ในบรรยากาศแย่งชิงตำแหน่งอำนาจของพรรคการเมืองต่างๆ แต่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ภายใต้การนำของ หัวหน้าหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข อาจเรียกได้ว่าชิลสุดๆ

            ด้วยการบริหารของหัวหน้าและเลขาธิการพรรคที่วางหลักการไว้ คือ ยึดมั่นวินัย รักษาคำพูด และมีความเป็นกันเอง ใครมีปัญหาอะไรสามารถเข้าหาแกนนำพรรคได้โดยตรงเพื่อนำไปสู่การแก้ไข

            จึงส่งให้ รมต. 7 เสียงและ ส.ส.ของพรรค 61 เสียงไม่มีมุ้ง และออกไปทำงานแก้ปัญหาปากท้องหลังยุคฟื้นฟูไวรัสโควิดได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังในการปรับ ครม.เช่นพรรคอื่นๆ

            นอกจากการแก้ปัญหาความยากจนที่เป็นเรื่องหลักของพรรคแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ "คนเลือดน้ำเงิน"  ไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด คือเรื่องทุจริต

            เห็นได้จาก หัวหน้าอนุทิน ในบทบาทรัฐมนตรีว่าการ สธ. ตั้งแต่รับตำแหน่งมาร่วมปี หากมีเรื่องอื้อฉาวใดๆ เกิดขึ้น เจ้าตัวจะไม่เพิกเฉยและแก้ปัญหาโดยด่วน

            อย่างเช่นล่าสุดพบเรื่องทุจริตของคลินิกชุมชนอบอุ่น 18 แห่ง เบิกงบสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เกินตรวจจริง มูลค่าความเสียหาย 74 ล้านบาท

                อนุทิน ส่งสัญญาณ ”อย่างชัดถ้อยชัดคำกลางที่ประชุม สปสช.เมื่อเร็วๆ นี้ว่า...'เรื่องนี้ผมไม่จบนะครับ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องสืบสวนไปให้ถึงต้นตอว่าเกิดอะไรขึ้น'..."

            จึงอยากให้ สปสช.หาช่องทางเอาเรื่องผู้กระทำความผิดอย่างรุนแรงและเด็ดขาด ทั้งทางแพ่งและอาญามากที่สุดเท่าที่จะทำได้

            ท่านผู้บริหารบอกว่าได้ดำเนินการ ชะลอ จ่ายค่าบริการทางการแพทย์จากเงินที่ 18 คลินิกเอกชนพึงได้ในปี 2563 ไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ในความเห็นของตนควรจะต้อง "ระงับ" ไปเลย ไม่ใช่แค่ ชะลอ เพราะมีการทุจริตเกิดขึ้นแล้ว

                “หลักของผมคือทำแบบนี้คบกันต่อไปไม่ได้” รมต.หนูระบุอย่างจริงจัง

            จุดยืนนี้สะท้อนให้เห็นว่า "อนุทิน" ต้องการสะบั้นความสัมพันธ์กับคนโกงทุกกรณี ให้หมดสิ้นไปจากกระทรวงหมอ.

 สิงห์คลองเตย