
16 ก.ค.63- ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์หลังสืบพยานฝ่ายโจทก์นัดที่ 2 ในคดีนปช.จัดชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครั้งแรกเมื่อปี 2552
นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ยังคงเป็นการเบิกพยานฝ่ายโจทก์ คือ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ซึ่งขณะนั้นเป็น ผบ.เหตุการณ์ โดยพล.ต.ต.วิชัย มีเวลาเฉพาะช่วงเช้าของแต่ละวัน เนื่องจากมีภารกิจที่จะต้องดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการเเพร่ระบาดของโควิด-19
โดยภารกิจโควิดนั้น ทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยเห็นพ้องต้องกัน พร้อมทั้งศาลอนุญาตให้ยกเลิกนัดในช่วงบ่าย แล้ววันพรุ่งนี้จะมาสืบพยานฝ่ายโจทก์กันต่อ หลังจากนั้นจะมีการสืบพยานอีกครั้งในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ต่อด้วยวันที่ 4-5-6 สิงหาคม ต่อไป ซึ่งจะมีการพิจารณาอย่างต่อเนื่องทุกเดือนจนกระทั่งถึงปี 2564 ดังนั้นเป็นภารกิจของทีมกฎหมายทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย
ส่วนความคืบหน้าและโอกาสของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.จะได้ไปร่วมงานศพคุณพ่อนั้นตนย้ำว่า ที่ผ่านมีตัวอย่างที่กรมราชทัณฑ์อนุญาตโดยเฉพาะความตายของพ่อและแม่เท่านั้น โดยอดีตมีการอนุญาตให้ผู้ต้องขังไปร่วมงานศพได้ แต่จะมีระเบียบควบคู่กัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมราชทัณฑ์และเรือนจำ
นายจตุพร ย้ำว่า ตนมีความเข้าใจดี เเม้ว่าทั้งพ่อและเเม่ของตนไม่อยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญคือ ลูกต้องได้รับโอกาสมาร่วมงานศพของพ่อ อีกทั้งยังมีกรณีเทียบเคียงของ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ถูกคุมขังในระหว่างพิจารณาคดีในขณะนั้นได้รับอนุญาตให้ไปสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ได้ รวมถึงมีการเทียบเคียงจำเลยในคดีอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตให้ไปร่วมงานศพของบิดา แต่อาจจะมีความแตกต่างกันในบางเรื่อง”
“หวังว่าจะได้รับความเมตตาจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รวมถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษ ได้โปรดให้ความเมตตานายณัฐวุฒิ ได้มาร่วมงานศพของคุณพ่อ และเชื่อว่าไม่มีฝ่ายใดจะคัดค้านเพราะเป็นอารมณ์ของมนุษย์ รวมถึงอยากให้ผู้มีอำนาจได้ยินเสียงนี้ ว่าได้โปรดให้โอกาสเถอะ”
ส่วนกรณี 4 กุมารแถลงลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีในช่วงเช้าวันนี้ โดยอ้างเพื่อลดเเรงกดดันทางการเมืองและเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีปรับคณะรัฐมนตรีนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ตนเชื่อตามที่เป็นข่าว เพราะไม่มีเหตุผลใดๆที่จะต้องอยู่ต่อไป และจะยื้อไปทำไม ดังนั้นก็ควรจะจากกันด้วยดี เมื่อมาด้วยกันก็ไปด้วยกัน ก็ทำถูกแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น การปรับคณะรัฐมนตรีแต่ละคนก็มีความอึดอัด และเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คงไม่อยากมีศัตรูเพิ่มจากมิตร เช่น กรณีปรับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ออกและเชิญ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้ามา
“นี่เป็นวิธีที่ดีแล้วกับสถานการณ์แบบนี้ ส่วนจะเป็นใครมาเข้าบริหารเศรษฐกิจแทนนั้น ผมยังเชื่อว่า ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ ยังเป็นโจทย์ยากกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นโจทย์ยากจริงๆ”ประธานนปช.กล่าว.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |