สาวบัญชีผูกคอ หนีผิด-ยักยอก


เพิ่มเพื่อน    

    สาวบัญชีผูกคอตายคาหอพัก หลังเติมตัวเลขเช็คนายจ้างยักยอกเงิน 3 แสนบาทโอนเข้าบัญชีชายปริศนา ตำรวจคาดหนีความผิด รู้แล้วคนรับเงินเป็นใคร อยู่ระหว่างติดต่อมาให้ปากคำ ครอบครัวอึ้ง เผยไม่มีใครรู้ว่ามีปัญหาการเงิน
    เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 เมษายนนี้ ร.ต.อ.สิทธิชัย จันโทศิริ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า พบศพคนผูกคอตายในหอพักหลังสำนักงานอัยการ ข้างโรงเรียนอนุบาลนครพนม ถนนราชทัณฑ์ เขตเทศบาลเมืองนครพนม จึงพร้อมด้วย นพ.อายุ ภิญโญสิริพันธุ์ แพทย์เวร รพ.นครพนม ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม ไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ในซอยไม่มีชื่อ เป็นหอพักสองชั้น ห้องชั้นล่างหมายเลข 107/42 พบศพผู้ตายเป็นหญิง ทราบต่อมาว่าชื่อ น.ส.ขนิษฐา หรือปุ้ย เหมเมือง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 225 หมู่ 6 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงนอนลายดอก ใช้สายเคเบิลสีดำแขวนคออยู่กับราวผ้าม่านด้านในสุด ตรวจภายในห้องพบเหล้า-เบียร์เต็มตู้เย็น ไม่มีร่องรอยการต่อสู้
    สอบสวนเบื้องต้น ผู้ตายทำงานเป็นพนักงานบัญชีอยู่ร้านอะไหล่ยนต์แห่งหนึ่ง ตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าโลตัส ซึ่งเป็นคนที่นายจ้างไว้วางใจ ให้นำเงินหรือเช็คเข้าธนาคารเสมอ และยังไม่มีครอบครัว เพียงคบหากับแฟนหนุ่มที่ทำงานอยู่ห้างจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้างแถวถนนบายพาสเลี่ยงเมือง ภายหลังมีปัญหาเรื่องหึงหวงจึงเลิกรากันไปประมาณเดือนเศษ
    เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลว่า ก่อนพบศพมีหนังสือแจ้งรายการเดินบัญชีจากธนาคารแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในห้างโลตัส ส่งไปยังนายเทียน (นามสมมุติ) ผู้เป็นนายจ้าง ปรากฏว่ามีการเบิกถอนเงินจากบัญชีไปถึง 310,000 บาท จึงโทรศัพท์เข้ามือถือของ น.ส.ปุ้ย แต่ไม่มีการรับสาย นายเทียนจึงชวนนางรัตนา มารดา ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองนครพนม โดยนางรัตนาพยายามโทร.ติดต่อ น.ส.ปุ้ยอยู่ตลอดเวลา ด้วยความร้อนใจจึงจะตามไปที่ห้องพัก เพราะครั้งหนึ่งจำได้ว่าเคยขับรถมาส่ง น.ส.ปุ้ยแถวหอพักหลังสำนักงานอัยการ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ห้องไหน จึงเดินถามชื่อ น.ส.ปุ้ย มีคนชี้ไปยังห้องดังกล่าว พบว่าประตูไม่ได้ล็อกจากภายใน เมื่อเปิดเข้าไปพบร่างของ น.ส.ปุ้ยแขวนอยู่กับราวผ้าม่าน จึงรีบวิ่งออกมาโทร.แจ้งศูนย์วิทยุ 191 และโทร.เรียกลูกชายกับสามีมาที่เกิดเหตุ
    นายเทียนเปิดเผยว่า ตนเห็น น.ส.ปุ้ยทำงานดี ขยันขันแข็ง จึงให้ดูแลด้านการเงิน สำหรับเรื่องส่วนตัวนั้นไม่ทราบ รู้เพียงว่าอยู่กับแฟนหนุ่ม ภายหลังเลิกรากันก็เห็นผู้ตายซึมๆ ไป ประมาณเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ตนเขียนเช็คเป็นเงินเดือนให้ผู้ตายไปเบิกธนาคาร จำนวน 10,000 บาท และก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร กระทั่งเช้าวันที่ 11 เม.ย.61 มีหนังสือแจ้งรายการเดินบัญชีส่งมาให้ ระบุว่าตนเบิกเงินสดจากธนาคารไปจำนวน 310,000 บาท ลงวันที่ 10 เม.ย.61 ตรวจสอบแล้วจึงทราบว่าเป็นเช็คที่ตนจ่ายเงินเดือนให้ผู้ตายไปตั้งแต่เดือน ก.พ. และผู้ตายได้โอนเงินจำนวน 300,000 บาท ไปเข้าบัญชีหนึ่ง จึงรีบโทร.ติดต่อ แต่ไม่รับสาย และไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเจ้าหน้าสายสืบทราบแล้วว่าผู้ตายโอนเงินไปให้ใคร เป็นชายคนหนึ่ง กำลังติดต่อประสานเพื่อมาให้ปากคำอยู่
    ขณะเจ้าหน้ากำลังชันสูตรพลิกศพ มีญาติๆ ของ น.ส.ปุ้ยทราบข่าวรีบมายังที่เกิดเหตุ แต่ละคนต่างร่ำไห้เป็นที่เวทนา โดย น.ส.เจนจิรา สีหาวงศ์ อายุ 25 ปี น้องสาวต่างบิดา เล่าว่า พี่สาวเป็นคนดี ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนเศษยังหุ้นกันดาวน์รถเก๋งออกมาหนึ่งคัน เมื่อทราบว่าก่อนตายพี่สาวแอบยักยอกเงินนายจ้างด้วยการเพิ่มตัวเลข ทำให้ทางครอบครัวงงกัน เพราะบัญชีปลายทางนั้นไม่มีใครรู้จักมาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า เหตุจูงใจในการปลิดชีพอาจจะมาจากความเครียดที่ยักยอกเงินนายจ้าง ญาติไม่ติดใจในสาเหตุการตาย จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"