ฟังไว้ 'จตุพร' ชี้ 24 มิถุนาแค่เหตุการณ์หนึ่งของประวัติศาสตร์ แนวคิด 2475 นำมาใช้กับปัจจุบันไม่ได้


เพิ่มเพื่อน    

24 มิ.ย.63 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊คไลฟ์ PEACETALK ในวันครบรอบ 88 ปีของการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ 2475 โดยเชื่อว่า การอภิวัฒน์ 24 มิถุนา 2475 เป็นบทเรียนของยุคสมัยหนึ่ง ย่อมมีทั้งความสำเร็จ และล้มเหลว ซึ่งเป็นปัจจัยจำเพาะของแต่ละยุคสมัยที่แตกต่างกัน พร้อมหวังในยุค 2563 จะเกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเพื่อระดมความเห็นกำหนดก้าวย่างฝ่าทางตันที่รัฐธรรมญ 2560 ออกแบบวางกับดักของประเทศไว้

นายจตุพร กล่าวว่า เหตุการณ์วันที่ 24 มิถุนา 2475 ถูกจารึกเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นประชาธิปไตยและถึงวันนี้ครบ 88 ปี แต่ตนเห็นว่า ตลอดเวลา 88 ปียังไม่มีวันใดเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

มีช่วงหนึ่ง นายปรีดี พนมยงค์ ผู้นำคณะราษฎรสายพลเรือน ซึ่งช่วงนำเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้น คณะราษฎรส่วนมากมีอายุแค่ 32 ปี อยู่ในวัยหนุ่ม และเคยกล่าวถึงความผิดพลาดต่อการพัฒนาประชาธิปไตยที่ล่าช้าในช่วง 14 ปีแรกว่า เกิดจากขบวนการขัดแย้งภายในขบวนการเมือง พรรคการเมืองในประเทศไทย

ความผิดพลาดนั้น ส่วนหนึ่งมาจากคณะราษฎรขาดการศึกษาความขัดแย้งในขบวนการเมือง ขาดความระวังต่อการฟื้นซากทัศนคติเผด็จการทาสศักดินาขึ้นมาโต้การอภิวัฒน์ นอกจากนี้ยังคิดแต่เพียงเอาชนะทางยุทธวิธียึดอำนาจรัฐ ไม่คิดรักษาความชนะเอาไว้

ประกอบกับคณะราษฎรมีความรู้ทางการทหาร แม้หลายคนรู้ทางทฤษฎีสถาปนาประเทศ แต่ขาดความชำนาญในการปฏิบัติ ขาดการติดต่อกับราษฎรอย่างกว้างขวาง รวมทั้งมีความคาดหวังสูงเกินไปกับอดีตข้าราชการที่มาร่วมบริหารประเทศ จึงเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในขบวนการปฎิวัติถึงกับปิดสภาและงดใช้รัฐธรรมนูญ 2475

นายจตุพร กล่าวว่า มุมมองของนายปรีดี เป็นการมองย้อนหลังอย่างเป็นระบบ ส่วนการจัดงานรำลึก 24 มิ.ย. 2475 จึงเป็นสิ่งปกติ ไม่น่ามีปัญหาอะไร ดังนั้น รัฐไม่ควรวิตกจนเกินเหตุ ขอให้มองเป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่งของประวัติศาสตร์หนึ่ง ซึ่งเมื่อช่วงเวลาเปลี่ยน ทัศนะเปลี่ยน และปัจจัยรายล้อมเปลี่ยนไปด้วย ดังนั้น ประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์หนึ่งจึงเป็นทัศนะจากบทเรียนหนึ่งเท่านั้น

"ผมไม่เชื่อว่า แนวความคิด 2475 จะมาใช้กับปัจจุบันได้ เพราะในขณะนั้นยังทำไม่สำเร็จอะไรเลย ซึ่งมีเรื่องมากมาย ก็หนีความเป็นคน เป็นปุถุชนไปไม่พ้น เห็นอำนาจมีขัดแย้ง แต่เป็นห้วงเวลาหนึ่ง ที่ผ่านไปแล้ว”

นายจตุพร เน้นว่า ในเหตุการณ์ปี 2563 มีวิกฤตแตกต่างจากปี 2475 เพราะเรากำลังเจอวิกฤตเศรษฐกิจ และสถานการณ์การเมืองอกแตก ไม่มีทางออก มีแต่ทางตัน เพราะเกิดจากกติกาที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนเห็นภัยรัฐธรรมนูญปี 2560 ถึงขึ้นประกาศเดิมพันไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง และพยายามสื่อสารอธิบายให้เห็นภัยของรัฐธรรมนูญมาแล้ว

ตนเคยบอกว่า การเขียนรัฐธรรมนูญเป็นออกแบบที่แยบยลที่สุด จึงอยากให้ประธานยกร่างรัฐธรรมนูญได้มีอายุยืนเพื่อเห็นสิ่งที่เขียนไว้จะส่งผลอะไรบ้าง เพราะถึงที่สุดการคิดเอาประโยชน์ทางการเมืองเพื่อเอาเปรียบให้ได้ชนะอย่างเดียวนั้น กลับเป็นจุดเริ่มต้นความพ่ายแพ้ของประเทศชาติ

“ทั้งนี้ เมื่อกติกาล้าหลัง ก็ไม่ทำให้ประเทศก้าวหน้าทันสมัย แต่ได้วางกับดักประเทศโดยเอาคนไทยเป็นตัวประกัน เมื่อประเทศเกิดวิกฤตโควิดขึ้น จะเห็นกฎเกณฑ์หลายอย่างล้าหลัง เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญ 2550 กำหนด มาตรา 190 วางกับดักล็อคศักยภาพคนไทยและประเทศไทยเอาไว้จนทำให้เสียโอกาสในการเจรจาแข่งขันให้ได้เปรียบกับต่างประเทศ”

นายจตุพร กังวลกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ว่า เมื่อเกิดโควิดขึ้นแล้ว จะวางยุทธศาสตร์ไปได้อย่างไร และยังมีอีกหลายเรื่องที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ดังนั้นการวางยุทธศาสตร์ชาติจึงควรเป็นเรื่องของคนรุ่นนั้นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และไม่เกิดความล้าหลัง แต่ที่สำคัญการออกแบบกฎกติกาของประเทศ ต้องไม่วางกับดักให้เกิดความเสียหายกับประเทศไทย

รวมทั้ง ตนยืนยันว่า 88 ปี เราไม่มีแม้วันเดียวที่จะเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่เคยมีประชาธิไตยเต็มร้อย แต่สาระสำคัญคือ อีกไม่กี่วันเราจะเดินไปสู่ทางตันของประเทศ แล้วรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นอุปสรรคของประเทศ และทำให้ไทยไร้ทางออก

"ผมยังยืนยันว่า วิธีการปกติตามรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่มีวันแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ได้อย่างเด็ดขาด เพราะแบบถูกออกเพื่อไม่ให้เกิดการแก้ไข แต่ยกเว้นมีข้อตกลงร่วมของสังคม ซึ่งยังห่างไกล"

นายจตุพร ทิ้งท้ายว่า อีกไม่นานประเทศจะเดินไปถึงทางตัน และตนเคยทำนายไว้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบเพื่อการถูกฉีกโดยเฉพาะ ไม่ใช่เพื่อให้มีการแก้ไข เพราะแก้ไขอะไรไม่ได้เลย แล้วท้ายที่สุดการฉีกก็คือคำตอบ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"