มารู้จัก..Yold 


เพิ่มเพื่อน    

    ที่ผ่านมา โลกเคยเป็นของ ‘คนหนุ่มสาว’ มาโดยตลอด เราเห็นจนคุ้นชินเลยว่าสิ่งเก่าๆ ถูก disrupt จากความต้องการของคนรุ่นใหม่เสมอ เรียกว่าอะไรเก่าก็ต้องตกเวทีไปนั่นเอง
    แต่เชื่อไหมว่า ในปี 2020 ที่จะถึงนี้ มีการทำนายถึงปรากฏการณ์หรือเทรนด์ใหม่ในทิศทางตรงข้าม นั่นคืออาจเกิดการ disrupt จาก ‘คนแก่’ ขึ้นมาก็ได้
    ข้อความนี้เผยแพร่โดยมูลนิธิแพทย์ชนบท ที่ระบุว่า ปี 2020 คือจุดเริ่มต้น ‘ทศวรรษแห่ง Yold’
    คำว่า Yold ก็คือ Young Old หรือคนแก่ที่อยู่ในวัย ‘เริ่มแก่’ จะเรียกว่า ‘แก่วัยกระเตาะ’ ก็น่าจะได้
    ที่จริงคำนี้มีที่มาจากคนญี่ปุ่น ที่ใช้เรียกคนอายุระหว่าง 65 ถึง 75 ปี ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนก็คงเป็นคนแก่อย่างเต็มภาคภูมิได้ แต่ในปัจจุบันคนวัย 65-75 ปีนั้น พูดได้เลยว่ายังแอคทีฟอยู่มาก
    ถามว่าคนกลุ่มนี้เป็นคนรุ่นไหน คำตอบก็คือเป็นคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์เต็มๆ ตัวเลยนะครับ โดยเฉพาะบูมเมอร์ในประเทศพัฒนาแล้ว คนเหล่านี้เกิดในช่วงปี 1955-1960 ซึ่งเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะฉะนั้น พอถึงปี 2020 ก็จะมีอายุราวๆ 60-65 ปีพอดี เรียกได้ว่าเป็น ‘แก่รุ่นกระเตาะ’ ได้เต็มปาก และเนื่องจากเป็นคนรุ่นบูมเมอร์ (คือมีคนเกิดเยอะ) คนกลุ่มนี้จึงมีจำนวนมากตามไปด้วย ประมาณว่าในปี 2020 ในประเทศร่ำรวย จะมีคนวัย 65-74 ปี อยู่ถึง 134 ล้านคน (หรือ 11% ของประชากร) เพิ่มจาก 99 ล้านคน (หรือ 8%) ในปี 2000 เรียกว่าเพิ่มขึ้นมาไม่น้อยทีเดียว
    แต่คนกลุ่ม Yold ไม่ได้แค่มีจำนวนมากเท่านั้น พวกเขายัง ‘สุขภาพดีกว่า’ และ ‘มั่งคั่งกว่า’ คนรุ่นราวคราวเดียวกันในรุ่นก่อนหน้านี้อีกด้วย
    แน่นอน เมื่อสูงวัยขึ้น สุขภาพของคนทั่วไปก็ต้องย่ำแย่ลง แต่ Yold สุขภาพย่ำแย่ลงน้อยกว่าที่คนแก่ทั้งหลายเคยเป็นมาในประวัติศาสตร์ องค์การอนามัยโลก หรือ World Health Organization ประมาณการเอาไว้ว่า สำหรับคนกลุ่มนี้ ในอายุขัยที่เพิ่มขึ้น 3.7 ปี (คืออายุยืนมากขึ้น 3.7 ปี) จะเป็นช่วงเวลาที่สุขภาพดีถึง 3.2 ปี คืออาจจะป่วยติดเตียงระยะสุดท้ายอยู่เพียง 0.5 ปี (คือครึ่งปีเท่านั้น) ก่อนหน้านั้นยังใช้ชีวิตลั้นลาได้สนุกสนานตามสะดวก เพราะสุขภาพไม่ได้แย่ลงมากนักเหมือนคนรุ่นก่อนๆ ที่อาจป่วยหรือสุขภาพย่ำแย่เป็นเวลานานก่อนวาระสุดท้าย
    ส่วนเรื่องความร่ำรวยก็พบอีกว่า ในระหว่างปี 1989 ถึง 2013 ความมั่งคั่งเฉลี่ยของครอบครัวที่มีผู้นำครอบครัวอายุ 62 ปีขึ้นไปในอเมริกานั้น เพิ่มสูงขึ้นถึง 40% (คือรวยเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า) ทำให้มีรายได้เฉลี่ยราวปีละ 210,000 เหรียญฯ และที่น่าสนใจก็คือ ในคนกลุ่มอื่นๆ (ทั้งที่แก่กว่าและหนุ่มสาวกว่า) กลับเป็นกลุ่มที่มีรายได้หรือความมั่งคั่งลดลง
    แต่แค่มีจำนวนมาก สุขภาพดี และร่ำรวยนั้นยังไม่พอ เพราะ Yold ยังเป็นกลุ่มคนที่ ‘ทำงานยุ่ง’ ไม่แพ้คนหนุ่มสาวด้วย
    มาเฝ้าดูไปพร้อมๆ กันนะจ๊ะว่า Yold จะมาเปลี่ยนโลกจริงไหม???.
                                        "ป้าเอง" 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"