จับ11โจ๋เหิมบุกรพ. ไล่ชกหมอพยาบาล


เพิ่มเพื่อน    


    วัยรุ่น 2 กลุ่มยกพวกตะลุมบอน ฝ่ายหนึ่งถูกแทงไปเสียชีวิตที่ รพ.เอกชน พรรคพวกเหิมหนัก ไล่ชกหมอหญิงกับพยาบาลหาช่วยเหลือช้า ก่อนที่จะตามไปล้างแค้นคู่อริที่ไปรักษาตัวอีก รพ. บุกทำร้าย ทำลายข้าวของภายในห้องฉุกเฉินก่อนหลบหนี ตำรวจตามลากคอได้ทั้งชายหญิง 11 คน อัยการเตรียมจัดเต็มบรรยายฟ้องให้ศาลลงโทษบทหนักที่สุด
    เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล 2 แห่งพื้นที่ใกล้เคียงกัน โดยสถานที่แรกเป็นห้องฉุกเฉิน รพ.วิภารามชัยปราการ หลังกลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคนบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายแพทย์และพยาบาลภายในห้องฉุกเฉิน ขณะที่แพทย์และพยาบาลกำลังช่วยเหลือนายรัชต์พงษ์ วาสนา อายุ 23 ปี ซึ่งถูกของมีคมแทงเข้าบริเวณราวนมล่างและไหปลาร้าข้างขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส
    โดยระหว่างที่ทีมแพทย์กำลังจัดเตรียมเครื่องมือช่วยเหลือนายรัชต์พงษ์อยู่นั้น ปรากฏว่ากลุ่มเพื่อนของนายรัชต์พงษ์เกิดความไม่พอใจทีมแพทย์ที่ช่วยเหลือเพื่อนล่าช้า จึงยกพวกบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายแพทย์หญิงและเจ้าหน้าที่พยาบาลภายในห้องฉุกเฉิน ทำให้แพทย์หญิงคนหนึ่งถูกชกจนบาดเจ็บ ต้องวิ่งหนีออกจากห้องฉุกเฉิน ขณะที่ทีมแพทย์และพยาบาลที่เหลือพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิตนายรัชต์พงษ์ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ จากนั้นตำรวจจึงเข้าระงับเหตุ ทำให้ฝ่ายผู้ก่อเหตุพากันแยกย้ายหลบหนี
    นอกจากนี้ยังเกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นที่ รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าฯ โดยกล้องวงจรปิดหน้า รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าฯ จับภาพเอาไว้ได้อย่างชัดเจน มีกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าห้องฉุกเฉิน ก่อนกรูเข้าไปภายในท่ามกลางสายตาของผู้มาใช้บริการ ขณะที่ภาพวงจรปิดภายในห้องฉุกเฉินของทางโรงพยาบาลจับภาพนาทีชีวิตทั้งแพทย์และพยาบาลต้องหาที่กำบัง ขณะที่ทีมแพทย์กำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 2 คน 
    นางพยาบาลที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าฯ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. มีผู้บาดเจ็บถูกแทงมาเข้ารับการรักษา และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมา 2 นาย ซึ่งขณะนั้นวุ่นวายพอสมควร เพราะมีเพื่อนๆ ของผู้บาดเจ็บมาด้วยหลายคน หลังแพทย์ให้การรักษาผู้บาดเจ็บเสร็จประมาณ 20.00 น. พรรคพวกฝ่ายคู่กรณีก็ขี่รถจักรยานยนต์ตามมากว่า 20 คัน ก่อนจะกรูกันเข้าไปใน รพ. โดยมีอาวุธทั้งไม้เบสบอล เก้าอี้ และไม้ม็อบถูพื้น ไล่ทำร้ายเพื่อนของผู้บาดเจ็บ ซึ่งพากันหนีเข้ามาในห้องฉุกเฉิน กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงติดตามเข้าไปไล่ทำร้าย ทั้งตีและขว้างปาข้าวของ เจ้าหน้าที่ในห้องเกรงว่าจะมีการตามขึ้นไปทำร้ายผู้บาดเจ็บที่ขึ้นไปพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้นบน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ปิดลิฟต์ขึ้นลงอาคาร เหตุเกิดนานเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุจะพากันหลบหนีไป
    ขณะที่ นพ.รังษี ธีระศิลป์ ผู้ช่วย ผอ.รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าฯ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่มทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน วัยรุ่นกลุ่มแรกมีผู้บาดเจ็บถูกแทงอาการสาหัส เข้ารับรักษาตัวที่ รพ.วิภารามชัยปราการ ส่วนกลุ่มที่ 2 เข้ารับรักษาตัวที่ รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าฯ ซึ่งห่างกันเพียง 500 เมตร การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และสร้างความเดือดร้อน โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ ทุกคนมีอาการหวาดกลัว
    นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานใน รพ.วิภารามชัยปราการ และ รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าสมิงพราย เบื้องต้นพบว่ามีการทำร้ายบุคลากรใน รพ.วิภารามชัยปราการ โดยมีแพทย์ได้รับบาดเจ็บ 1 คน เจ้าหน้าที่เอกซเรย์ 1 คน และพนักงานขับรถ 1 คน ส่วน รพ.เมืองปู่เจ้าสมิงพรายเป็นเรื่องของทรัพย์สินเสียหาย 
