รุมอัด'แรมโบ้'โอ่อีเวนต์แดง


เพิ่มเพื่อน    


    ทัวร์ลง "แรมโบ้อีสาน" จัดอีเวนต์เบิกเงินคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดง สามัคคีถล่มกันพรึ่บทั้ง "ศรีสุวรรณ-แกนนำ นปช.-บ.ก.ลายจุด" ปรามาสไม่ได้มีราคาขนาดนั้น ขณะที่ "จตุพร" รูดซิปปากปมนิรโทษกรรม ย้ำสัญญาณอันตรายประเทศไทยเดินมาถึงจุดเกิดวิกฤติสูงสุด
    เมื่อวันอาทิตย์ นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย และหนึ่งในแกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ไปเป็นประธานรับมอบคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ 17 จังหวัด และมีประชาชนส่วนหนึ่งออกมาต่อต้านและต่อว่านายสุภรณ์ในหลายประเด็นว่า การกระทำของนายสุภรณ์เป็นการจัดอีเวนต์มากกว่า คนที่มาก็ไม่กี่คน และก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แค่ทำป้ายชื่อจังหวัดแต่ละจังหวัดมาแล้วจัดคนมาถือป้ายเท่านั้น ไม่ได้มีน้ำหนักอะไร และได้ไปทำแบบเดิมที่ภาคเหนือ ประกาศว่าเสื้อแดงภาคเหนือ 17 จังหวัดคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดง จนมีพี่น้องกลุ่มหนึ่งออกมาต่อต้านประท้วง
     "ในฐานะผู้ประสานงาน นปช. 19 จังหวัดภาคเหนือ ขอเรียนว่าสิ่งที่นายสุภรณ์กำลังทำ ไม่ทราบว่าจุดมุ่งหมายคืออะไร ต้องการสร้างข่าวหรือต้องการสร้างราคาให้ตัวเอง หรือว่าต้องการทำอีเวนต์แล้วเบิกค่าใช้จ่ายได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นอยากฝากไปถึง พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ว่าหากเงินที่อนุมัติให้นายสุภรณ์เป็นเงินส่วนตัวก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าเป็นงบประมาณซึ่งเป็นภาษีของประชาชน ขอให้ท่านพึงระมัดระวัง เพราะจะเป็นการใช้งบประมาณที่ไร้ประโยชน์ ท่านจะไม่ได้อะไรจากอีเวนต์นี้" นายพิพัฒน์ชัยกล่าว
    นายพิพัฒน์ชัยกล่าวอีกว่า นายสุภรณ์เปลี่ยนฝั่งแทนที่จะนำความจริงไปเป็นเหตุเป็นผลในการแก้ปัญหา กลับนำเอาปัญหามาค้าทำอีเวนต์ นายสุภรณ์เมื่อมีตำแหน่งแทนที่จะช่วยพี่น้องผู้ร่วมอุดมการณ์ตามครรลอง กลับไม่ทำ กลับแสดงอาการเชลียร์จนน่าเอียน ตนเองไม่ได้โกรธเคืองนายสุภรณ์ แต่อยากเห็นนายสุภรณ์เปลี่ยนท่าทีเพื่อตัวนายสุภรณ์เอง และมันจะเป็นประโยชน์กับประชาชนและรัฐบาลด้วย
    ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด หัวหน้าพรรคเกียน นักเคลื่อนไหวและนักกิจกรรมทางการเมือง ระบุว่าคนเสื้อแดงไม่ได้อยู่ที่สีเสื้อ แต่เป็นเรื่องของความคิดนามธรรมและประวัติศาสตร์การต่อสู้ของคนกลุ่มหนึ่ง ถ้าเปลี่ยนความคิดไม่ได้ ลบประวัติศาสตร์ไม่ได้ ก็แค่เปลี่ยนเสื้อ คำถามคือ แรมโบ้อีสานเปลี่ยนความคิดแล้วจริงหรือ เปลี่ยนประวัติศาสตร์การต่อสู้ของตนเองอย่างไร
    "การถอดเสื้อแดงแล้วสวมเสื้อพลังประชารัฐ มันแค่ทำให้คดีความของตนเองมันช้าออกไป ด้วยความเห็นใจและเข้าใจเรื่องของการเอาตัวรอด แต่อย่าคิดไปเปลี่ยนคนอื่นเลย พี่แรมโบ้ไม่ได้มีอิทธิพลหรือราคาขนาดนั้น ผมว่าพี่รู้ดี" นายสมบัติระบุ 
    ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊กโดยมีใจความช่วงหนึ่งว่า "ในเวทีดังกล่าว นายสุภรณ์ได้กล่าวปราศรัยกับแกนนำและสมาชิกที่มาร่วมงานดังกล่าว ความตอนหนึ่งว่า เราจะไม่มีสีเสื้ออื่นๆ นอกจากสีธงชาติ ขาว น้ำเงิน แดง วันนี้ประเทศไทยเราต้องการความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจและรวมพลังคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน เราจะต้องเลิกการทะเลาะ เลิกขัดแย้งกัน หันหน้ามาร่วมมือกับรัฐบาล เพื่อมุ่งสู่การส่งเสริมอาชีพสร้างงานสร้างรายได้ ปลดหนี้ปลดสินให้กับพี่น้องเกษตรกรของเราทุกคน โดยการรวมตัวจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนฯ เรารักประเทศไทย ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ตามศาสตร์พระราชา ถือเป็นสิ่งที่ควรสนับสนุนอย่างยิ่ง และตนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลก็พร้อมจะเข้ามาดูและให้กลุ่มได้ขับเคลื่อนเดินหน้าในอาชีพให้มีรายได้มากขึ้นต่อไป"
    นายศรีสุวรรณระบุอีกว่า "คำพูดนายสุภรณ์ดูสวยหรูมาก แต่เวลาอยู่นอกเวทีเมื่อเผชิญหน้ากับแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ที่ยังยึดมั่นไม่เนรคุณต่อทักษิณและไม่คิดแปรพักตร์ ไม่คิดคืนป้ายเสื้อแดงเพราะทักษิณอยู่ในหัวใจแล้ว นายสุภรณ์กลับเฉไฉตอบว่าเรื่องการเมืองเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน ใครจะยืนหยัดในจุดเดิมอย่างไร จะไม่ก้าวล่วง และไม่เคยรังเกียจคนเสื้อแดง ซึ่งดูจะย้อนแย้งกับการออกมาเคลื่อนไหวผลักดันให้มีการคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงและรับมอบธงหมู่บ้านวิสาหกิจฯ เรารักประเทศไทยอย่างน่าสงสัย การจัดกิจกรรมคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงดังกล่าวจึงเป็นข้อสงสัยว่า ถ้าหมดยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์แล้ว นายสุภรณ์และพวกจะยังคงไว้ซึ่งอุดมการณ์สมานฉันท์ตามแนวทาง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่คิดแปรพักตร์อยู่อีกหรือไม่" นายศรีสุวรรณระบุ 
    อย่างไรก็ตาม นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ตอบโต้นายศรีสุวรรณว่า กรณีนายศรีสุวรรณเป็นห่วงการคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดง เป็นหมู่บ้านเรารักประเทศไทย และฟื้นฟูวิสาหกิจชุมชนฯ เรารักประเทศไทย ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงแบบทฤษฎีใหม่ตามศาสตร์พระราชา เพื่อให้พี่น้องพึ่งพาตนเองและจะนำไปสู่แนวทางรวมไทยสร้างชาติ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้นั้น เรื่องนี้ตนเองขอขอบคุณนายศรีสุวรรณที่เริ่มเข้าใจเจตนารมณ์ที่แท้จริงของรัฐบาล แสดงว่านายศรีสุวรรณมีชุดความคิดที่สร้างสรรค์แล้ว
    "คุณศรีสุวรรณไม่ต้องห่วง เพราะว่าการสร้างความปรองดองไม่ได้เกิดจากการพูดหรือคิด แต่เกิดจากการกระทำ วันนี้ผมในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ ได้เดินหน้าลงมือทำแล้ว ถ้าไม่เริ่มต้นวันนี้จะเริ่มต้นวันไหน ดีกว่าที่ไม่ได้เริ่มต้นเลย จึงไม่ต้องห่วงว่าจะทำแค่สร้างภาพชั่วครู่ชั่วคราวแล้วเลิกทำ  ผมไม่มีความคิดเช่นนั้นแน่นอน เพราะเราทำแบบมั่นคงยั่งยืนเพื่อให้ประชาชนมีความสุขและอยู่ดีกินดี"  นายสุภรณ์กล่าว
    นายสุภรณ์กล่าวอีกว่า การที่นายศรีสุวรรณสงสัยกลุ่มของนายอานนท์ แสนน่าน เรื่องฟาร์มสุขใจนั้น ตนไม่รู้จักและสนิทกับบุคคลดังกล่าว ถ้าอยากทราบข้อเท็จจริงควรให้นายศรีสุวรรณมานั่งคุยกับนายอานนท์เอาเอง ตนเชื่อว่านายศรีสุวรรณจะช่วยคิดหาแนวทางช่วยประชาชนร่วมกันได้มากกว่าการเที่ยวร้องไปทั่ว
    "นายกฯ ได้กำชับเสมอว่า แนวทางสร้างความปรองดองจนนำไปสู่การรวมไทยสร้างชาติ ไม่ใช่จะทำแค่วันเดียวจบหรือทำวันเดียวสำเร็จ ต้องใช้เวลา ส่วนคนเสื้อแดงหรือสีเสื้อต่างๆ ที่ยังไม่ได้มาร่วมมือร่วมใจกันนั้นต้องให้เวลา ผมจะเป็นตัวกลางคอยประสานเพื่อให้ทุกอย่างบรรลุตามวัตถุประสงค์ เมื่อท่านนายกฯ หรือผมพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ไปแล้ว แต่ความปรองดองจะยังคงอยู่อย่างมั่นคงยาวนานแน่นอน ถ้าประชาชนทุกคนร่วมมือกันโดยเอาสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจแห่งความสามัคคีของคนในชาติ" นายสุภรณ์กล่าว
    วันเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวถึงเรื่องนิรโทษกรรมในคดีการเมืองว่า ไม่สามารถพูดเรื่องนี้ได้เพราะเป็นผู้มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง แต่ดูข้อมูลในประเทศไทยพบว่ามีการนิรโทษกรรม 23 ครั้ง แบ่งเป็นพระราชบัญญัติ 19 ฉบับ และพระราชกำหนด 4 ฉบับ ตั้งแต่ยุคสมัยคณะราษฎร จนถึงฉบับที่ 23 
    "ส่วนตัวไม่สามารถพูดได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่ แต่จะบอกว่าโทษถึงตายกันทั้งนั้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ของประเทศขณะนี้ ต้องกลับไปคิดว่าเราจะพกความขัดแย้งอย่างรุนแรงต่อไปอีกหรือไม่  เพราะประเทศไทยเดินมาถึงจุดที่กำลังจะเกิดวิกฤติสูงสุด" นายจตุพรระบุ.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"