ไฟไหม้บ้านสุขาวดี แหล่งท่องเที่ยวในพัทยา ต้นเพลิงเกิดที่อาคารพุทธบารมีมูลค่า 300 ล้าน ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงจึงดับได้ เสียหายเกือบหมด สาเหตุคาดไฟชอร์ต เจ้าของสหฟาร์มผู้สร้างถึงกับซึม
    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ พ.ต.ต.สิทธาวัชร์ ชวกรเธียรรัตน์ สารวัตรสอบสวน สภ.บางละมุง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านสุขาวดี หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.บางละมุง นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง รุดตรวจสอบ พร้อมประสานรถดับเพลิงเมืองพัทยา และหน่วยงานในพื้นที่รวมเกือบ 20 คันไปดับไฟ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพุทธบารมี มีความใหญ่โตโอ่อ่า ซึ่งเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง จากบริเวณฝ้าเพดานของตัวอาคาร และพื้นภายในซึ่งเป็นพรมติดไฟง่าย ลุกลามกระจายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังพบมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกจากโดมด้านบนตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมฉีดน้ำอย่างหนัก ต้องใช้เวลานานเกือบ 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด 
    จากการตรวจสอบภายในอาคาร พบว่าถูกเพลิงเผาวอดเสียหายเกือบทั้งหมด แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ เจ้าของอาณาจักรบ้านสุขาวดีและเป็นเจ้าของสหฟาร์ม ได้มายืนมองด้วยความเสียใจ ก่อนจะออกไปจากที่เกิดเหตุ โดยยังไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น รอทางประกันและหน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ
    นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในอาคารพุทธบามี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดีย (ส่วนหน้าผาก) และพระพุทธรูป ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสวยงาม ช่วงเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่อยู่ภายในอาคารประมาณ 6 คน ก่อนต้นเพลิงจะลุกไหม้มาจากโดมด้านบนอาคาร ประกายไฟได้ตกลงมาด้านล่างติดกับพรม แล้วลุกลามอย่างรวดเร็วยากจะดับได้ทัน ส่วนสาเหตุสันนิษฐานเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตาม ต้องรอทางหน่วยพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง
    บ้านสุขาวดี เป็นพิพิธภัณฑ์และอาร์ตแกลเลอรี ก่อสร้างบนเนื้อที่กว่า 80 ไร่ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งในเขตเมืองพัทยา ในส่วนของอาคารพุทธบารมี มีมูลค่าการก่อสร้างประมาณ 300 ล้านบาท และได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัท ทิพยประกันภัย ด้วยวงเงินมากถึง 2,000 ล้านบาท ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างประเมินความเสียหาย แต่คาดว่าราว 200 ล้านบาท โดยภายในอาคารมีทรัพย์สิน เฟอร์นิเจอร์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งของตกแต่งมีค่าเป็นจำนวนมาก
    นางเชอร์รี่ ชาวเมียนมา พนักงานผู้ดูแลอาคาร เปิดเผยว่า​ ก่อนเกิดเหตุตนได้มาเปิดระบบไฟฟ้าภายในอาคาร จากนั้นก็ทำความสะอาดตามปกติ ผ่านไปราว 2 ชั่วโมงได้ยินเสียงระเบิด จากนั้นก็เกิดประกายไฟแล้วไฟลุกไหม้บริเวณเวที ก่อนจะปะทุและลุกลามอย่างรวดเร็ว 
    ล่าสุด เจ้าหน้าที่สำนักการช่างเมืองพัทยาและฝ่ายปกครองได้ติดประกาศให้อาคารดังกล่าวเป็นเขตเพลิงไหม้แล้ว รวมทั้งปิดกั้นพื้นที่และระงับการใช้อาคารเนื่องจากหวั่นว่าอาจทำให้เกิดอันตรายได้.