"รัฐบาล" จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค. พร้อมเชิญชวน ปชช.ทั่ว ปท.ร่วมกิจกรรมจิตอาสา "ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี...เราสร้างไปด้วยกัน"  

    เมื่อวันจันทร์ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28  กรกฎาคม 2563 พร้อมนำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมการจัดกิจกรรมจิตอาสา "ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี...เราสร้างไปด้วยกัน" ณ ท้องสนามหลวง
    นายธีรภัทรกล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 รัฐบาลเห็นสมควรจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน  และประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ และเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย
    สำหรับพิธีและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติโดยภาพรวมนั้น ในวันอังคารที่ 28 ก.ค.63 จัดให้มีกิจกรรมต่างๆ คือ เวลา 07.00 น. พิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ 69 รูปมารับบิณฑบาต ในส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ผู้ร่วมพิธีประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ คณะองคมนตรี ผู้บริหารหน่วยราชการในพระองค์ ผู้บัญชาการเหล่าทัพและตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ
    เวลา 08.00 น. พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน จัดขึ้นภายหลังเสร็จสิ้นพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล ในส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี จากนั้นเวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสา "ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี...เราสร้างไปด้วยกัน" โดยนายกรัฐมนตรีจะประกอบอาหารและแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ไปร่วมกิจกรรม ณ บริเวณเต็นท์ "ครัว ครม." และเยี่ยมชมการจัดกิจกรรมจิตอาสาของหน่วยงานต่างๆ สำหรับในส่วนภูมิภาค ทุกจังหวัดได้จัดกิจกรรมจิตอาสาฯ ด้วยเช่นกัน
    เวลา 18.00 น. พิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม โดยในส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง สำหรับในปีนี้ไม่มีการจัดริ้วขบวน ในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม ในเวลาพร้อมกันกับในส่วนกลาง ส่วนในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีได้ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
    กระทั่งเวลา 19.00 น. พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เป็นพิธีต่อเนื่องจากพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม ในส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี  ขณะที่ในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม ในเวลาพร้อมกันกับในส่วนกลาง และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีได้ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
    จากนั้นภายหลังเสร็จสิ้นพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ร่วมกับ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จัดแสดงโดรนจำนวน 500 ลำแปรอักษรเทิดพระเกียรติ จำนวน 2 ชุด รวม 10 แบบ ณ บริเวณสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งผู้ร่วมพิธีและประชาชนสามารถรับชมการแสดงโดรนดังกล่าวได้ทุกพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวงทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
    นายธีรภัทรกล่าวว่า การจัดกิจกรรมจิตอาสา "ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี...เราสร้างไปด้วยกัน" สืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้เกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลให้ประชาชนประสบปัญหาความเดือดร้อนจากการว่างงาน ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้แต่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต หน่วยงานภาครัฐจึงได้ร่วมกับเอกชนจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน รวมทั้งเพื่อให้เกิดความเข้มแข็งที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ในแบบวิถีชีวิตใหม่
    "การจัดกิจกรรมจิตอาสาขึ้นระหว่างวันที่ 28-31 ก.ค.63 กิจกรรมจะแบ่งเป็น 7 ด้าน คือ ด้านการจัดการภายในชุมชน ด้านการเกษตร ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการฝึกอาชีพ/สาธิต ด้านสุขภาวะอนามัย  และด้านอื่นๆ เช่น การให้ความรู้ การจัดการภายในชุมชน การให้ความรู้ด้านวิชาชีพ การสาธิตการทำอาหาร การทำหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า การฝึกอาชีพต่างๆ การแปรรูปอาหาร การทำรถเข็นสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ การทำตู้อบอาหาร การแจกเมล็ดพันธุ์พืช การบริการตัดผม เป็นต้น" นายธีรภัทรกล่าว
    ปลัดสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในวันพุธที่ 29 ก.ค.63 พิธีเชิญเครื่องราชสักการะและพานพุ่ม เวลา  08.00 น. เป็นพิธีเชิญเครื่องราชสักการะและพานพุ่มจากท้องสนามหลวง โดยมีปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นหัวหน้าคณะเชิญเครื่องราชสักการะและพานพุ่มไปทูลเกล้าฯ ถวาย ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน โดยไม่มีการจัดริ้วขบวน
    "หลังจากการจัดพิธีและกิจกรรมจิตอาสาแล้ว รัฐบาลได้จัดทำสารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 จำนวน 3 ตอน ตอนละ 10 นาที คือ ตอนที่ 1 เรื่องสืบสานงานแผ่นดิน ตอนที่ 2 เรื่องส่งเสริมการศึกษา ศาสนา สาธารณสุข  และตอนที่ 3 เรื่องเสริมสร้างความสุขปวงประชา จึงขอเชิญชวนประชาชนติดตามชมสารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งกำหนดเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์วันละ 1 ตอน ระหว่างวันที่  26-28 ก.ค.63 ช่วงหลังข่าวในพระราชสำนัก" ปลัดสำนักนายกฯ กล่าว.