โควิดยังไม่จบจำเป็นต้องต่อพรก.ฉุกเฉิน


เพิ่มเพื่อน    


     ไทยพบผู้ป่วยรายใหม่ 5 รายกลับจากอียิปต์-กาตาร์ ไร้ติดเชื้อในประเทศ 29 วัน "บิ๊กตู่" เห็นใจผู้ประกอบการแต่ยังผ่อนคลาย 100 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้ ลั่นโควิดยังไม่จบจำเป็นต้องต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน "อนุทิน" จัดงบหนุนสถาบันแพทย์ทั่วประเทศทดลองวัคซีน ย้ำทราเวลบับเบิลมาตรการเข้มข้น วธ.ชง ศบค.ปลดล็อกแห่เทียนพรรษา
     เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)​ แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ว่า  พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 5 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่เดินทางกลับมาจากประเทศอียิปต์ 2 ราย และกาตาร์ 3 ราย ทั้งนี้ผู้ป่วยยืนยันสะสมยังคง 3,156  ราย โดยติดเชื้อในประเทศสะสม 2,444 ราย และผู้ป่วยยืนยันที่มาจากต่างประเทศสะสม 712 ราย  มีผู้ป่วยหายเพิ่ม 1 ราย  ยอดผู้ป่วยรักษาหายแล้วสะสม 3,023 ราย  อยู่ระหว่างการรักษา 75 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่  58 ราย
     สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทั่วโลก ในช่วง 24 ชั่วโมงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น  141,794 ราย โดยผู้ป่วยทั่วโลกสะสมอยู่ที่ 9,187,861 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3,636 ราย เสียชีวิตสะสม 474,339 ราย โดยผู้ติดเชื้อมากที่สุดอันดับ 1 ของโลกคือสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 2,388,153 ราย เพิ่มขึ้น 31,496  ราย เสียชีวิตสะสม 122,610 ราย เพิ่มขึ้น 363 ราย รองลงมาคือบราซิล  มีผู้ป่วยสะสม 1,111,348 ราย เพิ่มขึ้น 24,358 ราย เสียชีวิตสะสม 51,407 ราย เพิ่มขึ้น 748 ราย สำหรับประเทศในทวีปเอเชียมากที่สุดคืออินเดีย ผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 440,450 ราย เพิ่มขึ้น 13,540 ราย เสียชีวิตสะสม 14, 015 ราย เพิ่มขึ้น 312 ราย  ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 92 ของจำนวนผู้ป่วยอันดับโลก
     สำหรับความพร้อมของการเปิดเทอมในวันที่ 1 ก.ค.นี้  พญ.พรรณประภากล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมจัดทำคู่มือแนวทางการปฏิบัติให้แก่สถานศึกษาทุกแห่งได้ปฏิบัติตาม โดยคู่มือดังกล่าวเน้นเรื่องความปลอดภัยในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เช่นเตรียมจุดคัดกรองสำหรับการรับส่งนักเรียน ที่จะต้องมีการคัดกรองอุณหภูมิของนักเรียนก่อนที่จะเข้าเรียน และให้ทุกคนในโรงเรียนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพิ่มจุดล้างมือ ทำความสะอาดพื้นที่จุดสัมผัส กำหนดจำนวนนักเรียนต่อห้องไม่เกินห้องละ 20-25 คน แต่หากโรงเรียนไหนมีจำนวนนักเรียนมากอาจมีการสลับกันเรียน ทั้งนี้เน้นย้ำผู้ปกครองว่า ถ้าบุตรหลานไม่สบายให้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน
    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า อยากให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์ภายนอกประเทศ เราสนใจสถานการณ์ภายในประเทศคงไม่พอ ที่บอกไม่มีการติดเชื้อภายในประเทศเป็นศูนย์มา 28-29 วัน แต่เรายังพบผู้ติดเชื้อในสถานกักกันของรัฐที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ควรจะเลิกได้ทั้งหมดหรือยัง ต้องดูต่างประเทศเขาด้วยเป็นอย่างไร เพราะเชื้อโรคเหล่านี้บางครั้งยังไม่แสดงอาการ เพราะส่วนใหญ่ที่ตรวจพบเชื้อจะพบในระยะฟักตัวเกือบจะวันที่ 14 ฉะนั้นต้องมีการตรวจสอบกันต่อไปด้วยความเข้มงวด ไม่อย่างนั้นจะกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งคงลำบาก เพราะหลายประเทศมีผู้ติดเชื้อมากขึ้น หลายประเทศหายไปแล้วแต่กลับมาระบาดใหม่ เพราะเกิดจากการเปิดประเทศ เกิดจากการเปิดกิจกรรมต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง
