแบบพรรคการเมืองเป็นอย่างไร นายสุรพงษ์ ตอบว่า พรรคการเมืองจะมีแกนนำพรรค มีลักษณะลำดับชั้น คนตัดสินใจจะเป็นแกนนำพรรค แต่แคร์เราไม่มีกรรมการแคร์ สมาชิกเริ่มต้นเป็นลักษณะผู้ประสานงาน และเราบอกตัวเองว่าเราไม่ใช่พรรคการเมือง ไม่ได้บอกทุกคนที่อยู่ในแคร์ห้ามการเมืองไม่ใช่ คนเป็นนักการเมืองก็มาอยู่ในแคร์ได้ ใครที่อยากให้ประเทศพ้นวิกฤติ เอาความเชี่ยวชาญของตัวเองมาเชื่อมต่อกับคนอื่นแล้วใช้เครือข่ายนี้ขับเคลื่อนเรื่องต่างๆในพื้นที่ต่างๆ โดยไม่มีข้อจำกัดต้องขออนุมัติจากใคร เราไม่ได้บอกว่าไม่เกี่ยวข้องการเมือง ใครเป็นนักการเมืองจะนำความคิดไปช่วยผลักดันต่อ ในสภาฯหรือประสานกระทรวงต่างก็จะทำให้งานต่างๆบรรลุผลได้

เมื่อถามว่าต่อไปกลุ่มแคร์จะกลายเป็นพรรคการเมืองหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ตอบว่า เป็นสิ่งที่ตนต้องการทำให้เกิดความชัดเจน ตอนที่ทำพรรคไทยรักไทย ช่วงคิดคิดทำนโยบายมีความคิดต่างๆมากมาย แต่พอเป็นรัฐบาลทุกคนภารกิจรัดตัว ทำให้ไม่ได้มานั่งคิดเรื่องใหม่ๆเป็นจุดอ่อนไม่สามารถมีความคิดใหม่ๆที่มองไปข้างหน้า ฉันใดฉันนั้น ถ้าหากจะมีคนบางคนในแคร์จะผลักดันสร้างพรรคก็เป็นเรื่องของเขา เราต้องการองค์กรที่เป็นพื้นที่ความคิดใหม่ๆที่มองไกลไปข้างหน้า เป็นความคิดที่หลากหลายรู้จริงแต่ละเรื่องมองทุกอย่าง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรกลุ่มแคร์ก็จะยังคงอยู่ และถ้าพรรคการเมืองใดเห็นประโยชน์ก็สามารถนำความคิดของกลุ่มแคร์ไปใช่ได้

นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะสมาชิกเริ่มต้นกลุ่มแคร์ กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวไปแล้วทุกคนก็ทราบว่ากลุ่มแคร์จะทำอะไร จุดประสงค์เป็นอย่างไร เราคือภาคประชาสังคมเป็นเครือข่ายที่ดึงคนทุกส่วน เข้ามาทำงานร่วมกันผู้ประสานงานกลุ่มจากที่เดิมมี 4 คนก็เพิ่มขึ้นเป็น 10 คน หลังจากเสร็จการเปิดตัวแล้วท่านเหล่านี้ก็ได้ไปออกรายการต่างๆเพื่อบอกกล่าวในสิ่งที่เราจะดำเนินการต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดจากวันนี้ไป จะเดินหน้าสร้างเวทีหรือพื้นที่ พบประชาชนในพื้นที่ต่างๆ และกลุ่มวิชาชีพต่างๆ ส่วนจะเป็นพื้นที่ใด กลุ่มใดบ้าง จะมีการหารือกันอีกครั้ง ในสัปดาห์นี้ วันนี้เราเชิญชวนประชาชนมาร่วมสร้างพื้นที่ความคิด เพราะเชื่อว่าสังคมวันนี้ไม่สามารถอยู่ได้ในโลกยุคใหม่โดยผู้นำเดี่ยวคนเดียวแต่ต้องระดมความคิดคนจำนวนมากเพื่อเข้ามาร่วมกันขับเคลื่อนประเทศ

"ช่วงเดือน ก.ค. เราจะเดินหน้าจัดแคร์การท่องเที่ยววิถีใหม่ โดยเป็นเวทีใช้ความคิดในสังคมไทยทั้งหมดมาช่วยกัน โดยไม่ต้องแบ่งแยก ความคิดเหล่านี้ไปหากใครนำไปสู่การปฏิบัติเรายินดี เมื่อถามว่าที่สุดแล้วกลุ่มแคร์จะเป็นพรรคการเมืองหรือไม่ นานภูมิธรรมยืนยันว่า จุดเริ่มต้นของพวกเราเริ่มจากปัญหาที่มีอยู่ในสังคม ส่วนทางออกจากนี้เป็นเรื่องของอนาคตเป็นเรื่องที่สมาชิกกลุ่มและสังคมต้องช่วยกันกำหนด"นายภูมิธรรม  กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"