ค่าโง่ "โฮปเวลล์" สู้ไม่ถอย


เพิ่มเพื่อน    

      ยังไม่จบหลังศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น ในคดีหมายเลขดำที่ 107/2552, 2038/2551, 1379/2552 คดีหมายเลขแดงที่ 366-368/2557 ระหว่างกระทรวงคมนาคม ที่ 1 การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ 2 ผู้ร้อง บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คัดค้าน โดยมีคำสั่งไม่รับคำร้องของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอให้พิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ โดยอ้างเหตุว่ามีการรับฟังข้อเท็จจริงผิดพลาดและมีพยานหลักฐานใหม่อันอาจทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป

      คำสั่งดังกล่าวซึ่งมีผลทำให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 119/2547 หมายเลขแดงที่ 64/2551 ลงวันที่ 30 ก.ย.25551 ที่ให้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ คืนเงินค่าตอบแทนที่ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ชำระและใช้เงินในการก่อสร้างโครงการ พร้อมดอกเบี้ยราว 2.4 หมื่นล้านบาท ให้แก่บริษัท โฮปเวลล์ 

      ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุดพิจารณากรณีที่กระทรวงคมนาคมและ รฟท.โต้แย้งเรื่องความสามารถของ บ.โฮปเวลล์ขณะเข้าทำสัญญา ว่าเป็นการดำเนินการของคนต่างด้าวที่ฝ่าฝืนประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281 ลงวันที่ 24 พ.ย.2515 ทั้งที่เอกสารหลักฐานดังกล่าวเป็นเอกสารที่ส่วนราชการสามารถตรวจสอบได้เองในขณะที่เข้าทำสัญญาพิพาท แต่ทั้งกระทรวงคมนาคมและ รฟท.มิเคยโต้แย้งมาก่อน ทั้งในศาลปกครองชั้นต้นและศาลปกครองสูงสุด ซึ่งไม่อาจถือได้ว่าไม่ทราบถึงเหตุนั้น ในการพิจารณาครั้งที่แล้วมา โดยมิใช่ความผิดของผู้ร้อง ถือว่าเอกสารมีอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นหลักฐานที่ปรากฏขึ้นใหม่

      เรื่องนี้ ”ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม ได้พูดถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา  โดยมีคำสั่งไม่รับคำร้องของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอให้พิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ ซึ่งขณะนี้ รฟท.ยังไม่รายงานมาที่กระทรวงคมนาคมอย่างเป็นทางการ ซึ่งจากที่ได้หารือกับฝ่ายกฎหมายเพื่อศึกษาเพื่อหาวิธีการที่จะสามารถดำเนินการได้อีกหรือไม่ โดยพบว่ายังมีกระบวนการที่จะดำเนินการได้ภายในเวลาไม่เกิน 90 วัน 

      อย่างไรก็ตาม ประเด็นตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยถือว่าถึงที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีข้อเท็จจริงอื่นที่อาจร้องขอ พิจารณาคดีใหม่ได้ตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ฝ่ายรัฐอาจยื่นคำร้องต่อศาลปกครองชั้นต้นได้ โดยต้องกระทำภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุนั้น แต่ต้องไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันที่อ่านคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

      โดยนายศักดิ์สยามกล่าวว่า ฝ่ายรัฐจะถือปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลโดยเคร่งครัด ในขณะเดียวกันก็จะแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งได้มีข้อมูลใหม่ในเรื่องความไม่สมบูรณ์ของการจดทะเบียนบริษัทโฮปเวลล์  ซึ่ง รฟท.ได้ให้ทนายความยื่นดำเนินการทางแพ่ง ซึ่งหากการจดทะเบียนไม่สมบูรณ์จะทำให้การทำนิติกรรมสัญญาอาจไม่ชอบ 

      ขณะเดียวกัน มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่ง เมื่อได้มีข้อมูลใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในสำนวนเดิมก็ไปดำเนินการ จึงขอเวลาให้ฝ่ายกฎหมายได้ทำหน้าที่ก่อน ซึ่งมีการชะลอการบังคับคดีอยู่ ทำให้การจ่ายเงินยังชะลออยู่ ยืนยันว่าเราจะทำให้ครบทุกช่องทาง เพราะเรื่องนี้มีค่าชดเชยเป็นเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท หากทำไปครบถ้วนหมดแล้ว คำวินิจฉัยออกมาเป็นอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น

      สำหรับคดีทางอาญาจะดำเนินการด้วย โดยส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ดำเนินการตามขั้นตอน ตอนนี้ถือว่าเรายังมีเวลา และตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน

      อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้จากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ชำระค่าเสียหายให้โฮปเวลล์ วงเงินประมาณ 24,798 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินต้น 11,888 ล้านบาท ดอกเบี้ย 12,910 ล้านบาท เป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการคู่ขนาน โดยตั้งคณะทำงานชุดที่มี นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน

        ทั้งนี้ เพื่อเจรจาเงื่อนไขการชำระค่าเสียหาย เช่น ทยอยผ่อนชำระ ลดดอกเบี้ย ซึ่ง บ.โฮปเวลล์ได้ยื่นข้อเสนอให้กระทรวงคมนาคม และ รฟท.ชำระเงินรวมดอกเบี้ยที่ประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท พร้อมเงื่อนไขที่ต้องอำนวยความสะดวกในการนำเงินออกนอกประเทศ และดำเนินการถอนเรื่องการฟ้องร้อง อุทธรณ์คดีความต่างๆ ให้ยุติทั้งหมด ต้องมาลุ้นกันต่อจากนี้ว่ากระทรวงคมนาคมจะสามารถหาแนวทางเพื่อต่อสู้เพื่อที่จะไม่ต้องให้รัฐสูญเสียค่าเสียหายได้หรือไม่.

กัลยา ยืนยง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"