    "เพราะฉะนั้นอยากจะทำงานให้มีอาชีพ มีรายได้ ต้องป้องกันตัวเอง สถานประกอบการต่างๆ ที่ขอมาผมก็เห็นใจ แต่ต้องมีมาตรการของท่านเอง นอกจากมาตรการของรัฐด้วย อาจจะไม่เหมือนเดิม นี่คือ New Normal การแสดงดนตรีอาจจะต้องมีที่กั้น ยังปล่อย 100 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้ เพราะโอกาสกลับมาระบาดใหม่ยังมีอยู่ ในส่วนเรื่องของการท่องเที่ยวมีการพิจารณากันอยู่ โดยจะพิจารณาการท่องเที่ยวในประเทศก่อน แต่จะให้ต่างประเทศเข้ามาต้องพิจารณาความเหมาะสมในห้วงเวลาก่อน แต่เราก็ต้องหาวิธีการที่เหมาะสม" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
โควิดไม่จบต่อ พรก.ฉุกเฉิน
     พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการต่ออายุการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 30 มิ.ย.ว่า กำลังพิจารณาอยู่ เมื่อมีความจำเป็นก็ต้องใช้​ ยอมรับว่าขณะนี้ยังมีความจำเป็น​ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในวันนี้ ที่ปลอดภัยอยู่ทุกวันนี้ เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  ตนบอกมาหลายครั้งแล้วว่าถ้าจำเป็นก็จำเป็น​ แต่จะพยายามผ่อนคลายให้ได้มากที่สุด เพราะเป็นการใช้กฎหมายในเชิงบูรณาการ หากเราไม่คอนโทรลตรงนี้ก็คงไม่ได้อย่างนี้ ซึ่งจากการหารือจากคณะทำงานทุกฝ่ายทุกคนก็มีความเห็นชอบในทุกๆ เรื่อง การจะต่อหรือไม่ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ใช่จากตนเพียงคนเดียว ทั้งนี้อยากให้ย้อนกลับไปดูว่าถ้าเราทำแบบเดิม ไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่มีมาตรการป้องกันโควิด-19 จะมาถึงวันนี้หรือไม่ แล้ววันนี้สถานการณ์จบแล้วหรือยัง ทั่วโลกยังมีการติดเชื้อมีการแพร่ระบาดเกือบจะ 10 ล้านคนอยู่แล้ว
     “ผมไม่ได้ต้องการจะใช้กฎหมายมากดดันใครเลย หลายคนก็มาจ้องเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวว่าเป็นเรื่องทางการเมือง ซึ่งมันเป็นคนละเรื่อง แล้วทำไมต้องมาจ้องกันตรงนี้ ทำไมจะต้องมาเคลื่อนไหวกันตอนนี้ บ้านเมืองกำลังมีปัญหา การค้าการลงทุนก็ยังมีปัญหา เศรษฐกิจโดยรวมก็มีปัญหา แต่ก็จะขัดแย้งกัน มันใช่เวลาหรือไม่ ลองคิดตรงนี้ดู และนี่คือแนวคิดรวมไทยสร้างชาติเข้าใจหรือไม่" นายกฯ ระบุ
    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีการพิจารณาเรื่องการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในที่ประชุม ครม. เพราะไม่จำเป็นต้องนำเข้า ครม.​ ดังนั้น​เมื่อถึงกำหนดเวลา ถ้าไม่ต่อก็หมดอายุไปโดยปริยาย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะมีการขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ รวมถึงพิจารณาใช้กฎหมายอื่นมาแทนในวันที่ 25 มิ.ย.  เวลา 13.00 น.
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงแผนการทราเวลบับเบิล  หรือการจับคู่ประเทศท่องเที่ยวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้หารือกับสถานทูตหลายประเทศ  โดยได้เริ่มร่างกรอบกติกาและเงื่อนไขที่หลายประเทศจะยอมรับ ทั้งนี้ทราเวลบับเบิลเป็นการจับคู่ท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ไม่ใช่การเปิดกว้าง โดยจะเลือกประเทศที่มีความสามารถในการควบคุมบริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีในระดับที่เรารับได้ มีจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยหรือไม่มีเลย หรือประเทศที่มีธุรกิจเร่งด่วนที่จะต้องเข้ามาดำเนินการในประเทศไทย โดยจะจำแนกประเทศเป็นกลุ่มๆ เอาไว้ก่อน ซึ่งวิธีการคือต้องต่างตอบแทนกัน เช่นเราใช้กฎนี้กับเขา เขาต้องยอมรับกฎนี้กับเราในตอนที่เราเดินทางไปประเทศเขาด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเขาต้องยอมรับกฎระเบียบต่างๆ ในการคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทย
    เมื่อถามถึงกรณีที่มีบางประเทศระบาดรอบสองจะพิจารณาอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่าต้องดูมาตรการของแต่ละประเทศ ต้องดูรายละเอียดเรื่องการระบาด หากเป็นการระบาดภายในประเทศนั้นคงจะคุยกันลำบาก แต่หากเป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศและพบในสถานกักกันไม่เป็นอะไร เราเน้นที่ความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งในข้อตกลงเอ็มโอยูต้องเขียนชัดเจนเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์สามารถแก้ไขกติกาได้
    อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องผ่านที่ประชุม ศบค.ก่อน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่รวบรวมเงื่อนไขต่างๆ เพื่อส่งต่อที่ประชุม ศบค. คาดว่าจะเข้าที่ประชุมในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ ซึ่งยังไม่ต้องกังวลอะไรเพราะเราเลือกคนที่จะเดินทางเข้ามาแบบจำเพาะเจาะจงกลุ่ม ยังไม่ใช่นักท่องเที่ยวแน่นอน
จัดงบหนุนทดลองวัคซีน
     นายอนุทินยังกล่าวถึงความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด ที่เป็นผู้ผลิตวัคซีนภาคเอกชนกำลังค้นคว้าวิจัย​ ขณะนี้ผลในการทดลองกับสัตว์เป็นที่น่าพอใจ และจะต้องพัฒนาต่อไปเพื่อฉีดในสัตว์ที่ใหญ่ขึ้น  คาดว่าวันนี้หรือวันที่ 24 มิ.ย.จะพบกับคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และสถาบันวัคซีน เพื่อจัดงบประมาณไปสนับสนุนการทดลองวัคซีนของสถาบันการแพทย์ต่างๆ ในประเทศไทย เราจะเร่งรัดให้เกิดผลโดยเร็วที่สุด
     นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มีมติให้หยุดชดเชยช่วงวันสำคัญทางพุทธศาสนายาว 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-7 ก.ค. แต่ยังไม่ได้มีการใช้โควตาชดเชยวันหยุดสงกรานต์ ดังนั้นวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ 3 วันยังคงมีอยู่เช่นเดิม โดยนายกฯ ให้แนวทางในการพิจารณาวันหยุดเพิ่มเติม โดยให้คำนึงถึงโครงการฟื้นฟูและพัฒนาที่จะใช้งบประมาณ 4 แสนล้านบาทด้วย เพื่อให้เป็นปัจจัยหนุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นหลัก ส่วนเดือน ก.ค.มีวันหยุดอยู่แล้วก็ยังไม่ได้ใช้วันชดเชยสงกรานต์ ค่อยไปพิจารณาเพิ่มเติมเอาในเดือนอื่น อาจจะเป็นเดือน ส.ค.หรือ ก.ย. โดยอาจจะพิจารณาให้หยุดต่อเนื่องกับวันหยุดอื่นเพื่อให้เกิดการเคลื่อนตัวทางเศรษฐกิจ
     นายอิทธิพลกล่าวด้วยว่า กระทรวงวัฒนธรรมเตรียมหารือ ศบค.เรื่องการจัดแสดงมหรสพที่มีคนเกิน 500 คนขึ้นไป เพราะกรณีการเว้นระยะห่าง 4 ตารางเมตรต่อ 1 คนนั้น จะมีอุปสรรคต่อการแสดงคอนเสิร์ตดนตรีและนาฏศิลป์ รวมถึงกิจกรรมวัฒนธรรมประเพณีอย่างการเวียนเทียนและการแห่เทียน  ซึ่งเป็นประเพณีหลักของหลายจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จ.อุบลราชธานี ที่มีนักท่องเที่ยวหลักหมื่นคน จึงต้องมีหลักเกณฑ์สำหรับผู้เข้าร่วมงาน
     น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบการจัดทำข้อตกลงการบริหารจัดการกองทุน "United Nations COVID-19 Response and Recovery Multi-Partner Trust Fund หรือ "UN COVID-19 MPTF" ซึ่งเป็นกองทุนระหว่างหน่วยงานของสหประชาชาติ สำหรับสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง ทั้งนี้ กองทุนฯ มีเป้างบประมาณจำนวน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีระยะเวลาในการบริหารกองทุน 2 ปี (จนถึง เม.ย.65) ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศอนุมัติการสนับสนุนงบประมาณแก่กองทุนฯ จำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.3 ล้านบาท
    วันเดียวกัน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยเร็วเพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศ และก่อนหน้านี้ ศบค.ระบุว่าถ้าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศเป็นศูนย์ติดต่อกัน 28 วันจะปลดล็อกทุกอย่าง แต่พอครบ 28 วันกลับพยายามสร้างเงื่อนไขเพิ่ม ข่มขู่ประชาชนว่าจะมีการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 เพื่อหาเหตุในการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก
    นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อคำพูด เมื่อไร้เหตุฉุกเฉินแล้วต้องรีบยกเลิก ส่วนการบริหารจัดการวิกฤติโควิด-19 ยังคงดำเนินการต่อไปได้ด้วยความระมัดระวังภายใต้กฎหมายปกติ เพื่อคืนสภาวะปกติให้ประชาชน เป็นการจัดสมดุลระหว่างเศรษฐกิจและสุขภาพให้เดินไปด้วยกันได้ ซึ่งการที่รัฐบาลยังยื้อเวลาเอาไว้ นับเป็นอาการเสพติดอำนาจอย่างหนึ่งที่ชอบให้ประชาชนมาร้องขอ อ้อนวอนให้ความเมตตา สังเกตได้ว่ากว่าจะมีมาตรการคลายล็อกแต่ละครั้ง ประชาชนต้องมาเรียกร้องกันอย่างกว้างขวางถึงจะยอม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"