
20 ส.ค.63 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊กไลฟ์ peace talk โดยวิเคราะห์สถานการณ์ในหัวข้อ อาการน่าเป็นห่วงว่า อาการน่าเป็นห่วงนั้น เป็นระบบคิด วิถีปฎิบัติที่สอดคล้องและยอมรับการเปลี่ยนแปลงด้านการสื่อสารที่จะมาถึง ปรากฎการณ์ของคนหนุ่มสาว เยาวชนที่เคลื่อนไหวทางสังคมขณะนี้ได้เปลี่ยนวิธีคิด และเร่งการแก้รัฐธรรมนูญ จนแทบทุกพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลต่างเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ในเดือนกันยายน จะมีเหตุการณ์ครบรอบทหารยึดอำนาจ 2549 ส่วนเดือนตุลาคมเป็นวันประวัติศาสตร์ของคนหนุ่มสาว มีทั้งการรำลึก 14 ตุลาและ 6 ตุลา
ดังนั้น การนัดชุมนุมคงจะเกิดขึ้นและเป็นเรื่องปกติ เพื่อเร่งให้รัฐทำตามข้อเรียกร้อง สถานการณ์ในขณะนี้ หากแต่ละฝ่ายไม่ลดราวาศอกกัน ย่อมจะเดินไปถึงจุดแตกหักได้ ถ้าทุกฝ่ายช่วยกันคิด ดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญ โดยไม่ชักช้า เพื่อให้คนรุ่นใหม่เห็นถึงความจริงใจ บรรยากาศทางออกน่าจะเกิดขึ้น แต่ถ้าสับขาหลอกกันแล้วคงหนีการมีเรื่องได้ยากที่สุด ทุกฝ่ายต้องช่วยกันคิด โดยเฉพาะท่าทีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการออกมาพบนักเรียนเป่านกหวีด ได้ออกมาคุย รับข้อเรียกร้อง เป็นวิธีการอย่างหนึ่ง แต่ต้องใช้ความจริงใจ เมตตา และประทับใจนักเรียนที่กล้าแสดงจุดยืน ซึ่งเป็นความงดงาม ถ้าเชื่อถึงความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยนี้ เราจะเข้าใจและมีบรรยากาศหาทางออกได้ในที่สุด
ส่วนวิบากกรรมของนักเคลื่อนไหวนั้น ตนย้ำเสมอว่า ต้องน้อมรับชะตากรรม แต่ในการต่อสู้ทางการเมืองไม่น่ามีคนติดคุก หรือบาดเจ็บ ล้มตายกันสักคนเดียว อีกทั้งต้องไม่มีอารมณ์สะใจต่ออีกฝ่าย ซึ่งจะทำให้พื้นที่ความเป็นมนุษย์เหลือน้อยลงไป ดังนั้น หวังว่า วันนี้แกนนำคณะประชาชนปลดแอกทั้ง 4 คนจะได้รับการประกันตัว
นายจตุพรกล่าวว่า ปัจจุบันการเคลื่อนไหวไม่มีแกนนำเด่นชัด ราวกับเป็นการนำหมู่ เกิดคนรุ่นใหม่มาแสดงบทบาทมากมาย กรณีชุมนุมหน้ากระทรวงศึกษาและที่ม.ลาดกระบัง มีคนมาร่วมชุมนุมกันมากเป็นเครื่องสะท้อนได้ดีถึงวิธีคิดการจัดการชุมนุม ดังนั้น จึงอธิบายไม่ได้ว่า เมื่อถูกจับกุมการชุมนุมก็จบ ซึ่งดูแล้วไม่จบแน่นอน การเคลื่อนไหวครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือความชอบธรรมเป็นภูมิต้านทานอย่างแข็งแรง ส่วนตนแค่ทำหน้าที่ประคับประคองสถานการณ์ จึงส่งเสียงทักเป็นระยะๆ เนื่องจากเข้าใจการเคลื่อนไหวตามสิทธิเสรีภาพของรัฐธรรมนูญที่เป็นเกราะคุ้มครองไว้
“กระบวนการรัฐสภา แก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องดำเนินการให้ทันสถานการณ์ ยิ่งช้า คนหนุ่มสาวยิ่งโต ถ้าทำแล้วพิสูจน์ได้ว่า ข้อเรียกร้องเขาได้สัมฤทธิผลแล้ว สามารถตรวจสอบความจริงใจทุกกรณี สิ่งเรียกร้องได้รับตอบสนอง ไม่มีเล่ห์เพทุบายหลอกเด็ก ต้องพิสูจน์ความจริง อย่าคิดว่าตัวเองเหนือกว่า ทำได้เช่นนี้บรรยากาศสันติจะยิ่งเกิดขึ้น เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่บางเรื่องต้องรักษา ส่วนบางเรื่องควรเปลี่ยนแปลงให้เท่าทันกับโลกนี้ได้ หวังว่า คนหนุ่มสาวคงโชคดี รอดพ้นคุกตาราง ตนผ่านมาและไม่ต้องการให้ใครเข้าไปอีก ถ้ามีการจัดการกันอย่างรวดเร็ว ในการแก้ไขปัญหาเพื่อตอบสนองในสิ่งที่เรียกร้องแล้ว เท่ากับทำให้สถานการณ์ที่กำลังร้อนได้เย็นลง แต่ถ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อเขา เล่นเกมกับเขา หลอกเขา ครั้งนี้ปรอทแตกแน่นอน
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |