
29 มิ.ย.63 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ PEACETALK ช่วงหนึ่งว่า เก่าดูดีเพราะใหม่นั้น เป็นการแสดงความเห็นที่เน้นถึงทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ เพราะหลังจากปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ นายอนุชา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ ได้พูดถึง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนใหม่ ปรากฎว่า กลายเป็นเรื่องใหญ่โต แม้นายอนุชา จะกลับลำ ระบุถึงนางนฤมล เป็นทีมเศรษฐกิจของพรรค ไม่ใช่ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล แต่ไม่สามารถหยุดเสียงวิจารณ์ต่างๆนานาได้ เนื่องจากกระแสด้านลบขยายไปไกลกันมาแล้ว หากมองทีมเศรษฐกิจชุดเก่า 4 กุมารภายใต้การนำของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ซึ่งคนเหล่านี้ผ่านการพิจารณาของซุปเปอร์โพล ให้ค่าด้านดีที่ได้รับความนิยมจากประชาชนเป็นอย่างมาก เมื่อมีการระบุชื่อดร.นฤมล มา จึงทำให้ทีมเศรษฐกิจชุดเก่าดูดีขึ้นอีกมาก ราวกับเป็นสัจธรรมทางการเมืองส่วนหนึ่งที่ระบุเปรียบเปรยว่า ถ้าตัวเองหน้าตาไม่ดี ต้องการให้ดูดีขึ้น ควรนำคนหน้าตาที่แย่ ดูไม่ดีกว่ามายืนข้างๆ ย่อมทำให้ตัวเองดูดีขึ้น
นายจตุพรกล่าวว่า ในความรู้สึกคนไทยกับสถานการณ์เศรษฐกิจยากลำบากนั้น ทีมเศรษฐกิจจะเข้ามาใหม่จะรับทุกขลาภ ไม่ทราบว่า นายกรัฐมนตรีจะคิดอย่างไร หากต้องการใช้ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่แล้ว ควรให้ชุดใหม่เขียนร่าง พรบ.งบประมาณปี 2564 เพราะต้องรับผิดชอบ หากปรับครม.ตามที่ปรากฎแบบคนเก่าเขียน ร่างพรบ.งบประมาณ แล้วทีมใหม่มาทำ ซึ่งจะมีสภาพติดขัด ยึกยักไปหมด ดังนั้น ภายใต้โฉมหน้าทีมเศรษฐกิจใหม่จึงทำให้คนไทยไม่สบายใจอยู่ดีนอกจากนี้ คนไทยกำลังเดินไปสู่เดือนกรกฎาคม เชื่อว่าจะเห็นปรากฎการณ์หลากหลายมิติ โดยเรื่องที่ไม่คาดจะเกิด จะได้เห็นทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี ส่วนการปรับ ครม.ที่กำลังจะมีขึ้น ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกกี่วัน และไม่มีความชัดเจนกับสถานการณ์นี้เลย แล้วจะนำไปสู่สถานการณ์อะไรอีกหรือไม่ เนื่องจากภาวะทางเศรษฐกิจ และด้านอื่นๆจะทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ ดังนั้น มุมมองทางการเมืองของตน ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้ว จึงไม่กระโตกกระตาก เพราะจะกลายเป็นเสาค้ำให้เขาโดยปริยายเลย
การเมืองมีความแตกต่างความคิดเห็นกันได้ การวิเคราะห์แบบอคติย่อมคิดแบบเดิมว่า ต้องขับเคลื่อนด้วยท่วงทำนองแข็งกร้าวตลอดเวลา ทั้งที่ไม่รู้สถานการณ์ที่เป็นจริง และยังไม่ต้องรับผิดชอบอะไรด้วย กลับมาแสดงความเหนือกว่าหรือเป็นคนสู้จริงกว่า ที่ยกเรื่องนี้มาพูดนั้น เพราะเริ่มเบื่อในการฟังวิเคราะห์ของคนบางคนที่อวดด่าตนหลายรอบ ทั้งที่ไม่โต้ตอบอะไร ในการต่อสู้นั้น คุณต้องอยู่ในสถานการณ์ ต้องการเป็นอะไรตัวเองต้องมาเป็นก่อน แต่กลับคิดใหญ่คิดโต อยู่ไกลไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ซึ่งไม่ไหว ที่ยกเรื่องนี้มาคุยกัน เพราะโลกโซเชียลมีเดียหรือโลกซุบซิบนินทานั้น เป็นเรื่องขยายวงแล้วสร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้น ตนอยู่ในภาระที่ว่า การต่อสู้พยายามรักษาศาลาไม่ให้ร้าง เพราะเรื่องราวในการต่อสู้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยังมีคนติดคุก ต้องต่อสู้คดีเยอะแยะมากมาย แต่กลับไปขยายว่า ยินยอมนั่นนี่ เอาตัวเองรอด ส่วนตัวเคยรอดที่ไหน ไปอ่านสำนวนคำวินิจฉัยดู ใครก็รู้ว่าไม่รอด คิดว่ารอดก็บ้าแล้ว การแสดงความคิดเห็นใด ต้องรักษาบรรยากาศ อย่างน้อยที่สุด เรามีภาระกิจต้องทำอย่างไรที่จะปลดปล่อยพี่น้องได้รับอิสรภาพนั้นเป็นเรื่องใหญ่ พื้นที่การต่อสู้เมื่อ 10 ปีที่แล้วมันกว้าง แต่ปัจจุบันพื้นที่แคบเพราะตัวประกันมากเหลือเกิน
"คนที่แสดงออกทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผย ผมก็มีการข่าวของผมอยู่ ผมเห็นว่าเป็นทัศนะคติที่แย่มาก ใช้ไม่ได้ และที่ไม่ตอบโต้ก็อย่าชะล่าใจ ที่พูดเพื่อเตือนว่า อย่าเห็นแก่ตัวให้มาก อยู่ในสนามรบต้องรับผิดชอบ ถ้าเป็นนักรบต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่สั่งให้เพื่อนไปตาย ถ้าจะเดินหน้าต่อสู้ คุณต้องอยู่ในสนาม มีสิทธิ์ตายเท่ากับเขา คุณจึงมีสิทธิ์ที่จะพูด แต่ถ้าคุณพูดนอกสนามไปยุ แล้วใส่ร้ายผู้คนในสนามรบ คุณจะเป็นคนใช้ไม่ได้มากที่สุด ผมพูดอย่างนี้คนอยู่โซเชียลต่างๆรู้ว่า ผมพูดหมายถึงใคร หมายถึงอะไร"นายจตุพรกล่าว
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |