'ธนาธร' พร้อมทำหน้าที่ กมธ.งบประมาณปี 64 ไม่หวั่นถูกตรวจสอบจริยธรรม กังวลใช้งบแบบเดิมๆจะเสียโอกาสพัฒนาประเทศ


เพิ่มเพื่อน    

8 ก.ค.63 - ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ในสัดส่วนโควต้าของพรรคก้าวไกล กล่าวว่า จะร่วมทำงานในฐานะคณะกรรมาธิการจนถึงวาระที่ 2-3 ที่จะส่งร่างเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ส่วนที่จะมีผู้ไปยื่นให้ตรวจสอบจริยธรรมของตนเองนั้น ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ โดยส่วนตัวไม่มีอะไรที่เสียหายสามารถดำเนินการได้และพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ สิทธิ์ที่ถูกตัดคือสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังคงมีสิทธิ์ในฐานะพลเมืองที่จะทำหน้าที่ โดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นทางเศรษฐกิจและการเมือง

การแสดงความเห็นต่อการจัดทำกฎหมายงบประมาณปี 2564 ว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ คู่ขนานกับการใช้งบประมาณตามพระราชกำหนด 3 ฉบับของรัฐบาล ที่ใช้แก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไทยที่กำลังย่ำแย่

นายธนาธร กล่าวว่า งบประมาณต้องใช้ทุกบาทให้มีประสิทธิภาพ ยอมรับว่ามีความกังวลว่าหากใช้งบประมาณแบบเดิมๆ อาจเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศ กรอบการจัดทำงบประมาณปี 2564 ยังคงเหมือนเดิมกับปีที่ผ่านมา ทั้งโจทย์ปัญหาเดิมยังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอย ในภาวะที่ขีดความสามารถของประเทศมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะมีปัญหาใหม่เข้ามาคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่รัฐบาลยังไม่เปลี่ยนแปลงการจัดงบประมาณเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด จึงขอย้ำว่ามีความกังวลกับการจัดทำงบดังกล่าว จากการพิจารณาศึกษาร่างงบประมาณรายจ่าย ปี 2564 เชื่อว่าคณะกรรมาธิการจะเปิดโอกาสให้กรรมาธิการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยคาดหวังว่าข้อเสนอแนะจากคณะก้าวหน้าจะได้รับการพิจารณาจากผู้มีอำนาจ

การจัดงบตามวาระที่ 1 จะไม่สามารถทำให้ประเทศไทยเดินหน้าไปได้ อีกทั้งจะเป็นภาระให้กับลูกหลานที่จะต้องร่วมกันใช้หนี้เงินกู้ ทั้งเงินกู้จากพ.ร.ก. 3 ฉบับ และเงินกู้จากงบขาดดุลในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 2564 และเชื่อว่าหากไม่มีการปรับเปลี่ยนในอนาคตจะสร้างวิกฤตทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มว่าจะแย่กว่าสถานการณ์วิกฤติต้มยํากุ้งปี 2540 โดยเฉพาะตอนนี้เงินกู้จากวิกฤติต้มยํากุ้งประเทศไทยก็ยังจ่ายไม่ครบ

ในการตัดงบของกองทัพในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ตามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางส่วนได้เคยอภิปรายให้ตัดลดอาจจะเป็นไปได้ยาก ก่อนจะกล่าวเชิญชวนให้ประชาชนตื่นตัวทางการเมือง เพื่อส่งเสียงว่าเวลานี้ ควรใช้งบประมาณของรัฐในการดูแลประชาชนหลังวิกฤตโควิดให้เกิดการสร้างงานและสร้างความมั่นคงในการดำเนินชีวิตให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะการจ้างงาน และเห็นว่ายังไม่ควรที่จะใช้งบการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์หรือการใช้งบสำหรับการอบรมสัมมนา

นายธนาธร กล่าวถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตถึงบทบาทการเข้าไปดำเนินการว่า ในการเลือกตั้งท้องถิ่น ผู้สมัครไม่ต้องสังกัดพรรคการเมือง ซึ่งแตกต่างจากกับการเลือกตั้งระดับชาติที่ผู้สมัครจะต้องสังกัดพรรคการเมือง คณะก้าวหน้าเตรียมบุคคลที่สนใจลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นที่คาดหวังจะเปลี่ยนแปลงทางการเมืองระดับท้องถิ่น โดยเปิดโอกาสให้บุคคลธรรมดาที่ไม่มีชื่อเสียงทางการเมืองหรือเป็นลูกหลานนักการเมืองที่จะเข้ามา เปลี่ยนแปลงการเมืองท้องถิ่นในนามคณะก้าวหน้า โดยไม่ใช่พรรคการเมือง พร้อมยังสะท้อนว่าประเทศไทยไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่นมาแล้ว 7 ปี โดยเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงการเมืองในประเทศสามารถเริ่มด้วยการเปลี่ยนแปลงการเมืองท้องถิ่น พร้อมทั้งเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจมาร่วมกันกับคณะก้าวหน้าหากต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองท้องถิ่น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"