12 เม.ย.61-นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด โพสต์ข้อความ เกี่ยวกับการตั้งข้อหาคดีเปรมชัยว่า...

การตั้ง "ข้อหา" กันเยอะแยะไปหมดจนเกินความจำเป็น...ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป...

บางทีมันก็สร้างปัญหาในกระบวนการยุติธรรม...ได้เหมือนกัน!!!! (โดย เฉพาะคดีที่เป็นที่สนใจของประชาชน)

เอาเป็นว่า...(สรุปจนถึงขณะนี้)...ตกลงเหลือ... ข้อหาที่สั่งไม่ฟ้องนายเปรมชัยฯ ของอัยการ..ที่ตำรวจ (ผบ.ชภ.ภาค ๗) มีความเห็นแย้งอัยการ...เหลือเพียง ๓ ข้อหา ที่ต้องเสนอความเห็นให้ อสส. ชี้ขาดตัดสินตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145/1 คือ

1. ข้อหาฐาน "เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่"

2. ฐาน "ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการ ล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่"

3. ฐาน "ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่"
*** ทั้ง 3 ข้อหา...เป็นข้อหาจิ๊บจอย***

แต่!!!...อย่างไรเสีย....ข้อหาหนักๆ ที่อัยการ "สั่งฟ้อง" ไว้แล้ว อัยการจะฟ้องตาม มาตรา 143 (2)

วิ. อาญา...แน่นอนครับ

ในฐานะ "คนนอก"....

ผมเห็นว่า..ข้อหาที่ 1 และ 2 ...เป็นการแย้งเรื่อง "ข้อกฎหมาย" ส่วนข้อที่ 3 เป็นการแย้งทั้ง "ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย"

ข้อหาที่ 1 และ 2....เมื่อกฎหมายไม่ได้มีบทกำหนดโทษไว้ ก็ไม่มีทางที่จำเลยจะรับโทษได้ ซึ่งเป็นหลักทั่วไป ตามกฏหมายอาญา มาตรา ๒ วรรคแรก ที่บัญญัติไว้ว่า "บุคคลจักต้องรับโทษทางอาญาต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ และโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้นต้องเป็นโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย" 

ถ้าอัยการฟ้อง "ข้อหานี้" ต่อศาลไป...ก็ถูกศาลหัวเราะเอาแน่ 555

ส่วนข้อหาที่ 3 แล้วแต่...ข้อเท็จจริงในสำนวนการสอบสวนว่า.. มีพยานหลักฐานว่าเป็นการแบ่งแยกหน้าที่กันทำมั้ย... / หรือว่า...มีพยานหลักฐานว่า เป็นการกระทำของคนๆ เดียวที่เอาปืนลูกกรดติดกล้อง...กำลังจ้องเล็งจะยิงกระรอก..หลังจากที่คนอื่นๆ ถูกเจ้าพนักงานฯ จับและควบคุมตัวไว้แล้ว (คนอื่นๆ อีก 3 คนที่ถูกควบคุมตัว...ไม่ได้รู้เห็นด้วย)

ถ้าเป็นกรณีแรก...ก็พอจะสั่งฟ้องได้ / ถ้า เป็นกรณีหลัง...ฟ้องไปก็ขำกลิ้งเพราะตลก..!!!

ข้าพเจ้า...มีความเห็นเช่นนี้...แล

ปล. ขอโทษนะ...ที่จุ้น!!!