    พ.ต.ท.สุเมธ สาลี สว.สส.สภ.สำโรงใต้ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงหัวค่ำที่บริเวณบ้านเลขที่ 111/1 หมู่ 10 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ กลุ่มของนายแฮ็ก (กลุ่มเด็กมหาวงษ์) ได้มีปากเสียงชกต่อยกับนายแจ๊ค (กลุ่มเด็กซอยโรงเหล็ก) นายแฮ็กจึงไปตามนายรัชต์พงษ์ หรือคิว วาสนา อายุ 22 ปี ผู้ตาย และพวกอีกประมาณ 8-9 คนให้มาช่วย และเกิดการชุลมุนกันอยู่พักใหญ่ นายรัชต์พงษ์ถูกของมีคมแทงเข้าที่บริเวณราวนมข้างขวา จำนวน 1 แผล แต่เลือดไม่ออก โดยนายรัชต์พงษ์หมดสติ ถูกนำส่ง รพ.วิภารามชัยปราการ และเสียชีวิต โดยพรรคพวกของผู้ตายติดตามมาจำนวนหลายสิบคน และทราบว่าคนทำร้ายคือนายธนพล หรือแจ๊ค ทองชัยยะ อายุ 21 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณศีรษะ ปาก และแขนซ้าย และเข้ารักษาตัวที่ รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าฯ จึงได้ยกพวกไปก่อเหตุที่ รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าฯ อีกจนมีผู้บาดเจ็บ 
    มีรายงานต่อมาว่า เวลา 12.30 น. วันที่ 20 กรกฎาคมนี้ พ.ต.ท.สุเมธ สาลี สารวัตรสืบสวน สภ.สำโรงใต้ นำกำลังไปจับกุมผู้ต้องหาที่บ้านพักภายในซอยวัดมหาวงษ์ ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 11 คน ทั้งชายหญิง โดย 3 ใน 11 เป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่ปรากฏในคลิปวงจรปิดภายในห้องฉุกเฉินทั้ง 2 โรงพยาบาล ประกอบด้วย นายภาณุวัฒน์ หรือกั๊ก สุขแย้ม ผู้ต้องหาที่ชกต่อยแพทย์หญิงและบุรุษพยาบาล, นายนิพล หรือมิน วันชม อายุ 23 ปี ก่อเหตุชกต่อยแพทย์หญิง, นายกานต์ หรือออม แสงชัย อายุ 21 ปี ก่อเหตุชกต่อยเจ้าหน้าที่ รพ. ภายในห้องฉุกเฉินของ รพ.วิภารามชัยปราการ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือเป็นผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ โดยตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีทั้งหมดในข้อหา “ร่วมกันชุลมุนต่อสู้กัน เป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ” และ “ร่วมกันบุกรุกสถานพยาบาลในยามวิกาล, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ”
    ทางด้าน รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าฯ ได้มอบหมายให้นายศิริเดช มีศิริ ผู้จัดการทั่วไป ไปแจ้งความที่ สภ.สำโรงใต้ เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ส่วนทรัพย์สินที่เสียหายอยู่ระหว่างตรวจสอบราคาค่าซ่อมแซมอยู่
    นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า คดีทำร้ายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล พนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลขอให้ลงโทษสถานหนักและไม่รอลงอาญามาหลายสำนวนแล้ว เพราะโรงพยาบาลควรเป็นสถานที่ซึ่งปลอดภัยที่สุด คราวนี้กลับกระทำต่อบุคลากรทางการแพทย์ ถือเป็นเรื่องร้ายแรง ใครคิดกระทำอีกขอให้เลิก ที่ผ่านมามีคดีวัยรุ่นเมาในสถานบันเทิง ชอบใช้กำลังโดยเฉพาะในโรงพยาบาล พวกนี้อยากกร่างก็ให้สุด แต่ให้ไปหยุดที่เรือนจำ อัยการฟ้องหนักแน่ เตรียมก้มหน้ารับกรรมที่ก่อไว้ 
    "โรงพยาบาลต้องเป็นสถานที่กู้ชีพฉุกเฉิน ช่วยเหลือผู้ป่วย และปลอดภัยสำหรับทุกฝ่าย พฤติกรรมใหญ่โต ทำทรัพย์สินของราชการเสียหาย ตีทำร้ายในโรงพยาบาล เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจที่สุด ที่ผู้ปกครอง พ่อแม่ของวัยรุ่นทั้งหลาย ควรกำชับและดูแลลูก ถ้าคุณไม่อยากเดือดร้อนเพราะลูกที่เกเรของคุณเอง โรงพยาบาลมีกล้องวงจรปิด จากนี้ไปกล้องและพยานบุคคลต่างๆ จะเป็นหลักฐานเอาผิดกับวัยรุ่นที่กร่างให้สุด จะได้ไปอยู่ที่เรือนจำ เหมือนวัยรุ่นที่ก่อเหตุที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ อัยการจะพิจารณาบรรยายฟ้องถึงพฤติกรรมที่ท้าทายกฎหมาย ใหญ่โต ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก หรือฟ้องขอให้เพิ่มโทษหากมีประวัติเก่ามาแล้ว" นายโกศลวัฒน์กล่าว
    ส่วน พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ขอให้ผู้ดูแลกฎหมายดำเนินการตามกฎหมาย และสร้างขวัญกำลังใจของบุคลากรการแพทย์ด้วย เพราะตอนนี้ต่างขวัญเสียมาก ครั้งนี้เป็นเรื่องน่าตกใจที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเอกชนด้วย ดังนั้นอาจจะต้องมีการพูดคุยกันต่อไปว่าจะต้องมีมาตรการควบคุมเรื่องความปลอดภัยในโรงพยาบาลเอกชนด้วย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเกิดในโรงพยาบาลเอกชน. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"