ปปช.เชือด‘เมียสมศักดิ์’ ฟันปูกับพวกฮั้วงบพีอาร์


เพิ่มเพื่อน    

 "เมียสมศักดิ์-อนงค์วรรณ" ไม่รอด ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาทุจริตคดีฝายแม้ว 770 ล้านบาท สมัยเป็น รมว.ทรัพยากรฯ งบพีอาร์ Roadshow-เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ทำ "นิวัฒน์ธำรง อดีตรองนายกฯ และสุรนันทน์-อดีตเลขาธิการนายกฯ"  ไม่รอด เสี่ยงตกเป็นจำเลยศาลฎีกาคดีอาญาฯ ตามลูกพี่ยิ่งลักษณ์

    เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อนุมัติและดำเนินการจัดนิทรรศการ การสัมมนา และการโฆษณาประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ “โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020” โดยมิชอบ
    โฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.กล่าวว่า เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงฟังได้ว่า หลังจากคณะรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา กล่าวถึงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางรางระบบรถไฟทางคู่เชื่อมชานเมืองและหัวเมือง ศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูง จากนั้นรัฐบาลได้มีการยกร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ หรือร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มีดำริให้จัดนิทรรศการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชน ภายใต้ชื่อ “โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020”
    นายนิวัติไชยกล่าวอีกว่า ปรากฏว่าในการดำเนินการโครงการดังกล่าว มีการอนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น วงเงิน 40 ล้านบาท เพื่อจัดโครงการในจังหวัดหนองคายและนครราชสีมา ทั้งที่ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ยังไม่ผ่านสภา อีกทั้งการจัดโครงการประชาสัมพันธ์ไม่ใช่ความเร่งด่วนที่จะต้องใช้งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น โดยสื่อสิ่งพิมพ์ฉบับหนึ่งเป็นผู้รับจ้างจัดโครงการดังกล่าว โดยกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจนถึงขั้นตอนการลงนามในหนังสือสั่งจ้างใช้เวลาดำเนินการเพียง 2 วันเท่านั้น ต่อมานายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกันอนุมัติหลักการจัดโครงการ Roadshow อีก 10 จังหวัดที่เหลือ วงเงิน 200 ล้านบาท โดยตกลงแบ่งงานให้สื่อสิ่งพิมพ์ 2 บริษัท บริษัทละ 5 จังหวัด ซึ่งกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจนถึงขั้นตอนการลงนามในหนังสือสั่งจ้างใช้เวลาดำเนินการเพียงวันเดียวเท่านั้น และพบว่าการลงนามในหนังสือสั่งจ้างได้กระทำไปก่อนที่ได้รับเงินประจำงวดจากสำนักงบประมาณ ทั้งที่ส่วนราชการทราบดีว่าการลงนามในหนังสือสั่งจ้างได้ก็ต่อเมื่อสำนักงบประมาณได้แจ้งจัดสรรเงินงบประมาณ (ใบงวดงาน) มาให้แล้วเท่านั้น ภายหลังจึงมีการเสนอ ครม.ให้ยกเว้นการลงนามในหนังสือสั่งจ้างก่อนใบงวดงาน
    นายนิวัติไชยกล่าวอีกว่า ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ มีผลให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นอันตกไป ทำให้โครงการต่างๆ ตามที่ได้ออกไป Roadshow มิได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด การใช้งบประมาณในโครงการ Roadshow จำนวน 240 ล้านบาท จึงเกิดความสูญเปล่า เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย
    "คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์, นายนิวัฒน์ธำรง และนายสุรนันทน์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และ 157 และ พ.ร.บ.ป.ป.ช. และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ 2542 มาตรา 12 และ 13" นายนิวัติไชยกล่าว
    นายนิวัติไชยแถลงต่อไปว่า ส่วนการกระทำของของสื่อ 2 ฉบับ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา และตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐฯ ป.ป.ช. จึงให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป
    ด้านนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวถึงการแถลงดังกล่าวของ ป.ป.ช. ตอนหนึ่งว่า "ขอยืนยันว่าการดำเนินการใดๆ ในตำแหน่งหน้าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และด้วยความระมัดระวัง อย่างรอบคอบ ยึดถือกฎหมายและระเบียบ รวมถึงนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งมั่นและคำนึงถึง ประโยชน์ของรัฐและประชาชนเป็นที่ตั้ง การปฏิบัติหน้าที่ของผม ในส่วนที่เกี่ยวกับขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ผมได้ยึดถือ และปฏิบัติตาม ระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัดทุกประการ
    ภายหลังที่พ้นจากตำแหน่งแล้วได้มีการตรวจสอบจากคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ  และสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมีข้อสรุปว่าการจัดจ้างดำเนินโครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020 ถูกต้อง และได้อนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณตามโครงการดังกล่าว โดยไม่มีหน่วยงานใดทักท้วง"
    อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีระบุอีกว่า "เชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมขั้นต่อไป ทั้งสำนักงานอัยการสูงสุดและกระบวนการทางศาล จะให้ความเป็นธรรมและประสาธน์ความยุติธรรมแก่ผมและผู้ที่ถูกกล่าวหาท่านอื่นด้วย อย่างแน่นอน"
    นอกจากนี้ มีรายงานว่า จากกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเมื่อปี 2555 กรณีกล่าวหานางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับพวก กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เกี่ยวกับโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรดินและป่าไม้ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อลดผลกระทบภาวะวิกฤติโลกร้อน (ฝายแม้ว) วงเงินงบประมาณปี 2551 จำนวน 770 ล้านบาท กรณีการก่อสร้างฝายต้นน้ำแบบผสมผสานและการเพาะชำ/ปลูกหญ้าแฝกโดยมิชอบ และหักเงินโครงการดังกล่าว เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการนั้น
    ล่าสุด เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการรวบรวมข้อมูลหลักฐานเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาแล้ว มีมติแจ้งข้อกล่าวหานางอนงค์วรรณ เพื่อให้มีหนังสือรับทราบ และให้เข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
    นอกจากนี้ นายนิวัติไชยแถลงข่าวถึงมติ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทุจริตการเบิกจ่ายเงินงบประมาณอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัด 7 แห่ง (คดีเงินทอนวัด) รวมวงเงินเสียหาย 27.5 ล้านบาทว่า คดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายพนม ศรศิลป์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.พศ., น.ส.ประนอม คงพิกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.กองพุทธศาสนสถาน พศ. และนายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.ส่วนบูรณะพัฒนาวัดและศาสนสงเคราะห์ พศ. ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา  ประกอบ พ.ร.บ.ป.ป.ช. กับผู้เกี่ยวข้องทั้งพระและฆราวาส รวม 7 วัด ใน 5 จังหวัด เช่น วัดช้าง ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"